Distinctive Design and Reimagined Tradition
LOUIS ERARD ยืนยันตัวตนผ่านสองคอลเลคชั่นใหม่ทั้ง Noirmont ซึ่งมาเป็นชื่อแทนที่คอลเลคชั่น Excellence และ 2300 ซึ่งมาเป็นชื่อแทนที่คอลเลคชั่น La Sportive โดยคอลเลคชั่น Noirmont จะแยกเป็นอีกสามซีรี่ส์ทั้ง Noirmont Classic, Noirmont Métiers d’Art และNoirmont X ที่จะเป็นการทำงานร่วมกันกับองค์กรอื่นๆ ในขณะที่ Régulateur Gravé จะเป็นผลงานชิ้นเอกของซีรี่ส์ Métiers d’Art ที่ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ ในการเปลี่ยนแปลงชื่อและซีรี่ส์นาฬิกาแบบต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
จากความโดดเด่นของดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ในแบบเรกูเลเตอร์ พร้อมหน้าปัดย่อยในการแสดงเวลาแนวตั้ง ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากหน้าปัดแบบเซคเตอร์ ที่ได้รับความนิยมในช่วง 30s พร้อมการผสมผสานเทคนิค ในแนวทางการผลิตที่มีมาแต่โบราณนั่นก็คือ การแกะสลักตามปรัชญาของแบรนด์ที่ถือว่า นาฬิกาเปรียบเสมือนผืนผ้าใบสำหรับการแสดงออกทางศิลปะ พร้อมความเป็นหน้าปัดแบบเซคเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร ในรูปแบบและแนวทางการผลิตจากนอร์มง อันเป็นบ้านของแบรนด์มาตั้งแต่ปี 1992
สอดคล้องกับคำกล่าวของ LOUIS ERARD ที่ว่า Less More, More Less "กับนาฬิกาเรือนนี้ที่รวบรวม การแสดงออกอันสมบูรณ์แบบของสิ่งที่ LOUIS ERARD มี ในหน้าปัดอันซับซ้อนภายใต้รูปแบบที่เรียบง่าย พร้อมดึงเอาองค์ประกอบที่มองเห็นได้ พร้อมเทคนิคไปสู่แก่นแท้ของแบรนด์ และเพื่อให้เกิดสุนทรียศาสตร์ที่บริสุทธิ์ที่สุด ขณะเดียวกันก็นำรายละเอียดที่ลึกยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับนาฬิกา จากทั้งด้านงานการออกแบบและทั้งด้านงานฝีมือ” Mr. Manuel Emch กล่าวถึงแบรนด์ที่เป็นในปัจจุบัน
หน้าปัดแบบเซคเตอร์ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญ ของการผลิตนาฬิกาในช่วงปี 30s กับสไตล์หน้าปัดที่มีรายละเอียด จากการแกะสลักที่ทำให้เกิดภาพนูนเล็กๆ และผ่านการชุบกัลป์วานิคให้เกิดความงดงาม พร้อมความแม่นยำทางด้านเทคนิค ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงองค์ประกอบสำคัญในการแสดงเวลา ทั้งการแบ่งส่วนเวลา ความสามารถในการอ่านค่าเวลา ที่มีการปรับให้เหมาะสมมากขึ้น และลวดลายของแทร็ค ที่ถือเป็นการออกแบบที่ยึดถือจิตวิญญาณในสไตล์ "นีโอวินเทจ" ได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสถานที่ ซึ่งก็คือนอร์มง Noirmont ที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ ที่มีรากฐานมาจากแถบเทือกเขาจูร่าของสวิสตั้งแต่ปี 1992 โดยมีสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจเบื้องหลัง ของเข็มนาฬิกาและเม็ดมะยมในแบบแซปปัง (Sapin) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับ LOUIS ERARD กับความหมายที่แปลว่า “ต้นสน” จนเป็นที่มาของเข็มนาฬิกาในรูปทรงลักษณะเดียวกัน ที่ถือกำเนิดขึ้นที่นี่และเป็นที่รู้จักกันดี ในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกามาตั้งแต่อดีต
โดย Régulateur Gravé นำเสนอในตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยตัวเรือนสตีลขัดเงา พร้อมรายละเอียดหน้าปัด สีโรสโกลด์กับพื้นผิวที่มีลวดลายละเอียด ที่เสริมด้วยเข็มนาฬิกาแบบแซปปัง และส่วนการแสดงค่าเวลาในแบบมินิมอล ที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลา ได้อย่างชัดเจนบนความประณีตและงดงาม ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ SELLITA คาลิเบอร์ SW266-1 ที่สามารถให้พลังสำรองลานได้นาน 38 ชั่วโมง โดยจะมีราคาจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 2,900 สวิสฟรังก์