iamwatch

 

ไฮไลต์ของ TAG HEUER ในปีนี้ ยังคงยึดมั่นในธรรมเนียมของแบรนด์ที่จะต้องออกตัวคอนเซ็ปต์วอตช์เด็ดๆ ที่บรรจุนวัตกรรมใหม่มาให้ประวัติศาสตร์ต้องจารึก และก็ถึงคราวของ Mikrogirder นาฬิกาจับเวลาความละเอียดสูงสุดๆ ซึ่งอ่านค่าได้ในระดับ 5/10,000 ของวินาที!! ส่วนนาฬิการุ่นใหม่ที่ทำขายจริงนั้น ในปีนี้ไฮไลต์สำหรับนาฬิกาผู้ชายอยู่ที่นาฬิการุ่นใหม่คอลเลคชั่น 2012 จากตระกูลดัง Carrera นำโดยรุ่นพิเศษอย่าง Carrera Chronograph Jack Heuer และ Carrera Calibre 1887 Chronograph ในตัวเรือนโรสโกลด์และตัวเรือนสตีลขอบตัวเรือนทอง กับ Carrera Calibre 1887 Chronograph ชุดใหม่ที่ขยายตัวเรือนจาก 41 มิลลิเมตรขึ้นมาเป็น 43 มิลลิเมตร โดยใช้หลักชั่วโมงเป็นเลขอารบิกเคลือบโรสโกลด์ ไม่มีสเกลทาคีมิเตอร์ และเคาน์เตอร์วินาทีแบบเสมอพื้นหน้าปัดไร้เส้นวง ส่วนนาฬิกาผู้หญิงก็ได้แก่คอลเลคชั่นใหม่ยกชุดของ Link Ladies ที่คราวนี้มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นอย่างน่าประทับใจ เชิญชมรายละเอียดได้เลยครับ

 

Mikrogirder

 

หลังจากคอนเซ็ปต์วอชต์ Mikrotimer ที่ออกมาเมื่อปีก่อน (2011) ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการด้วยกลไกการจับเวลาความถี่สูงมาก (3,600,000 ครั้งต่อชั่วโมง) ซึ่งสามารถอ่านค่าได้ละเอียดถึง 1/1,000 ของวินาทีซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์หน้าปัดและตัวเรือนแบบล้ำยุคกันไปแล้ว มาปีนี้ TAG HEUER ก็ยังคงสานต่อโปรเจ็คต์นาฬิกาจับเวลาเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในการผลิตนาฬิกาโครโนกราฟของตนด้วยเรือนเวลาชิ้นใหม่ Mikrogirder ที่อ่านค่าได้ละเอียดยิ่งกว่าเดิม โดยอยู่ที่ระดับ 5/10,000 ของวินาที จากการทำงานที่ความถี่ถึง 1,000 เฮิร์ตซ์ หรือเท่ากับ 7,200,000 ครั้งต่อชั่วโมง! หรือเร็วกว่านาฬิกาเดินด้วยความถี่ 4 เฮิร์ตซ์ หรือ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงทั่วๆ ไปถึง 250 เท่า ในดีไซน์รูปโฉมที่เรียบง่ายดูจับต้องได้ขึ้นกว่าเดิมด้วยตัวเรือนแบบอสมมาตรที่วางเม็ดมะยมอยู่ที่ 12 นาฬิกา ซึ่งนำแบบอย่างจากนาฬิกาจับเวลา 1/100 ของวินาที ของ HEUER ในยุคทศวรรษที่ 20 มาผสมกับความอาวองต์การ์ดได้อย่างเข้ากัน แถมบนหน้าปัดยังเปิดช่องให้มองเห็นการทำงานของระบบคาน (beam/girder) ที่ใช้ควบคุมการทำงานของกลไกอีกต่างหาก โดยทาง TAG HEUER บอกว่าน่าจะสามารถผลิตขายได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

ความถี่สูงถึงระดับนี้เกิดขึ้นจากการค้นคว้าพัฒนาต่อยอดกลไกเรกูเลเตอร์ควบคุมการทำงานที่นำมาใช้แทนแฮร์สปริงกับบาลานซ์วีลซึ่งเคยทำออกมาใน Grand Carrera Pendulum Concept แล้วเมื่อปี 2010 โดยในครั้งนั้นถูกกำหนดให้ทำงานที่ความถี่ 6 เฮิร์ตซ์ มาในครั้งนี้ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของแบรนด์ได้ทำการคิดค้นระบบเรกูเลเตอร์สำหรับกลไกจับเวลาขึ้นใหม่ โดยใช้เป็นระบบคาน ประกอบด้วยคานคัพพลิง (coupling beam/girder) และคานเอ็กซ์ซิทาทอรี (excitatory beam/girder) ซึ่งทำงานร่วมกับลิเนียร์ออสซิลเลเทอร์แทนที่จะใช้แฮร์สปริงเหมือนในเครื่องนาฬิกาทั่วไป ระบบที่คิดค้นขึ้นใหม่นี้จะขยับตัวไปมาเพียงเล็กน้อยในช่วงระยะและเวลาที่สม่ำเสมอ แทนที่จะขยับถึง 320 องศา เหมือนกับบาลานซ์วีลปกติ และจะไม่มีการเสียแอมปลิจูดไปจากผลกระทบของความถ่วงจากมวลใดๆ และยังสามารถปรับความถี่ได้ในช่วงที่กว้างมากๆ โดยไม่โหลดกำลังลาน จึงเป็นที่มาของความละเอียด ความแม่นยำ และความเสถียรในการทำงานที่ความถี่สูงมากๆ ของกลไกจับเวลาที่อยู่ใน Mikrogirder นี้ และกลายเป็นกลไกนาฬิกาจับเวลาซึ่งเดินด้วยความถี่สูงที่สุดในขณะนี้ โดยทาง TAG HEUER ได้ยื่นจดสิทธิบัตรกลไกต่างๆ ที่ใช้ในนาฬิการุ่นนี้ไปแล้วรวม 10 ชนิดด้วยกัน

 

 

จากภาพจะเห็นคานเอ็กซิทาทอรีอยู่ทางซ้ายถัดจากโครโนกราฟเอสเคปเม้นท์วีลสีทอง ต่อด้วยคานคัพพลิงและลิเนียร์ออสซิลเลเทอร์ตามลำดับ ส่วนชุดด้านขวามือเป็นชุดเกียร์เทรน เอสเคปเม้นท์วีล และบาลานซ์วีลของกลไกบอกเวลา

 

แน่นอนว่าความถี่สูงขนาดนั้นคงไม่จำเป็นที่จะต้องหาทางพยายามนำมาทำหน้าที่บอกเวลาแบบปกติ เครื่องนี้จึงมีกลไกที่ใช้บอกเวลาควบคุมการเดินด้วยบาลานซ์วีลปกติและรับกำลังจากบาร์เรลของตัวเองอยู่อีกชุดต่างหากโดยขับเคลื่อนอย่างเป็นอิสระต่อกันกับกลไกจับเวลา โดยกลไกจับเวลาจะทำงานเมื่อผู้ใช้ต้องการเท่านั้น การอ่านค่านั้นจะอ่านได้ 2 แบบ คือ 1/100 ของวินาที กับ 5/10,000 ของวินาที การอ่านค่าในสเกล 1/100 ของวินาทีนั้นจะต้องอ่านจากเคาน์เตอร์ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ส่วนการอ่านค่าในสเกล 5/10,000 ของวินาที จะต้องอ่านจากสเกลรอบวงหน้าปัดที่ชี้บอกด้วยเข็มกลางซึ่งหมุนรอบหน้าปัดด้วยความเร็วเหลือเชื่อถึง 20 รอบต่อวินาที โดยอ่านร่วมกับหลักวินาทีบนสเกลวินาทีจับเวลาซึ่งชี้บอกด้วยเข็มในเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา

 

 

ตัวเรือน: ขนาด 45 มิลลิเมตร ประกอบจากวัสดุสตีลเคลือบไทเทเนียมคาร์ไบด์ดำกับสตีล กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ปุ่มกดจับเวลาติดตั้ง ณ ตำแหน่ง 11 กับ 1 นาฬิกาทำจากสตีลเคลือบไทเทเนียมคาร์ไบด์ดำ เม็ดมะยมติดตั้ง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทำจากสตีลหุ้มด้วยยาง ฝาหลังสตีลเคลือบไทเทเนียมคาร์ไบด์ดำกรุกระจกแซฟไฟร์ทรงโค้ง กันน้ำได้ในระดับ 50 เมตร 
หน้าปัด: มีสองเคาน์เตอร์วินาทีจับเวลาย่อย ณ ตำแหน่ง 12 กับ 3 นาฬิกา หน้าปัดหลักสีเทาแอนทราไซต์ พื้นวงสเกลจับเวลา 5/10,000 ของวินาทีสีเงินตัวเลขสเกลสีดำ เปิดช่องให้เห็นการทำงานของลิเนียร์ออสซิลเลเทอร์ เข็มวินาทีจับเวลากลางและตัวเลข 10000 สีฟ้า เข็มชั่วโมงกับนาทีขัดเงาแต้มสารเรืองแสง โลโก้ TAG HEUER และเข็มวินาทีจับเวลาในเคาน์เตอร์ย่อยทั้งสองทำจากโรสโกลด์ (5N) 18k 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติสองทิศทาง ประกอบด้วยชิ้นส่วนรวม 339 ชิ้น 46 จิวเวล บาร์เรล 2 กระปุก สำหรับกลไกบอกเวลา และกลไกจับเวลา แยกกัน 
กลไกบอกเวลา: บาลานซ์วีลทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 เฮิร์ตซ์) กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง 
กลไกจับเวลา: ลิเนียร์ออสซิลเลเทอร์ทำงานที่ความถี่ 7,200,000 ครั้งต่อชั่วโมง (1,000 เฮิร์ตซ์) กำลังสำรอง 3 นาที 
ฟังก์ชั่น: บอกเวลาชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มกลาง บอกค่าการจับเวลา 5/10,000 ของวินาทีด้วยเข็มกลางและสเกลรอบหน้าปัด บอกค่าการจับเวลา 1/100 ของวินาที ด้วยเข็มและสเกลบนเคาน์เตอร์ย่อย ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา บอกวินาทีจับเวลา ด้วยเข็มและสเกลบนเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา 
สาย: หนังจระเข้เย็บมือสีเทาแอนทราไซต์ผิวด้าน บานพับสตีลเคลือบไทเทเนียมคาร์ไบด์ดำ 

  

 

Carrera Collection

 

นาฬิกาตระกูลดัง Carrera มีฐานรากมาจากชื่อของการแข่งขันรถยนต์ที่เริ่มขึ้นในยุคทศวรรษที่ 50 รายการ Carrera Pan Americana ด้วยคอนเซ็ปต์ที่จะให้เป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่อ่านค่าง่าย ทนทานต่อแรงสะเทือน และกันน้ำได้ ในระดับที่เพียงพอต่อการสวมใส่ใช้งานขณะขับรถ เจ้าของคอนเซ็ปต์นี้ผู้ทำคลอดคอลเลคชั่นแรกของ Carrera ออกมาในปี 1964 ก็คือชายที่ชื่อ Jack W. Heuer ลูกหลานตระกูล HEUER นั่นเอง

 

ในปี 2012 นี้ Jack จะมีอายุครบ 80 ปี ไฮไลต์ของ Carrera คอลเลคชั่นใหม่ปีนี้จึงมีรุ่นพิเศษ Carrera Calibre 17 Jack Heuer 80th Birthday Limited Edition ออกมาเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลสำคัญของแบรนด์ท่านนี้ ส่วนนาฬิกาคอลเลคชั่น 2012 ของ Carrera ที่ออกมาใหม่ ได้แก่ Carrera Calibre 1887 Chronograph เครื่องอินเฮ้าส์ซึ่งออกมาใหม่ในตัวเรือนโรสโกลด์กับตัวเรือนทูโทนสตีลขอบทองด้วยขนาด 41 มิลลิเมตรเท่ากับรุ่นก่อนหน้า และรุ่นใหม่ในตัวเรือนสตีลที่ขยายขนาดเป็น 43 มิลลิเมตร ที่เข้ามาเพิ่มความหลากหลายให้กับคอลเลคชั่น 1887 ยิ่งขึ้น ด้วยการใช้หลักชั่วโมงแบบเลขอารบิกกับเข็มสีโรสโกลด์บนหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ สีเงิน หรือสีดำ ที่ดูเรียบง่ายยิ่งขึ้นโดยไม่มีสเกลทาคีมิเตอร์บนขอบหน้าปัด และเคาน์เตอร์วินาทีย่อยแบบเสมอหน้าปัดไร้เส้นขอบ

 

Carrera Calibre 17 Chronograph Jack Heuer 80th Birthday Limited Edition

 

 

Jack W. Heuer กับนาฬิกาที่สร้างขึ้นฉลองวันเกิดอายุครบ 80 ปีของเขาบนข้อมือ

 

ปี 2012 นี้ Jack W. Heuer ผู้ให้กำเนิดต้นตระกูล Carrera ในปี 1964 ปูชนียบุคคลของแบรนด์จะมีอายุครบ 80 ปี TAG HEUER จึงออกนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด 3,000 เรือนมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ Jack ในรูปโฉมที่อ้างอิงมาจากรุ่นดั้งเดิม อาทิ หน้าปัดสีเงินลายซันเรย์พร้อมโลโก้ HEUER สีแดงแบบสมัยก่อน โดยมีลายเซ็น Jack Heuer พร้อมตรา coat of arms ประจำตระกูล Heuer ซึ่งสืบทอดมาจากยุคศตวรรษที่ 15

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงาขนาด 41 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร ฝาหลังสตีลพร้อมภาพตรา coat of arms ประจำตระกูล Heuer สีดำ ลายเซ็น Jack Heuer สีแดง และชื่อรุ่น “JACK HEUER LIMITED EDITION” พร้อมสลักหมายเลขประจำเรือน XXXX / 3000
หน้าปัด: สีเงินลายซันเรย์ เคาน์เตอร์ย่อย 2 วงพื้นสีเทาเข้มปลายเข็มแต้มสีแดง บอกวินาทีที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และบอกนาทีจับเวลาที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เข็มชั่วโมงกับนาทีขัดเงาแต้มสารเรืองแสง เข็มวินาทีจับเวลาสีแดง โลโก้ HEUER สีแดงแบบวินเทจ มีสเกลทาคีมิเตอร์สีขาวและตัวเลข 80 สีแดงบนพื้นสเกลสีเทาเข้มที่ขอบหน้าปัด มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre 17 
สาย: มีให้เลือกระหว่างสายหนังวัวสีดำด้านในสีแดงหรือสายสตีล 5 แถวปัดลายสลับขัดเงา มาพร้อมบานพับสตีล 
จำนวนการผลิต: 3,000 เรือน

  

 

Carrera Calibre 1887 Chronograph Rose Gold

 

 

ตัวเรือน: โรสโกลด์ (5N) 18k ขัดเงา ขนาด 41 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ปุ่มกดและเม็ดมะยมโรสโกลด์ (5N) 18K ฝาหลังกรุแซฟไฟร์ กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: มีให้เลือกระหว่างสีเงิน กับสีเทาแอนทราไซต์ 3 เคาน์เตอร์ย่อย เคาน์เตอร์นาทีจับเวลา ชั่วโมงจับเวลา และวินาที อยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา 6 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา ตามลำดับ มีสเกลทาคีมิเตอร์บนขอบหน้าปัด เข็มชั่วโมง นาทีแต้มสารเรืองแสง และเข็มวินาทีกับหลักชั่วโมงทำจากโรสโกลด์ (5N) 18k โลโก้และชื่อรุ่นสีโรสโกลด์ มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เคาน์เตอร์นาทีและชั่วโมงจับเวลาในแบบหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์จะมีขอบกับเข็มรวมถึงเข็มวินาทีจับเวลาเป็นโรสโกลด์ ส่วนหน้าปัดสีเงินจะไม่มีขอบและใช้เข็มรวมถึงเข็มวินาทีจับเวลาสีดำ 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟอินเฮ้าส์ Calibre 1887 
สาย: หนังจระเข้สีดำ (หน้าปัดสีเงิน), หนังจระเข้สีเทาแอนทราไซต์ (หน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์) บัคเกิ้ลโรสโกลด์ (5N) 

 

 

Carrera Calibre 1887 Chronograph Steel & Gold

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงาขนาด 41 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนทอง (3N) 18k ขัดเงา กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ปุ่มกดและเม็ดมะยมเคลือบทอง ฝาหลังกรุแซฟไฟร์ กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: สีเงิน 3 เคาน์เตอร์ย่อย เคาน์เตอร์นาทีจับเวลา ชั่วโมงจับเวลา และวินาที อยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา 6 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา ตามลำดับ มีสเกลทาคีมิเตอร์บนขอบหน้าปัด เข็มชั่วโมง นาทีแต้มสารเรืองแสง และเข็มวินาทีกับหลักชั่วโมงเคลือบทอง โลโก้และชื่อรุ่นสีทอง มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มจับเวลาสีดำ 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟอินเฮ้าส์ Calibre 1887 
สาย: หนังจระเข้สีดำ บานพับสตีล

 

 

Carrera Calibre 1887 Chronograph Rose Gold Colored

 

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา ขนาด 43 มิลลิเมตร กระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ฝาหลังกรุแซฟไฟร์ กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: 3 เคาน์เตอร์ย่อย บอกนาทีจับเวลาที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ชั่วโมงจับเวลาที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา วินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เลขอารบิกบอกชั่วโมงกับโลโก้และชื่อรุ่นแบบติดสีโรสโกลด์ เข็มชั่วโมง นาที และวินาทีเคลือบโรสโกลด์ขัดเงา แต้มสารเรืองแสงที่เข็มชั่วโมงกับนาที มีหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา - สีเทาแอนทราไซต์ลายซันเรย์ ใช้เข็มจับเวลาสีดำ - สีเงิน ใช้เข็มจับเวลาสีดำ - สีดำ ใช้เข็มจับเวลาเคลือบโรสโกลด์ 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟอินเฮ้าส์ Calibre 1887
สาย: หนังจระเข้ บานพับสตีล - สีเทาแอนทราไซต์ (หน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์) - สีดำหรือสีน้ำตาลหรือสายสตีล 5 แถวปัดลายสลับขัดเงา (หน้าปัดสีเงิน) - สีดำหรือสายสตีล 5 แถวปัดลายสลับขัดเงา (หน้าปัดดำ)

  

 

Link Lady Collection

 

Link Lady คอลเลคชั่นใหม่ที่ออกมาในปีนี้ มาในรูปแบบที่พลิกบทบาทจากที่เคยมีดีไซน์ที่ยึดแนวทางของ Link รุ่นคุณผู้ชายที่ปรับขนาดลงมาให้คุณผู้หญิงใส่มาเป็นนาฬิกาที่ออกแบบขึ้นใหม่ให้เหมาะกับผู้หญิงอย่างแท้จริงโดยยึดเพียงดีไซน์รูปแบบของสาย Link อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาปรับใช้อย่างกลมกลืน และยังมีดาราดังระดับโลกอย่าง Cameron Diaz มารับหน้าที่เป็นแอมบาสเดอร์ของ Link คอลเลคชั่นใหม่นี้ด้วย

 

ตัวเรือนทรงกลมที่ออกแบบให้มีขาสายอยู่เซ็นเตอร์ของคอลเลคชั่นใหม่นี้มากับ 2 ขนาดให้เลือก คือ 34.5 มิลลิเมตรกับ 29 มิลลิเมตร ทำงานด้วยเครื่องควอตซ์ มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พื้นหน้าปัดแกะลายกิโยเช่เป็นคลื่นโค้งรูปตัว S กระจายเป็นระลอกออกจากกลางหน้าปัด มีให้เลือกในหลากหลายเวอร์ชั่นวัสดุตัวเรือน สีหน้าปัด รายละเอียดการตกแต่ง และแน่นอนว่ามีเวอร์ชั่นประดับเพชรด้วย 

 

นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮไลต์ในชื่อรุ่น Diamond Star ที่มากับรูปแบบของตัวเรือนโรสโกลด์ (5N) 18k ประดับเพชรที่ต่างออกไปโดยจะมีตัวเรือนขนาดเล็กเป็นที่อยู่ของหน้าปัดและเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติซ้อนอยู่ด้านในของตัวเรือนชั้นนอกอีกทีเหมือนกับลอยอยู่ซึ่งจะเชื่อมต่อกันด้วยก้าน ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาเท่านั้น ด้านหน้าและด้านหลังกรุกระจกแซฟไฟร์คริสตัลใสมองทะลุเห็นหมู่ดาวทำจากโรสโกลด์ประดับเพชรวับวาวอยู่ภายในซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวถ่วงน้ำหนักให้กับโรเตอร์ทรงใบพัดประดับเพชรเต็มพื้นที่บนก้านใบพัดแต่ละก้าน เพิ่มความงดงามทางสายตาเมื่อมองจากด้านหลังด้วยบลูด์สกรูว์ที่ใช้ยึดแกนใบพัดและบนเครื่อง ขอบฝาหลังโรสโกลด์สลัก BASELWOLRD 2012 บ่งบอกความพิเศษ

 

Link Lady Diamond Star

 

 

ตัวเรือน: โรสโกลด์ (5N) 18k แบบ 2 ชั้นเชื่อมต่อกันด้วยแกน ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขอบตัวเรือนประดับเพชรรวม 192 เม็ด น้ำหนักรวม 1.35 กะรัต กระจกหน้าปัดและกระจกฝาหลังแซฟไฟร์คริสตัล ขอบฝาหลังโรสโกลด์ (5N) 18k สลัก BASELWORLD 2012 ยึดด้วยสกรูว์ 
หน้าปัด: แกะลายกิโยเช่ โลโก้และเข็มโรสโกลด์ ไม่มีเข็มวินาที 
เครื่อง: ขึ้นลานอัตโนมัติ โรเตอร์โรสโกลด์ทำเป็นรูปใบพัดประดับเพชรเรียงเต็มบนก้านใบพัดแต่ละก้านโดยส่วนของเวทถูกแกะเป็นรูปดาวซึ่งประดับด้วยเพชรทางฝั่งด้านหน้า 
สาย: โรสโกลด์ (5N) 18k

 

 

Link Lady Rose Gold

 

 

ตัวเรือน: โรสโกลด์ (5N) 18k ขนาด 29 มิลลิเมตร สลักเลขโรมันลงแลกเกอร์เป็นหลักชั่วโมง 12 หลักลงบนขอบตัวเรือน กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียวทำจากโรสโกลด์ (5N) 18k เม็ดมะยมโรสโกลด์ (5N) 18k กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: สีม่วงแกะลายกิโยเช่ หลักชั่วโมงประดับเพชร 11 เม็ด น้ำหนักรวม 0.075 กะรัต เข็มเคลือบโรสโกลด์แต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้โรสโกลด์ มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมกรอบด้วยโรสโกลด์ 
เครือง: ควอตซ์ 
สาย: โรสโกลด์ (5N) 18k

 

 

Link Lady Diamond Bezel Diamond Dial

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา ขนาด 29 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนประดับเพชร 47 เม็ด น้ำหนักรวม 0.52 กะรัต กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียว กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: สีเงินแกะลายกิโยเช่ หลักชั่วโมงประดับเพชร 11 เม็ด น้ำหนักรวม 0.075 กะรัต เข็มแต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้เงิน มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมด้วยกรอบเงิน 
เครือง: ควอตซ์ 
สาย: สตีลขัดเงา

 

 

Link Lady 6 Diamond Bezel

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา ขนาด 29 มิลลิเมตร บนขอบตัวเรือนสลักเลขโรมันลงแลกเกอร์เป็นหลักชั่วโมง 6 หลัก ส่วนอีก 6 หลักประดับด้วยเพชร 6 เม็ด น้ำหนักรวม 0.057 กะรัต กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียว กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: สีเงินแกะลายกิโยเช่ เข็มแต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้เงิน มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมด้วยกรอบเงิน หลักชั่วโมงประดับเพชร 11 เม็ด น้ำหนักรวม 0.075 กะรัต 
เครื่อง: ควอตซ์ 
สาย: สตีลขัดเงา 

 

 

Link Lady Steel & Yellow Gold

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา ขนาด 29 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ (3N) 18k มีให้เลือก 2 แบบคือ สลักเลขโรมันลงแลกเกอร์เป็นหลักชั่วโมง 12 หลักลงบนขอบตัวเรือน และแบบเกลี้ยง กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียว เม็ดมะยมและขาตัวเรือนทำจากเยลโลว์โกลด์ (3N) 18k กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: สีเงินแกะลายกิโยเช่ เข็มเคลือบเยลโลว์โกลด์แต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้เยลโลว์โกลด์ มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมกรอบด้วยเยลโลว์โกลด์ มีให้เลือกในแบบหลักชั่วโมงเลขโรมันสีดำ (ขอบตัวเรือนจะเป็นแบบเกลี้ยง) และแบบหลักชั่วโมงประดับเพชร 11 เม็ด น้ำหนักรวม 0.075 กะรัต (ขอบตัวเรือนจะสลักเลขโรมัน) 
เครื่อง: ควอตซ์ สาย: ทูโทน ทำจากสตีลขัดเงา ส่วนกลางเคลือบโยลโลว์โกลด์

 

 

Link Lady Diamond Dial

 

 

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา ขนาด 29 มิลลิเมตร สลักเลขโรมันลงแลกเกอร์เป็นหลักชั่วโมง 12 หลักลงบนขอบตัวเรือน กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียว กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร 
หน้าปัด: มี 4 แบบให้เลือก คือแบบแกะลายกิโยเช่บนหน้าปัดสีเงิน สีชมพู และสีดำ กับแบบเปลือกหอยมุกสีขาว เข็มแต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้เงิน มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมด้วยกรอบเงิน หลักชั่วโมงประดับเพชร 11 เม็ด น้ำหนักรวม 0.075 กะรัต 
เครื่อง: ควอตซ์
สาย: สตีลขัดเงา

 

 

Link Lady

 

         

ตัวเรือนขนาด 34.5 มม.     ตัวเรือนขนาด 29 มม.

 

ตัวเรือน: สตีลขัดเงา กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ฝาหลังขันเกลียว กันน้ำได้ในระดับ 100 เมตร มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 29 มิลลิเมตร และ 34.5 มิลลิเมตร 
หน้าปัด: สีเงินแกะลายกิโยเช่ เข็มแต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาสีขาว โลโก้เงิน มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ 6 นาฬิกาล้อมด้วยกรอบเงิน หลักชั่วโมงเลขโรมันสีดำ 
เครือง: ควอตซ์
สาย: สตีลขัดเงา

 

By: Viracharn T.