BASELWORLD 2012 - New pieces from GRAHAM & U-BOAT
รายงานนาฬิกาใหม่ๆ จากงาน BASELWORLD 2012 โดย IAMWATCH ขอนำท่านไปพบกับเรือนเวลารุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจจากแบรนด์นาฬิกาในแนวที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ได้แก่ GRAHAM และ U-BOAT ซึ่งเป็น 2 แบรนด์ที่ทำนาฬิกาออกมาในรูปลักษณ์ที่เรียกว่าชายตามองแว้บเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นนาฬิกาอะไร ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะอยู่บนข้อมือของผู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงครับ
GRAHAM
ในปีนี้ GRAHAM เปลี่ยนแนวมานำเสนอนาฬิกาของตนในรูปแบบใหม่ด้วยการนำสไตล์ดั้งเดิมและกลิ่นอายความเป็นอังกฤษจากยุคทศวรรษที่ 30 มาปรับใช้ในนาฬิกาตระกูลดัง Chronofighter ของตน โดยให้ชื่อว่า Chronofighter 1695 และส่งผลมาถึง Chronofighter Oversize Black Sahara ที่มาในมาดเรียบขรึมในโทนสีและรูปแบบการจัดวางสเกลกับตัวเลขบนหน้าปัดที่เรียบร้อย ส่วนในรุ่นอื่นๆ ก็มีที่น่าสนใจอย่างนาฬิกาโครโนกราฟโมโนพุชเชอร์สำหรับดำน้ำรุ่นใหม่เอี่ยม Chronofighter Oversize Prodive Professional ทีมากับคุณสมบัติกันน้ำได้ถึงระดับ 600 เมตร มีออโตเมติกฮีเลียมวาล์ว และมีกระเดื่องกดจับเวลาที่นำมาใช้ในนาฬิกาดำน้ำเป็นครั้งแรก ซึ่งจะผลิตขึ้นในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น ต่อด้วยเวอร์ชั่นพิเศษและเวอร์ชั่นใหม่ของ Silverstone นาฬิกาธีมเรซซิ่งกับ Silverstone Stowe GMT Chapman ที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพื่อรำลึกถึง Sir Colin Chapman ตำนานแห่งยานยนต์ของประเทศอังกฤษ และ Silverstone Stowe Racing ที่มาในรูปแบบดำดุในตัวเรือนทำพีวีดีดำหน้าปัดลายคาร์บอน ส่งท้ายด้วย Swordfish Booster Iris ที่ใช้เทคนิคกรรมวิธีการเคลือบตัวเรือนแบบใหม่ทำให้ตัวเรือนเปล่งประกายสีสันออกมาเป็นสีรุ้งแปลกตาและไม่เหมือนใคร
Chronofighter 1695
สไตล์ดั้งเดิมและความเรียบง่ายของรูปแบบหน้าปัดนาฬิกาในยุคก่อนถูกนำเข้ามาผสมผสานกับความเป็นตัวตนอันแข็งแกร่งของ Chronofighter ที่โดดเด่นด้วยกระเดื่องกดปุ่มจับเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเข้ากันในตัวเรือนวัสดุทองคำ สร้างความแตกต่างจากที่แล้วมาได้อย่างดีทีเดียว
ตัวเรือน: พิงค์โกลด์ 18k ขนาด 42 มิลลิเมตร เม็ดมะยมซ้าย พร้อมกระเดื่องกดปุ่มจับเวลาซึ่งครอบอยู่บนเม็ดมะยม
ฝาหลัง: พิงค์โกลด์ 18k สลักภาพหอดูดาวหลวงแห่งกรีนนิชด้วยมือ เพื่อเป็นการรำลึกถึง George Graham ช่างนาฬิกาประจำสถาบันแห่งนี้ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ กรุกระจกแซฟไฟร์ที่มุมซ้ายด้านล่างเพื่อให้มองเห็นบาลานซ์วีล
คุณสมบัติการกันน้ำ: 50 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดสีเงิน Silver-white บอกเวลาแบบ 2 เข็ม วงนาทีจับเวลาอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เข็มสีทอง เข็มวินาทีจับเวลาทรงโค้ง
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 30 นาที บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calbre G1745 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 25 จิวเวล
สาย: หนังจระเข้สีน้ำตาล
นอกจากตัวเรือนพิงค์โกลด์แล้วยังมีในแบบตัวเรือนสตีลในหน้าปัดสีขาวหรือสีดำที่มากับหลักชั่วโมงแบบตัวเลขหรือแบบตัวเลขร่วมกับขีดพร้อมสายหนังสีน้ำตาล สีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำให้เลือกด้วยโดยจะมากับฝาหลังที่สลักภาพด้วยวิธีทางเคมีแทนการสลักด้วยมือ
Chronofighter Oversize Black Sahara
มาในคอนเซ็ปต์ที่ต้องการให้เวอร์ชั่นใหม่ของ Chronofighter Oversize เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตจริงยิ่งขึ้นในรูปลักษณ์ที่ผู้ใช้ชีวิตแบบลุยๆ น่าจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก
ตัวเรือน: สตีลขนาด 42 มิลลิเมตร ทำพีวีดีดำ ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำ เม็ดมะยมซ้าย พร้อมกระเดื่องกดปุ่มจับเวลาซึ่งครอบอยู่บนเม็ดมะยมทำจากวัสดุคาร์บอน
ฝาหลัง: กรุกระจกแซฟไฟร์รมดำ
คุณสมบัติการกันน้ำ: 100 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดสีดำ วงวินาทีขนาดเล็กอยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา วงนาทีจับเวลาอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 8.30 นาฬิกา มีสเกลเทเลมิเตอร์อยู่รอบขอบหน้าปัดโดยเบสสเกลจากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก คือ 25 องศาเซลเซียส ตัวเลข เข็ม และหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสีเบจ เข็มจับเวลาสีเบจ
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 30 นาที บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre G1747 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 25 จิวเวล
สาย: ผ้าสีเบจ บัคเกิ้ลเซรามิกสีดำ
และยังมีเวอร์ชั่นตัวเลขชั่วโมงและเข็มสีเทา-ดำ เข็มและสเกลจับเวลานาทีสีส้มในตัวเรือนพีวีดีดำสายผ้าสีดำที่เรียกว่า Black Forest หรือตัวเลขชั่วโมงและเข็มสีขาว เข็มจับเวลาสีส้ม ตัวเรือนสตีลขอบตัวเรือนเซรามิกดำคู่กับสายผ้าสีดำ หรือตัวเลขชั่วโมงและเข็มสีเขียวทหาร ตัวเรือนพีวีดีดำสายผ้าสีเขียว หรือหน้าปัดสีเทา เคาน์เตอร์ย่อยสีดำ ตัวเลขและเข็มสีเทา สายผ้าสีดำ ในตัวเรือนพีวีดีดำให้เลือกตามความชื่นชอบของแต่ละคนด้วย
Chronofighter Oversize Prodive Professional
นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาโครโนกราฟดำน้ำรุ่นใหม่เอี่ยมของ GRAHAM และเป็นนาฬิกาดำน้ำที่นำกระเดื่องกดจับเวลามาใช้เป็นครั้งแรกซึ่งทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นจับเวลายามอยู่ใต้ผืนน้ำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น แถมยังเป็นแบบโมโนพุชเชอร์ และยังมาพร้อมออโตเมติกฮีเลียมวาล์วที่ทำให้สามารถกันน้ำได้ถึงระดับ 600 เมตรอีกต่างหาก
ตัวเรือน: สตีลขนาด 45 มิลลิเมตร พร้อมออโตเมติกฮีเลียมวาล์วเคลือบพีวีดีดำ ขอบตัวเรือนสตีลทำพีวีดีดำสลับสตีลหมุนได้ทิศทางเดียว (120 ตำแหน่ง) ออกแบบรูปทรงและพื้นผิวให้เหมาะกับการหมุนผ่านถุงมือ มีกระเดื่องกดจับเวลาทำจากสตีลเคลือบพีวีดีดำอยู่ทางด้านซ้ายซึ่งใช้ควบคุมทั้ง เริ่ม/หยุด และรีเซ็ต ด้วยการกดกระเดื่องที่จุดเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการกดใช้งานผ่านถุงมือหนาๆ ยามอยู่ใต้น้ำ เม็ดมะยมหุ้มยางสีเหลืองแบบขันเกลียวพร้อมระบบล็อคอัตโนมัติและมีวงแหวนสีแดงเพื่อแสดงว่าเม็ดมะยมยังไม่ได้ล็อค
ฝาหลัง: ขันเกลียวทำจากสตีล พิมพ์รูปฉลามและหมายเลขประจำเรือน
คุณสมบัติการกันน้ำ: 600 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดสีดำ วงนาทีจับเวลาอยู่ที่ตำแหน่ง 7 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ด้านในของเคาน์เตอร์วินาทีทรงใบพัด ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง เข็ม เคาน์เตอร์ และหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงในแบบทูโทนสีฟ้ากับสีเขียว อ่านค่าง่ายและชัดเจน
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 30 นาที ปุ่มกดแบบโมโนพุชเชอร์ บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre G1734 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 25 จิวเวล
สาย: ยางสีเหลือง พร้อมบานพับสตีลที่สามารถปรับขยายได้
จำนวนการผลิต: 200 เรือน
ส่วนใครเห็นว่าสีเหลืองดูแสบสันต์เกินไป ทาง GRAHAM ก็มีรุ่นเวอร์ชั่น Prodrive ที่ใช้สายยางและยางหุ้มเม็ดมะยมสีดำ กับรุ่นหน้าปัดกับสายสียางสีน้ำเงินยางหุ้มเม็ดมะยมสีดำให้เลือกด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นแบบการผลิตปกติไม่ได้จำกัดจำนวน
Silverstone Stowe GMT Chapman
เวอร์ชั่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัดของ Silverstone Stowe GMT รุ่นนี้เป็นการรำลึกถึง Sir Colin Chapman ผู้นำในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศอังกฤษ ผู้สร้างรถแข่งและรถสปอร์ต LOTUS อันเลื่องชื่อ สะท้อนผ่านสีสัน เหลืองและเขียวบนนาฬิการุ่นนี้
ตัวเรือน: สตีลขนาด 48 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์ด้านบนติดแผ่นอลูมิเนียมสีเขียวพิมพ์สเกล 24 ชั่วโมง เม็ดมะยมแบบขันเกลียวกับปุ่มกดแกะลายที่แป้นอยู่ทางด้านขวา
ฝาหลัง: กรุแซฟไฟร์ และสลักหมายเลขประจำเรือนบนขอบฝาหลัง
คุณสมบัติการกันน้ำ: 100 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดลายคาร์บอนสีดำมีสเกลทาคีมิเตอร์อยู่บนขอบหน้าปัด มีวงนาทีจับเวลาอยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาพื้นสีดำขอบสีเขียว วงวินาทีอยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ขนาดใหญ่แบบบิ้กเดท ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มเคลือบสารเรืองแสงสีขาว เข็มจับเวลาสีเหลือง เข็มจีเอ็มทีสีดำปลายศรแดงแต้มสารเรืองแสงสีขาว ตัวเลขชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสีเหลือง
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 30 นาที บอกเวลาที่ 2 ด้วยเข็มกลาง วันที่ขนาดใหญ่แบบ 2 หลักแสดงด้วยจานดิสก์ 2 จาน
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มที Calibre G1721 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 28 จิวเวล
สาย: ยางสีดำลวดลายดอกยางรถยนต์ตกแต่งด้วยแถบสีเหลือง (มีรุ่นสายสตีลให้เลือกด้วย)
จำนวนการผลิต: 500 เรือน
Silverstone Stowe Racing
นาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่ในสายการผลิตปกติของ Silverstone Stowe รุ่นนี้มากับตัวเรือนสีดำทะมึนพร้อมหน้าปัดลายคาร์บอนไฟเบอร์สีดำ และแป้นกดแกะลายแป้นเหยียบของรถแข่ง เข้าคู่กับสายยางลายดอกยางรถยนต์แบบสุดๆ
ตัวเรือน: สตีลขนาด 48 มิลลิเมตร ทำพีวีดีดำ ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์ เม็ดมะยมขันเกลียวและปุ่มกดจับเวลาทรงรีสลักลายแป้นเหยียบสไตล์รถแข่งทำพีวีดีดำ อยู่ทางด้านขวา
ฝาหลัง: กรุแซฟไฟร์รมดำ คุณสมบัติการกันน้ำ: 100 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดลายคาร์บอนไฟเบอร์สีดำ ขอบหน้าปัดสีเหลืองพิมพ์สเกลนาที วงนาทีจับเวลาพื้นดำขอบเหลืองอยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 7 นาฬิกา เข็มแต้มสารเรืองแสงสีขาว เข็มจับเวลาสีเหลือง ตัวเลขสีขาว
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโดมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 30 นาที บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟแบบคอลัมน์วีล Calibre G1742 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 28 จิวเวล สาย: ยางสีดำลวดลายยางรถยนต์ตกแต่งด้วยแถบสีเหลือง
นอกจากเวอร์ชั่นที่ตกแต่งด้วยสีเหลืองแล้วยังมีอีกรูปแบบในเวอร์ชั่นตกแต่งด้วยสีขาวด้วย โดยส่วนที่เป็นสีเหลืองนั้นจะมาในสีขาวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขอบหน้าปัด เข็มจับเวลา ตัวเลข ตลอดจนแถบสีที่อยู่บนสาย
Swordfish Booster Iris
ปิดท้ายคอลเลคชั่นใหม่ประจำปี 2012 ของ GRAHAM กันด้วยนาฬิกาในตระกูล Swordfish ที่มากับตัวเรือนสีสันแบบใหม่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือเป็นตัวเรือนสีเข้มที่เปล่งประกายเหลือบสีต่างๆ ออกมาพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น เขียว ม่วง น้ำเงิน หรือชมพู จากเรนโบว์เอฟเฟ็กต์ที่ทำให้คลื่นแสงที่ตกกระทบตัวเรือนสตีลซึ่งผ่านกรรมวิธีสุดซับซ้อนนั้นแตกกระจายสเปคตรัมออกเป็นสีสันต่างๆ เช่นเดียวกับฟองสบู่หรือคราบน้ำมันบนพื้น โดยจะต้องนำตัวเรือนที่เคลือบพีวีดีดำและสารประกอบอันซับซ้อนอีกหลายชั้นในระดับนาโนไปผ่านเครื่องสุญญากาศขนาดใหญ่เพื่อสร้างปฏิกิริยาพลาสม่าทำให้เกิดฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่บนพื้นผิวที่จะทำให้มีสีสันต่างๆ เปล่งประกายออกมายามต้องแสงไฟ สร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิการุ่นนี้อย่างไม่มีใครเหมือน คำว่า Iris ที่ใช้ในชื่อรุ่นนี้ มาจากภาษาลาตินที่แปลว่าสายรุ้งนั่นเอง
ตัวเรือน: สตีลขนาด 48 มิลลิเมตร เคลือบพีวีดีดำและผ่านกรรมวิธี Iridescent effect (ผลงานแห่งสายรุ้ง) ขอบตัวเรือนทำจากสตีลและผ่านกรรมวิธีเช่นกัน มีช่องหน้าต่างสไตล์ช่องอากาศรูกลมข้างเรืออันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล 2 ช่อง ณ ตำแหน่ง 3 กับ 9 นาฬิกา ปุ่มกดแกะลายบนแป้นและเม็ดมะยมอยู่ด้านซ้ายมือเคลือบพีวีดีดำและผ่านกรรมวิธีเช่นเดียวกับตัวเรือน
ฝาหลัง: แบบขันเกลียวกรุแซฟไฟร์รมดำ คุณสมบัติการกันน้ำ: 100 เมตร
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีดำ ตัวเลขและหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสีดำ วงนาทีจับเวลาพื้นสีดำอยู่ในลูพที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ส่วนวงชั่วโมงจับเวลาจะอยู่ในลูพที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา มองเห็นชัดเจนทั้งคู่ผ่านสเกลขยายของกระจกลูพในระดับ 15% เข็มกลางสเกเลตันเคลือบสารเรืองแสงสีดำที่ส่วนปลาย เข็มวินาทีเล็กสีดำกวาดบอกในเคาน์เตอร์เดียวกับชั่วโมงจับเวลาโดยใช้สเกลวงใน ตัวเลขกับหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสีดำ เข็มจับเวลาสีเทา
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์แบนราบพร้อมลูพขยาย 2 ชิ้น เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ 12 ชั่วโมง
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre G1710 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง 34 จิวเวล
สาย: หนังจระเข้สีเขียว บัคเกิ้ลเซรามิกสีดำ
U-BOAT
แบรนด์นี้เคยเข้ามาทำตลาดในไทยอยู่พักหนึ่งโดยเปิดบูติกอยู่ที่ชั้นล่างของเซ็นทรัลเวิลด์ก่อนที่ห้างจะถูกเพลิงไหม้ไปจากผลสืบเนื่องของเหตุการณ์ทางการเมืองในปี 2010 และล่าสุดได้กลับมาอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยวางจำหน่ายในแผนกนาฬิกาของสยามพารากอน U-BOAT เป็นนาฬิกาที่มีคนรู้จักกันค่อนข้างมากคงด้วยรูปแบบการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ดิบ และบึกบึนที่ดีไซเนอร์ของแบรนด์ Italo Fontana เป็นผู้ออกแบบและวางรากฐานเอาไว้อย่างแข็งแรงนั่นเอง ในงาน BASELWORLD 2012 นี้ ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ออกมาหลายแบบด้วยกัน โดยมีไฮไลต์อยู่ที่รุ่น The Black Swan ซึ่งจะกลายเป็นนาฬิกา U-BOAT ที่หรูหราที่สุดและมีราคาสูงที่สุดของปัจจุบัน ต่อด้วยนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นอีก 2 รุ่น คือ U-42 GMT นาฬิกาจีเอ็มทีตัวเรือนไทเทเนียมและรุ่น U-42 B and B กับนาฬิกาโทนสีดำตกแต่งด้วยโลหะบรอนซ์ ที่เป็นวิวัฒนาการต่อเนื่องจากรุ่น U-42 ดั้งเดิมซึ่งเปิดตัวที่งาน BASELWORLD 2010 ด้วยรูปโฉมที่ได้รับการพัฒนามาจากนาฬิกาที่คุณปู่ของ Italo Fontana เคยทำขึ้นในปี ค.ศ.1942 เพื่อให้กับกองทัพเรืออิตาลีใช้กัน ก่อนที่จะออกเวอร์ชั่นโครโนกราฟมาอีก 2 รุ่นในปี 2011
The Black Swan
นาฬิกาที่หรูและมีราคาสูงที่สุดของแบรนด์รุ่นนี้มีรากฐานมาจากรุ่น Classico Gold ตัวเรือนทอง 18k โดยนำมาประดับเพชรสีขาวและสีดำขนาดต่างๆ จำนวนรวม 800 เม็ด น้ำหนักรวม 11 กะรัต ลงทั่วบริเวณขอบตัวเรือน ด้านข้าง ขาสาย และบัคเกิ้ล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพชรสีดำ ส่วนเพชรสีขาวนั้นถูกนำมาเรียงอยู่ภายในคำว่า U-BOAT ด้านข้างของตัวเรือนเท่านั้น โดยเป็นการประดับทีละเม็ดจากช่างฝีมือชาวอิตาเลียน
ตัวเรือน: เยลโลว์โกลด์ (2N) 18k ขัดซาตินด้วยมือ ขนาด 45 มิลลิเมตร เม็ดมะยมซ้าย พร้อมฝาปิดกันกระแทกทำจากทอง 18k น้ำหนักทองรวม 108.25 กรัม ประดับเพชรสีขาวและสีดำ 800 เม็ด น้ำหนักรวม 11 กะรัต บนขอบตัวเรือน ด้านข้าง ขาสาย และบัคเกิ้ล
ฝาหลัง: ทอง 18k ยึดด้วยสกรูว์ 8 ตัว หน้าปัด: แบบซ้อน 2 ชั้น ชั้นในทำจากทอง 18k แผ่นนอกทำสีดำ ลักษณะเดียวกับที่ใช้ในรุ่นที่ผลิตให้กองทัพ เปิดช่องให้เห็นเม็ดทับทิม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ ฟังก์ชั่น: บอกเวลาแบบ 3 เข็ม บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ
สาย: หนังจระเข้สีดำตัดเย็บด้วยมือ บัคเกิ้ลทอง 18k ฝังเพชรสีดำที่ด้านข้าง
U-42 GMT
นาฬิการุ่นใหม่นี้มาในตัวเรือนไทเทเนียมที่บอกเวลาได้ถึง 3 ไทม์โซนด้วยกัน ผลิตขึ้นในแบบจำกัดจำนวน
ตัวเรือน: ไทเทเนียม ขนาด 53 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนไทเทเนียมสลักเลขชั่วโมงสลับกับหลักชั่วโมงแบบ 24 ชั่วโมง เม็ดมะยมและแกนอยู่ทางด้านซ้าย
ฝาหลัง: ไทเทเนียม คุณสมบัติการกันน้ำ: 300 เมตร
หน้าปัด: ชั้นในเป็นทองเหลือง แผ่นนอกทำสีดำ เข็มทำจากทองเหลือง หน้าต่างบอกวันที่อยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์
ฟังก์ชั่น: บอกเวลาท้องถิ่นแบบ 3 เข็ม ส่วนอีก 2 ไทม์โซน บอกด้วยเข็ม 24 ชั่วโมง และขอบตัวเรือนหมุนได้ บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มที กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง
สาย: หนังสีน้ำตาลตัดเย็บด้วยมือพร้อมเพลทไทเทเนียมและป้ายสลัก Limited Edition บัคเกิ้ลไทเทเนียม
จำนวนการผลิต: 300 เรือน
U-42 “B and B”
นาฬิการุ่นใหม่นี้มาในตัวเรือนไทเทเนียมทำสีดำร่วมกับวัสดุต่างๆ ที่ทำจากบรอนซ์ ทำให้ได้อารมณ์ดิบแบบเพียวๆ ผลิตในแบบจำกัดนวน
ตัวเรือน: ไทเทเนียมทำสีดำด้วยกรรมวิธี IP Black coating ขนาด 53 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนไทเทเนียมสีดำหมุนได้ 2 ทิศทางที่ล็อคด้วยเลเวอร์ทำจากบรอนซ์ทางด้านขวา หลักชั่วโมงที่ 12 นาฬิกาทำจากเซรามิก เม็ดมะยมและแกนทางด้านซ้าย รวมถึงสกรูว์บนขอบตัวเรือน และเพลทรันเลขตัวเรือนด้านข้างทำงจากบรอนซ์
ฝาหลัง: ไทเทเนียมทำสีดำด้วยกรรมวิธี IP Black coating ยึดด้วยสกรูว์ 6 ตัว
คุณสมบัติการกันน้ำ: 300 เมตร
หน้าปัด: แบบซ้อน 2 ชั้น ชั้นในเป็นบรอนซ์ และแผ่นนอกทำสีดำ เข็มสีบรอนซ์ มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
คริสตัล: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ ฟังก์ชั่น: บอกเวลาแบบ 3 เข็ม บอกวันที่
กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ 25 จิวเวล ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 40 ชั่วโมง
สาย: หนังวัวสีน้ำตาลตัดเย็บด้วยมือ บัคเกิ้ลไทเทเนียม ลิ้นทำจากบรอนซ์
จำนวนการผลิต: 300 เรือน
By: Viracharn T.