Untold Story “The Cartiers” Part XIII

และเพื่อเป็นการจับตาดูหลานชายทั้งสอง Pierre ได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการ การจัดการระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากแต่ละสาขา สำหรับการดูแลธุรกิจทั่วโลก ที่แม้ในอดีตพวกเขาจะไม่เคยต้องการมาก่อน แต่สำหรับธุรกิจแบบครอบครัวในรุ่นต่อมา เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนขึ้นมา และในปี 1945 ไม่นานหลังจากที่ Jean-Jacques ปลดประจำการทหารเป็นครั้งสุดท้าย

 

Pierre Cartier with wife and daughter

ได้ขอให้เขาไปอเมริกา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตและดูว่าเขาเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องการบอกเกี่ยวกับความคิดของเขา และสร้างความประทับใจให้ Jean-Jacques ถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกัน ในฐานะธุรกิจระหว่างประเทศซึ่ง CARTIER สาขาลอนดอนไม่ได้มีความสำคัญสำหรับ Pierre เท่ากับ CARTIER สาขาปารีส แต่เขาก็อยากให้มั่นใจว่าหลานชายคนนี้ต้องมีความเข้าใจ สามัคคี ปรองดอง และช่วยทำให้อุปสรรคระหว่างวัยลดลง

 

Screenshot 2565 11 06 at 21.53.38

 

ในฤดูร้อนปี 1947 Pierre และภรรยาออกจากอเมริกา เพื่อเกษียณอายุในสวิตเซอร์แลนด์ ปีนั้นเขาอายุ 69 ปีแล้ว และให้ความระมัดระวังในการที่จะละทิ้งธุรกิจนี้ไว้เบื้องหลัง การโต้แย้งเกี่ยวกับมรดกของ Louis ดูเหมือนจะไม่ใกล้เคียงกับการแก้ปัญหาใดๆ และความสัมพันธ์ของเขากับ Jacqueline และ Claude ก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้น โดยในขณะที่ Pierre กำลังก้าวลงจากตำแหน่ง เขาขอให้ส่งตัวผู้จัดการที่มีฝีมือมากที่สุดที่เขารู้จัก มาที่สาขานิวยอร์กและช่วย Claudel ลูกเขยของเขาดำเนินธุรกิจ และในปีเดียวกันนั้นก็ถือเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง CARTIER ครบ 100 ปีหลังจาก Louis François ก่อตั้งบริษัทขึ้นที่ปารีส โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการ เพื่อฉลองการครบรอบ 100 ปีของบริษัทอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งในแต่ละสาขาก็มีการฉลองของตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน

 

cartier

 

แต่ความสัมพันธ์ในการบริหารงาน ของสาขานิวยอร์กก็ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อ Claude แสดงปฏิกิริยาอย่างรุนแรงต่อ Devaux จากความเย่อหยิ่งของชายหนุ่มวัย 22 ปีที่ขาดความเคารพและไม่สุภาพกับชายวัย 40 ซึ่งอันที่จริงสำหรับ CARTIER แล้วหากขาดพนักงานระดับอาวุโสแบบ Devaux ช่วยเหลือ CARTIER สาขาปารีสก็อาจไม่รอดอยู่ได้ในช่วงสงคราม ส่วน Claude เองก็เริ่มเรียนบริหารธุรกิจที่ฮาร์วาร์ดซึ่ง Pierre ยินดีที่หลานชายของเขาแสดงท่าทางจริงจังมากขึ้น แต่ยังคงความขัดแย้งและรู้สึกว่า Claude ไม่เคารพต่อความปรารถนาของบิดา หรือข้อตกลงระหว่างพี่น้องสามคน โดยช่วงต้นปี 1948 สถานการณ์เริ่มตึงเครียดยิ่งขึ้นเมื่อ Claude ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงบางอย่าง และฝั่งทนายความของ Claude ก็ส่งหมายเตือนถึงการฟ้องร้องถ้า Pierre ยังคงตัดสินใจที่จะบังคับใช้วิธีการบริหารแบบเดิม

 

mannequin

 

และเมื่อไม่มีใครต้องการให้เกิดเรื่องอื้อฉาวสู่สาธารณะ Pierre จึงเสนอทางเลือกอื่นนั่นคือการขายผลประโยชน์ของเขา ในสาขานิวยอร์กยกเว้นตัวอาคาร และแลกเปลี่ยนกับหุ้นครึ่งหนึ่งของพ่อเขาที่สาขาปารีส จนในเดือนมีนาคมปี 1948 ข้อตกลงดังกล่าวก็ได้รับการเห็นชอบจาก Claude และทำให้เขามีอำนาจเด็ดขาดมากขึ้นในอเมริกา ซึ่งแม้ Pierre จะรู้สึกเศร้าที่สาขาครอบครัวซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งจะต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 ปีนับแต่การตายของพี่ชายของเขา ที่ความขัดแย้งได้เกิดขึ้นและกำลังจะจบลง โดยเขาขอให้ Devaux และ Claudel ช่วยดูแลสาขานิวยอร์กต่อไป จนกว่าธุรกรรมด้านกฎหมายจะเสร็จสิ้น หลังจากการเจรจาที่ยากลำบากเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ จนในที่สุดเมื่อ Claude ได้รับตำแหน่งเป็นประธานของสาขานิวยอร์ก Devaux และ Claudel ก็เดินทางกลับสู่ปารีส

 

1200x 1

 

Claude เริ่มจัดการสาขานิวยอร์กในแบบของเขาเองทันที โดยมีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงอยู่ในความไว้วางใจของเขา ซึ่งต่อมา Claude ก็เริ่มมีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดี จากการที่เขาเป็นผู้รักความสนุกสนาน ทั้งการพบปะสังสรรค์ที่ชายหาดและคาสิโนในริเวียร่า รวมไปถึงการใช้จ่ายที่มากจนเกินไป การยืมเงินในสาขาปารีสเพื่อไปพักร้อน หรือการให้ทางสาขานิวยอร์กจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้ซึ่ง Pierre โกรธหลานชายของเขามาก และหวังว่าหลานชายของเขาจะจดจำ และเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตของเขา แต่ตรงกันข้ามในขณะที่ Claude ก็รู้สึกขุ่นเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การได้รับจดหมายเทศนาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ Claude ได้รับมรดกมหาศาลจากบิดาผู้ล่วงลับแต่ Jean-Jacques กลับต้องทำงานหาเลี้ยงชีพอย่างหนัก

 

7. JC and Nelly in Indian palace 474x363

 

ซึ่ง Nelly แม่ของเขา แม้จะเป็นผู้หญิงที่มีฐานะมั่งคั่งมาก แต่เธอก็เชื่อเช่นเดียวกับที่ Jacques เชื่อ ว่าลูกๆ ของพวกเขาไม่ควรได้รับความมั่งคั่งนี้มากจนเกินไป Jean-Jacques ไม่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนราคาแพงเลย และเขาก็ต้องประหยัดเงินเมื่อต้องการซื้อเครื่องประดับให้ภรรยา ซึ่งด้วยแนวคิดเหล่านี้ร่วมกับความมุ่งมั่นในงานของเขาที่เห็นได้ชัด Jean-Jacques จึงค่อยๆ ได้รับความชื่นชมจากพนักงานมากขึ้นๆ และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เติบโตขึ้นมามีบทบาทในฐานะผู้นำ ซึ่งแม้เขาอาจจะไม่เคยเทียบได้กับพ่อของเขา แต่เขาก็ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากในแบบของเขาเอง โดย Jean-Jacques ได้ใช้รูปแบบ วิธี และกระบวนการในด้านการทำงาน ที่เข้มงวดเช่นเดียวกับ Jacques เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีเฉพาะสินค้า ที่มีคุณภาพสูงสุดเท่านั้นที่จะนำมาจัดแสดงในโชว์รูมได้

 

640px The National Archives UK CO 1069 157 23

 

พิธีราชาภิเษกถือเป็นงานใหญ่สำหรับ CARTIER นับตั้งแต่กษัตริย์ Edward VII ขึ้นครองราชย์ในปี 1902 จนไปถึงการราชพิธีของกษัตริย์ George VI ในปี 1937 ที่สาขาปารีสและนิวยอร์ค ต่างก็มองด้วยความอิจฉา เนื่องจาก CARTIER สาขาลอนดอนท่วมท้นด้วยคำสั่งซื้อ ทั้งสร้อยคอและมงกุฎขนาดใหญ่ แม้ปี 1953 ซึ่งเป็นปีแห่งพิธีราชาภิเษกของราชินี Elizabeth II ที่ไม่ได้รุ่มรวยเช่นเดิมเนื่องจากอัตราการขึ้นภาษีที่สูงขึ้น แต่ก็มีการใช้เข็มกลัดที่ CARTIER ได้รับมอบหมายให้สร้างขึ้น ประกอบกับเพชรสีชมพูขนาด 54.5 กะรัตที่ได้รับเป็นของขวัญจาก Jhon Williamson นักธรณีวิทยาชาวแคนาดาและนักราชาธิปไตย จากสัมปทานเหมืองแทนซาเนียของเขา โดยทาง CARTIER ได้ทำการเจียระไนให้เป็นเพชรน้ำงามในขนาด 23.6 กะรัตและประดับเข้ากับเข็มกลัดพิเศษ ที่พระองค์ยังคงสวมใส่และใช้งานมาโดยตลอด