Untold Story “The Cartiers” Part XVIII

หลังจากการเสียชีวิตของ Nelly เหตุการณ์ต่างๆ ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็วโดย Hocq และ Kanoui เข้าหา Jean-Jacques เกี่ยวกับการซื้อกิจการ CARTIER สาขาลอนดอน ที่ก่อนหน้านี้แม้ว่า Jean-Jacques จะเป็นผู้บริหารสาขาลอนดอนแต่ Nelly ก็ยังมีส่วนในการควบคุม ที่ตอนนี้ทรัพย์สินของเธอถูกแบ่งระหว่างทายาทจำนวนมากแม้ Jean-Jacques จะขัดขืนอยู่พักหนึ่ง แต่จากเหตุผลที่พี่น้องของเขาต่างต้องการส่วนแบ่งในมรดก และไม่ง่ายเลยที่จะสานต่อกิจการนี้ โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากแม่ของเขา และที่เลวร้ายไปกว่านั้น วิกฤตการณ์น้ำมันได้เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมปี 1973 โดยตลอดระยะเวลาหกเดือน ราคาน้ำมันหนึ่งบาร์เรลเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า อันเป็นผลมาจากการห้ามค้าขายของกลุ่มโอเปก และเศรษฐกิจของอังกฤษต้องเผชิญกับความเครียดมหาศาล นอกจากนี้ CARTIER สาขาลอนดอน ยังเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่อายุน้อยลงอีก ซึ่งรวมไปถึงนักร้อง-นักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่าง Elton John แม้โดยทั่วไปแล้ว ดูเหมือนจะมีลูกค้าแวะเวียนมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นการมาขายเพชรมากกว่าการมาซื้อใหม่

Screen Shot 2566 02 26 at 11.24.00

ด้วยผลกำไรที่ไม่แน่นอน รวมกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยากลำบากในการคาดการณ์ พร้อมกับแรงกดดันจากครอบครัวในที่สุด Jean-Jacques ก็ตกลงที่จะหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขการขายกิจการ ซึ่งถือเป็นเรื่องลำบากใจของเขา ระหว่างความต้องการที่จะสืบสานมรดกของบรรพบุรุษ และความกลัวว่าถึงสถานการณ์ขณะนั้น เขารู้สึกถึงความสูญเสีย และพยายามปรับตัว พร้อมพยายามดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ในวงกว้าง เปิดร้านบูติค เดินทางไปต่างประเทศเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งออกแบบนวัตกรรมที่จะดึงดูดฐานลูกค้าที่อายุน้อยกว่า แต่โลกก็ได้ก้าวต่อไปอย่างไม่ลดละ และจำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแนวคิดใหม่ๆ ที่ Jean-Jacque กังวลว่าเขาจะไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับงานนี้อีกต่อไปแล้ว และในท้ายที่สุด ปัจจัยหลายประการเหล่านี้ก็ทำให้ Jean-Jacques เชื่อมั่นว่าเขาควรลงนาม ในเอกสารเพื่อยุติการเป็นเจ้าของ CARTIER และมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสามสาขา อาจจะกลับมารวมกันอีกครั้งเมื่อ Hocq และนักลงทุนของเขาเป็นเจ้าของ CARTIER สาขาปารีสแล้ว และเขากำลังพูดถึงการซื้อ CARTIER สาขานิวยอร์กด้วย ซึ่งก็เกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีหลังจากนั้น

Screen Shot 2566 02 26 at 10.01.51

และถึงแม้ว่าจะ CARTIER จะไม่ใช่กิจการของครอบครัวอีกต่อไปแล้วก็ตามแต่ Jean-Jacques ก็ยังให้เหตุผลว่า CARTIER จะเป็นบริษัทเดียวกันอีกครั้งในอนาคต โดยสื่อมวลชนให้ความสนใจเรื่องการประกาศขายกิจการในช่วงต้นปี 1974 จากการที่ CARTIER ซึ่งถือเป็นร้านเพชรอันดับต้นของโลก กับข่าวการประนีประนอมผลประโยชน์ของครอบครัวโดย Jean-Jacques มีการเรียกพนักงานทั้งหมดมารวมตัวกัน เพื่อขอให้ทุกคนให้การสนับสนุนเขาในการตัดสินใจ พร้อมทั้งอธิบายถึงเหตุผล "เราเป็นชุมชนที่มีความสุขมากในการทำงานร่วมกันเป็นธุรกิจครอบครัว" เขากล่าว "ดังที่เหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวเราเพิ่งแสดงให้เห็น บัดนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าธุรกิจครอบครัวของเราจะอยู่รอดต่อไปได้ยาก” คำพูดนี้ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งที่เขาเคยทำ โดยเขารู้สึกถึงความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ต่อคนที่ทำงานให้กับเขาด้วยกันมาตลอด และได้เห็นความผิดหวังบนใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้น จากสิ่งที่พวกเขาช่วยกันยืนหยัด สร้าง ปรับปรุง และต่อสู้ร่วมกันมาจนถึงวันนั้นในนามของครอบครัว Cartier

03 cartier family Alfred Cartier and his three sons may20

Jean-Jacques วางแผนที่จะเกษียณอายุ เนื่องจากเขารู้ว่าบริษัทจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด และจะกลายเป็นสิ่งที่เจ็บปวดเกินไปสำหรับเขา ที่จะอยู่ดูเหตุการณ์เหล่านั้นที่ถือเป็นจุดจบของครอบครัว Cartier ในฐานะบริษัทจากการที่ Jean-Jacques อดทนตราบเท่าที่เขารู้สึกว่าจะยังทำได้ โดยเป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่ Claude ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งปี หลังจากการป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออย่างร้ายแรง ได้ขายสาขาในนิวยอร์กไปเกือบ 8 ปีแล้วและกลายเป็นเพียง Jean-Jacques ที่โบกธงประจำตระกูลและดำเนินกิจการเพียงลำพัง บางทีในฐานะครอบครัวที่เป็นหนึ่งเดียวกัน CARTIER ก็อาจปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่แผ่ขยายไปทั่วโลกได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถแยกจากกันและกันได้ โดยสองปีหลังจากการขาย CARTIER สาขาลอนดอน Jean-Jacques และครอบครัวก็ได้ย้ายไปทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเพื่อเริ่มเกษียณ โดยในขณะที่เขาเก็บของในบ้านลงในกล่อง Jean-Jacques ก็รู้สึกเศร้าที่ต้องเดินทางออกจากประเทศ ที่เขาเรียกว่าบ้านมาตลอดชีวิต โดยเขายังคงสนใจและเป็นห่วง CARTIER อย่างสุดซึ้งจนถึงลมหายใจสุดท้ายในชีวิตของเขา

Screen Shot 2566 02 26 at 10.02.49