TAG HEUER อัพเดทนาฬิการุ่นใหม่ให้กับคอลเลคชั่น Link ด้วยรุ่นออโต้โครโนกราฟ และรุ่นออโต้ประดับเพชร
นาฬิกาคอลเลคชั่น Link ของ TAG HEUER ผู้สืบสานตำนานรุ่น “ก้างปลา” สุดโด่งดังแห่งยุทธภพเมื่อครั้งอดีต ออกรุ่นใหม่มาเติมความสดให้กับคอลเลคชั่นอีกครั้งในปี 2018 ด้วยรุ่นกลไกอัตโนมัติฟังก์ชั่นโครโนกราฟจับเวลา และรุ่นออโต้ประดับเพชรสุดหรูหราในตัวเรือนขนาดใหญ่สำหรับผู้ชาย
Link Chronograph
ในที่สุดหลังจากที่ TAG HEUER ได้ทำการปรับโฉมอัพเดทความทันสมัยให้กับหน้าตาของคอลเลคชั่น Link ไปเมื่อปี 2016 ก็ถึงคราวที่จะได้ออกรุ่นฟังก์ชั่นโครโนกราฟจับเวลามาให้ชื่นชมกันแล้ว โดยใช้ตัวเรือนวัสดุสตีล ที่มีดีไซน์เดียวกับเจเนอเรชั่นปรับโฉมครั้งล่าสุดซึ่งโดดเด่นด้วยวงขอบตัวเรือนที่มีวงแหวนทรงกลมติดตั้งอยู่บนฐานทรงเหลี่ยมแบบคูชั่นเน้นเส้นสันที่มุมทั้ง 4 อันนำมาซึ่งความงามละมุนและเป็นการเชื่อมโยงรูปทรงเหลี่ยมเข้ากับรูปทรงกลมได้อย่างลงตัว นำมาซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และยิ่งผสานเข้ากับสายนาฬิกาวัสดุสตีล รูปทรงเอกลักษณ์แบบตัว “เอส” คู่ ซึ่งเป็นการขัดเกลาดีไซน์ที่สืบทอดมาจากสายแบบ “ก้างปลา” ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้นาฬิการุ่นนี้มีความแตกต่างไปจากนาฬิกาอื่นใดทั้งหมดทั้งมวล ทั้งยังฟินิชพื้นผิวของทั้งตัวเรือนและสายด้วยการขัดลายสลับกับการขัดเงาอย่างสวยงาม
ย้อนความทรงจำถึงสายแบบตัว “เอส” คู่ กันสักนิด สายลักษณะนี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับคอลเลคชั่นนาฬิกาสไตล์สปอร์ตหรู S/el ซึ่งด้วยรูปแบบของสายนี่ล่ะที่ทำให้คนไทยเรียกนาฬิการุ่นนี้กันว่า “ก้างปลา” จนแทบจะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ มันชื่อ S/el (ซึ่ง TAG HEUER หมายถึง Sports Elegance) ความตั้งใจในการออกแบบก็คือ การสร้างสายนาฬิกาโลหะดีไซน์ใหม่ที่ต่อเชื่อมเข้ากับตัวเรือนอย่างกลมกลืนดุจสร้อยข้อมือ มีความสปอร์ตและความงามสง่าอยู่ในทีเพื่อให้เหมาะแก่การสวมใส่ในทุกโอกาส และมีลักษณะที่โค้งแนบไปกับข้อมือ ปราศจากเหลี่ยมคม ซึ่งทำให้เกิดความสบายสูงสุดยามสวมใส่
กลไกโครโนกราฟที่ใช้กับรุ่นนี้ เป็นแบบขึ้นลานอัตโนมัติ จับเวลา 12 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นวันที่ คาลิเบอร์ 17 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง ที่มีหน้าปัดขนาดเล็กแบบ 3 วง อยู่ที่ตำแหน่ง 3-6-9 นาฬิกา และใช้พื้นวงหน้าปัดขนาดเล็กเป็นแบบลายสเนลด์เพื่อให้เกิดเงาสะท้อนเมื่อต้องแสง และเกิดความแตกต่างกับพื้นหน้าปัดที่เป็นแบบขัดลายซันเรย์ ส่วนช่องหน้าต่างวันที่ถูกเจาะเป็นทรงสี่เหลี่ยมพร้อมดีไซน์เป็นกรอบอย่างสวยงามอยู่ที่ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา ขณะที่แท่งหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยมกับเข็มชั่วโมงกับนาทีที่เคลือบด้วยโรเดียมขัดเงานั้นออกแบบมาเป็นทรงหลังคาบ้านพร้อมเคลือบสารเรืองแสง ซูเปอร์ลูมิโนว่า มาให้ด้วย ทั้งยังเสริมความสง่าด้วยชิ้นโลโก้ TAG HEUER บนหน้าปัดที่เคลือบโรเดียมมาอย่างเงางาม
ตัวเรือนของ Link Chronograph ใช้เป็นขนาด 41 มม. ที่กันน้ำได้ 100 เมตร ผนึกกระจกแซฟไฟร์ทั้งฝั่งด้านหน้าและด้านหลัง โดยฝั่งกระจกหน้าปัดได้เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนมาให้ด้วย โดยเปิดตัวออกมาพร้อมกัน 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นหน้าปัดสีดำ และเวอร์ชั่นหน้าปัดสีน้ำเงิน
ราคาจำหน่ายที่ทาง TAG HEUER แจ้งไว้ก็คือ 4,950 เหรียญสหรัฐฯ (เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2018)
Link 41mm Diamonds
ประกายความงามระยิบของเพชรน้ำงามเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับการตกแต่งนาฬิกาข้อมือมานานแล้ว โดยสำหรับ Link เจเนอเรชั่นใหม่นี้ทาง TAG HEUER ก็ได้ออกไซส์เล็กขนาด 32 มม. แบบประดับเพชร เครื่องควอตซ์ มาให้สาวๆ ได้สวมใส่กันก่อนหน้านี้แล้ว แต่มาถึงปีนี้ทาง TAG HEUER ก็ได้ออกนาฬิกา Link ประดับเพชรมาให้กับหนุ่มๆ ผู้นิยมความงามของเพชรได้เป็นเจ้าของกันด้วย โดยใช้ Link ขนาด 41 มม. แบบกลไกอัตโนมัติ เป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์
ดีไซน์ คุณลักษณะ และคุณสมบัติ โดยรวมยังคงเป็นเหมือนกับรุ่น Link ขนาด 41 มม. แบบกลไกอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นล่าสุดที่ออกมาเมื่อปี 2016 โดยดีไซน์ของตัวเรือน สาย เข็ม และองค์ประกอบบนหน้าปัดนั้นมีลักษณะเช่นเดียวกับที่ว่าไปแล้วในรุ่นโครโนกราฟด้านบน ส่วนกลไกเป็นแบบขึ้นลานอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นวันที่ คาลิเบอร์ 5 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 38 ชั่วโมง ซึ่งมองเห็นได้จากกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง กระจกหน้าปัดเป็นแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 100 เมตร
Link แบบประดับเพชรในตัวเรือนขนาด 41 มม. คู่กับสายสตีล เปิดตัวออกมาพร้อมกัน 2 เวอร์ชั่น ซึ่งทั้งคู่จะใช้พื้นหน้าปัดเป็นโทนสีน้ำเงิน และใช้ตัวเรือนกับสายเป็นวัสดุสตีล ความแตกต่างของแต่ละเวอร์ชั่นจะอยู่ที่วัสดุของหน้าปัด รูปแบบของการประดับเพชร และรูปแบบของการขัดตัวเรือนกับสาย
เวอร์ชั่นประดับเพชรแบบจัดเต็ม ประดับเพชร 54 เม็ด (น้ำหนักรวม 1.08 กะรัต) บนขอบตัวเรือน, ประดับเพชร 204 เม็ดบนสาย 3 ข้อแรกของทั้ง 2 ฝั่ง ใช้หน้าปัดเปลือกหอยมุกสีน้ำเงิน ประดับเพชร 12 เม็ดบนหลักชั่วโมง ตัวเรือนและสายเป็นแบบขัดเงา ราคา 21,000 เหรียญสหรัฐฯ (เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018)
เวอร์ชั่นประดับเพชร 54 เม็ด (น้ำหนักรวม 1.08 กะรัต) บนขอบตัวเรือน ใช้หน้าปัดสีน้ำเงินลายซันเรย์ ตัวเรือนกับสายเป็นแบบขัดลายสลับกับขัดเงา ราคา 5,200 เหรียญสหรัฐฯ (เริ่มจำหน่ายแล้ว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018)
By: Viracharn T.