Untold Story “The Cartiers” Part X

ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของ CARTIER ที่ในช่วงปี 1925 เมื่อ Alfred เสาหลักของครอบครัวได้จากไปและ Pierre ไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมงานศพของพ่อได้ เนื่องจากติดงานที่สาขาในนิวยอร์ค ซึ่งเขาได้แต่เศร้าใจและติดตามข่าวผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์ และต่อมาภายในหนึ่งเดือนหลังจากได้ยินการจากไปของพ่อ Pierre ก็ได้รับโทรเลขซึ่งเป็นข่าวที่น่ายินดีเมื่อ Louis และ Jacqui ประกาศข่าวการกำเนิดของ Claude Cartier ลูกชายที่เฝ้ารอของตระกูลซึ่ง Alfred คงจะพอใจมากที่สุดหากเขายังมีชีวิตอยู่

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.28

 

ช่วงปี 1920s ยังถือเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองอย่างมาก และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ที่มีคนอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่าอยู่ในฟาร์ม โดยยุคทองของศตวรรษที่ 19 ถึงปลายศตวรรษที่ 19 ถูกครอบงำโดยคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งจากรถไฟ เรือ และธนาคาร ทั้งครอบครัวอย่าง Astors, Vanderbilts, Morgans และ Rumseys โดย Pierre เองก็มีความทะเยอทะยานที่จะให้ CARTIER กลายเป็นชื่อเรียกที่คนจดจำได้ในอเมริกา โดยเขาจ้างที่ปรึกษาด้านการตลาด Edward Bernays วัย 31 ปีหรือเรียกกันว่า "บิดาแห่งการประชาสัมพันธ์" หลานชายของ Sigmund Freud เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.19

 

และด้วยคำแนะนำของ Bernays พร้อมทั้งการได้รับการขัดเกลามุมมองทางด้านการตลาด Pierre จึงตระหนักว่าในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ที่ซึ่งกำลังเผชิญกับยุคของการสื่อสารมวลชนจำเป็นต้องมีการโฆษณา รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ สำหรับบริษัทที่จะคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและความพิเศษเฉพาะตัวซึ่ง CARTIER ก็เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มแรกๆ ที่ลงโฆษณาอย่างเป็นทางการว่า "CARTIER, Jewelers at 52nd Street and 5th Avenue” บนซองตั๋วโรงละครซึ่งเทคนิคของ Pierre และ Bernays นี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.10

 

ส่วนทางด้าน Jacques Cartier เขาเคยไปเยือนอียิปต์เป็นครั้งแรกในปี 1911 และเขารู้สึกสนใจเกี่ยวกับประเทศและประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของประเทศนี้ ดังนั้นเมื่อ Howard Carter นักอียิปต์วิทยาได้ประกาศให้โลกรับรู้ในปี 1922 ว่าเขาได้ค้นพบช่องเปิดสู่หลุมฝังศพของ Tutankhamen ด้วยความจริงที่เคยเกิดขึ้นและสมบัติทางศิลปะ ในอดีตอันลึกลับที่ถูกปิดประตูทิ้วไว้นานถึง 3,500 ปี Jacques จึงรู้สึกหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง หลังจากการค้นพบลึกเข้าไปในหุบเขากษัตริย์ของอียิปต์ ที่เป็นเบาะแสของยุคสมัยอันห่างไกลจากปัจจุบัน Jacques จึงไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับแรงบันดาลใจนี้ เพราะนักออกแบบแฟชั่นมากมายก็พบแรงบันดาลใจในลวดลายต่างๆ เช่น ลวดลายดอกบัว สีสันสดใสของภาพวาด และเสื้อผ้าที่ประดับด้วยลูกปัดยาว

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.40

Jacques มีความสามารถในการคิดค้นไอเดียที่ไม่เหมือนใคร และสามารถทำตามได้โดยไม่ลดทอนคุณภาพลงโดย Jacques สามารถสร้างชื่อให้ตัวเองได้ดีในลอนดอน เนื่องจากการสร้างสรรค์ของเขาส่วนหนึ่ง คือการพูดคุยที่งานเลี้ยงอาหารค่ำในเมืองและในคฤหาสน์ทั่วประเทศ ที่เขามักจะมีความยืดหยุ่นกับตัวเองและทีมงานของเขาอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการออกแบบใหม่ๆ เช่น แนวคิดในการรวมสร้อยข้อมือเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นวง สำหรับดยุกแห่งยอร์กซึ่งต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ต้องการจะซื้อให้ภรรยาซึ่งนั่นก็คือสร้อยข้อมือแบบอาร์ทเดคโคห้าเส้น ที่แต่ละเส้นจะประกอบด้วยอัญมณีที่แตกต่างกัน ที่ถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของสไตล์ Tutti Frutti ของ CARTIER ที่จะขายได้แม้กระทั่งก่อนงานแฟชั่นโชว์

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.49

 

ในปี 1928 Jacques มีการเสนอให้เพิ่มทุนใน Cartier Ltd. เพื่อที่จะขยายธุรกิจแต่พี่ชายทั้งสองละเลยต่อคำขอของเขาโดย Pierre แย้งว่าน่าจะเป็นไปได้ที่จะหาเงินทุนจากกระแสเงินสด แต่กำไรสุทธิของ Cartier Ltd. ในขณะนั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณการขาย เขาจึงแนะนำ Jacques ว่าควรละเว้นการให้ส่วนลด 10% กับลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่ง Pierre ได้ส่งคนดูแลการเงินจากสาขานิวยอร์ก เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะให้กับสาขาลอนดอน และให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ณ จุดหนึ่ง การควบคุมจากพี่น้องของเขา และการขาดความสนใจในการลงทุนเพื่อการเติบโต ที่เห็นได้ชัดว่ากลายเป็นเรื่องยากและอึดอัดมากขึ้นสำหรับ Jacques จนกลายเป็นการถูกครอบคลุมทางความคิดโดย Louis และ Pierre

 

Screen Shot 2565 10 02 at 00.56.19

 

ซึ่งในที่สุด Jacques ก็นำเงินของภรรยามาซื้อหุ้นในสาขาลอนดอน เพื่อที่เขาจะได้มีอำนาจควบคุมอย่างเต็มที่มากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกหนักแน่นไม่พอ ในการที่เขาต้องการเป็นเจ้าของสาขาแห่งนี้ แต่เมื่อเขามองถึงอนาคตและความต้องการที่จะให้ลูกๆ ของเขาสืบทอด CARTIER สาขาลอนดอน เขาจึงได้เสนอให้พี่น้องได้ทราบถึงจุดประสงค์ดังกล่าว ซึ่งพี่น้องทั้งสองไม่ได้มีข้อผูกมัดใดๆ แต่ต้องการที่จะคุยถึงรายละเอียดที่มากกว่าเดิม โดยการพบปะกันแบบตัวตัวต่อตัว มากกว่าการเจรจาผ่านสัญญาที่ผูกมัดเพียงอย่างเดียว

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.00.58

 

ต่อมาในปี 1929 เกิดวิกฤตภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ที่ซึ่งทั้งสามพี่น้องได้พบกันที่มิวนิคประเทศเยอรมัน เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงสร้างบริษัท และความเป็นไปได้ในการเป็นเจ้าของแต่ละสาขาโดย Pierre และ Louis ยอมตกลงให้ Jaques มีโอกาสที่จะซื้อและมีอำนาจควบคุม CARTIER สาขาลอนดอนได้โดย Jacques สัญญาว่าความร่วมมือที่ซื่อสัตย์ระหว่างบริษัทจะดำเนินต่อไป และเขาจะไม่มีวันทำร้ายความสัมพันธ์ของครอบครัวอย่างแน่นอน ซึ่งต่อมาข้อตกลงดังกล่าวจึงได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ และข้อตกลงใหม่นี้จะทำให้พี่น้องแต่ละคน มีอิสระในการตัดสินใจในด้านต่างๆ มากขึ้น ทั้งทางด้านการเงิน การลงทุน และการสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

 

Screen Shot 2565 10 01 at 22.01.08

 

หลังจากนั้น Jacques จึงรู้สึกว่าตนเองจะพึ่งพาพี่น้องของตนในด้านอัญมณีได้น้อยกว่าเมื่อก่อน เขาจึงมองหาวิธีอื่นในการจัดหาเงินทุน และลงเอยด้วยการร่วมมือกับธนาคาร Kleinwort & Sons โดยพวกเขาตกลงว่าธนาคารจะให้เงินทุนสำหรับการซื้อวัตถุดิบให้กับ CARTIER สาขาลอนดอนเพื่อแลกกับส่วนแบ่งกำไร 50% ที่ถือว่าเป็นส่วนต่างขนาดใหญ่แต่ Jacques หวังว่าข้อตกลงในช่วงเวลาที่คู่แข่งในเมืองของเขา กำลังลดการใช้ซื้อวัตถุดิบ จะทำให้เขาสามารถเลือกอัญมณีที่ดีที่สุดได้ ในขณะที่ Jacques ก็พบว่าการก้าวออกจากเงามืดของพี่น้องโดยเฉพาะทางด้านการเงิน กับศิลปะด้านการทำงานของบริษัทของเขา ทำให้เขารู้สึกภูมิใจที่ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ข้อตกลงระหว่างพี่น้องที่มอบอิสรภาพให้แต่ละคนก็มีข้อเสียเช่นกัน

 

Pasted 20

 

ในปี 1931 CARTIER ลอนดอนประสบปัญหาใหญ่ จากการที่ค่าเงินปอนด์สเตอริงลดค่าลงอย่างมาก เนื่องจากการยุติถือราคาทองคำของรัฐบาลอังกฤษ สำหรับการค้าขายระหว่าง Louis สาขาปารีสและ Jaques สาขาลอนดอน ในจำนวนเงินรวมกว่า 55,000 ปอนด์ หรือประมาณ 4.4 ล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าถึงเรื่องนี้ได้และ Jaques ไม่มีเงินทุนที่จะแบกรับภาระนี้ ด้วยความโกรธ Louis ปฏิเสธไม่ให้ Jacques เข้าออก CARTIER สาขาปารีส และถอดเขาออกจากคณะกรรมการ CARTIER S.A. พร้อมยุติความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างทั้งสองบริษัท โดยไม่ให้ส่ง สั่งซื้อ หรือซ่อมแซมชิ้นงานระหว่างกันอีก จะมีเฉพาะงานที่คงค้างไว้เท่านั้น และจะไม่มีการดำเนินงานธุรกิจใหม่อีกต่อไปด้วย

 

โปรดติดตามได้ในครั้งต่อไป โดยสามารถติดตามบทความก่อนหน้านี้ได้ที่

 

Untold Story “THE CARTIERS” Part I

Untold Story “THE CARTIERS” Part ll

Untold Story “THE CARTIERS” Part llI

Untold Story “THE CARTIERS” Part lV

Untold Story “THE CARTIERS” Part V 

Untold Story “THE CARTIERS” Part Vl

Untold Story “THE CARTIERS” Part VlI

Untold Story “THE CARTIERS” Part VlIl

Untold Story “THE CARTIERS” Part lX