Pre-SIHH 2013 - Grand Lange 1 Lumen นาฬิกาสุดสวยจาก A.LANGE & SÖHNE แห่งเยอรมนี
ประเทศเยอรมนีเป็นอีกอาณาจักรหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาช้านานในด้านการประดิษฐ์นาฬิกา น่าเสียดายที่ต้องเผชิญกับภัยสงครามและการเมืองมาหลายสิบปีในทศวรรษก่อน ทำให้ผลงานของพวกเขาขาดตอนไปบ้างจากสายตาและข้อมือของชาวโลกแตกต่างจากประเทศสงบสุขอย่างสวิตเซอร์แลนด์ แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่ งานนาฬิกาของพวกเขาก็กลับมายิ่งใหญ่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกกันอีกครั้ง
หนึ่งในสุดยอดแบรนด์นาฬิกาของเยอรมันนั้น คงไม่มีใครปฏิเสธงานของ A.LANGE & SÖHNE (เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ) แบรนด์ที่ถือกำเนิดขึ้นโดย Ferdinand A. Lange ผู้ก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาขึ้นในปี 1845 และเป็นผู้วางรากฐานสำคัญให้กับอุตสาหกรรมการประดิษฐ์นาฬิกาของราชอาณาจักรแซกโซนี ซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐหนึ่งในเยอรมนีนั่นเอง และงานนาฬิกาพกของเขาก็กลายเป็นที่ต้องการอย่างสูงในหมู่นักสะสมนาฬิกาทั่วโลก
กิจการการผลิตนาฬิกาของ A.LANGE & SÖHNE เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในปี 1990 โดย Walter Lange เหลนชายของ Ferdinand เขาตั้งใจให้นาฬิกา A.LANGE & SÖHNE ทุกเรือนมีความเป็นเอ็กซ์คลูสีฟอยู่ในตัวด้วยการใช้เฉพาะกลไกที่ผ่านการตกแต่งและประกอบอย่างประณีตสุดๆ ด้วยมือ ทั้งยังพัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง บรรจุอยู่ในตัวเรือนวัสดุล้ำค่า คือ ทอง และแพลตินั่ม เท่านั้น โดยมีจำนวนการผลิตเพียงไม่กี่พันเรือนต่อปี ซึ่งก็ทำให้ LANGE มีกลไกของตนเองใช้ถึงกว่า 40 คาลิเบอร์ด้วยกันจากระยะเวลาเพียง 20 กว่าปี เรียกว่ามากติดอันดับสูงสุดในหมู่ผู้ผลิตนาฬิการะดับสูงของโลก และนาฬิกาแต่ละแบบก็เป็นที่ปรารถนาของคนรักนาฬิกาทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนวัตกรรมการแสดงวันที่ขนาดใหญ่ในซีรี่ส์ Lange 1 และการแสดงวันที่แบบจั๊มปิ้งอันแม่นยำใน Lange Zeitwerk อันเป็นตัวแทนของนาฬิกาซีรี่ส์ใหม่ที่พร้อมจะสืบสานตำนานของแบรนด์ให้คงอยู่สืบไป และ Grand Lange 1 “Lumen” รุ่นที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นผลงานชิ้นล่าสุดที่ A.LANGE & SÖHNE เผยโฉมออกมาให้เห็นกันในเดือนธันวาคมซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี 2012 ที่ผ่านมา
Grand Lange 1 “Lumen” Ref.117.035 เป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือนในตัวเรือนแพลตินั่ม ซึ่งทาง LANGE ได้ใส่ความเอ็กซ์คลูซีฟเพิ่มเติมเข้าไปด้วยการใช้แผ่นแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกึ่งโปร่งใสมาเป็นแผ่นหน้าปัดหลักเพื่อให้มองเห็นกลไกและการทำงานของจานวันที่เรืองแสงขนาดใหญ่ จึงเป็นที่มาของภาษาลาตินว่า “Lumen” ซึ่งแปลว่าแสงที่ต่อท้ายชื่อของนาฬิการุ่นนี้ ที่ก็น่าจะสื่อว่าเป็นนาฬิกาที่ใช้แสงมาเป็นส่วนประกอบให้เกิดความแตกต่างและน่าสนใจ ส่วนกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนนั้นก็ยังสามารถส่งผ่านรังสียูวีลงมาได้ทำให้ยังคงมองเห็นงานขัดแต่งลายเพอร์เลจบนเพลทของวันที่และงานขัดแต่งลายเซอร์คูล่าร์เกรนบนเพลทเครื่องซึ่งเกิดขึ้นจากการขัดด้วยมือโดยใช้หมุดตอกหมุน
การแสดงวันที่ขนาดใหญ่ผ่านช่องหน้าต่างคู่ของนาฬิการุ่นนี้มีที่มาจากกลไกแสดงวันที่ในนาฬิกาไฟว์-มินิท คล็อค เหนือเวทีโรงละคร Semper Opera House ในเดรสเดน ประเทศเยอรมนี ที่ Ferdinand ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้รังสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1841 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้สามารถแสดงวันที่ได้อย่างชัดเจนที่สุด กลไกแสดงวันที่นี้ใช้องค์ประกอบ 2 ส่วนด้วยกันคือ จานดิสก์วงแหวนที่มีตัวเลข 0-9 ซึ่งจะเปลี่ยนตัวเลขวันละครั้ง (กลไกนี้จะค้างตำแหน่งของจานไว้ที่เลข 1 เพิ่มอีก 1 วัน ยามที่ต้องเปลี่ยนจากวันที่ 31 ไปยังวันที่ 1) และแผ่นกากบาทที่แต่ละแฉกจะมีตัวเลข 1-3 และแผ่นว่าง ซึ่งจะแสดงเป็นหลักสิบและเปลี่ยนแฉกทุก 10 วัน (ตำแหน่งของเลข 3 จะอยู่ที่ 11 วันเพื่อแสดงวันที่ 31) ลำดับการเปลี่ยนของวันที่จะถูกควบคุมโดยเฟือง 2 ตัวที่มีการคิดคำนวณซี่ฟันเฟืองเอาไว้อย่างแม่นยำ สำหรับการเคลือบสารเรืองแสงเพื่อให้เห็นวันที่ได้อย่างชัดเจนในที่มืดนั้น เลขตัวหน้าจะเป็นการพิมพ์ตัวเลขสีดำลงบนแผ่นกากบาทซึ่งถูกเคลือบสารเรืองแสงสีขาวเอาไว้ ส่วนเลขตัวหลังนั้น สารเรืองแสงสีขาวจะถูกเคลือบไว้บนพื้นหลังใต้ตัวเลขสีดำที่พิมพ์อยู่บนจานดิสก์ที่ทำจากกระจกใส การปรับตั้งวันที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยปุ่มกดขนาดใหญ่
บนหน้าปัดหลักประกอบด้วยแผ่นหน้าปัดแสดงเวลาและหน้าปัดแสดงวินาทีจัดวางแบบเยื้องศูนย์กลาง และแผ่นวงแหวนขอบหน้าปัด ทั้งหมดทำจากเงินแท้เคลือบสีดำ โดยมีเข็มขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่เหนือหน้าปัดวินาทีทำหน้าที่ชี้ไปยังหลักรูปสามเหลี่ยมซึ่งอยู่บนวงแหวนขอบหน้าปัดเพื่อแสดงค่ากำลังสำรอง หลักชั่วโมงและหลักแสดงกำลังสำรองเคลือบสารเรืองแสง เข็มต่างๆ ทำจากทองคำชุบโรเดียมแต้มสารเรืองแสง ตัวเรือนทำจากแพลตินั่มมีขนาด 40.9 มิลลิเมตร หนา 9.8 มิลลิเมตร สวมใส่คู่กับสายหนังจระเข้เย็บด้วยมือสีดำพร้อมหัวเข็มขัดแพลตินั่ม
กลไกของนาฬิการุ่นนี้คือ กลไกไขลาน Calibre L095.2 แน่นอนว่าเป็นกลไกอินเฮ้าส์ที่คิดค้นและผลิตขึ้นเองภายในโรงงานของตน กลไกนี้ไม่มีกระปุกลานเมนสปริงตัวที่สองแต่ด้วยความสามารถทางเทคนิคชั้นสูงทำให้การสำรองพลังงานยังคงมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมได้ถืง 72 ชั่วโมง จากการนี้ทำให้จัดวางส่วนประกอบกลไกต่างๆ รวม 400 ชิ้นได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้นและทำให้กลไกมีความบางลงกว่าที่เคย เพลทและบริดจ์ต่างๆ ทำจากเยอรมันซิลเวอร์บริสุทธิ์ ชิ้นส่วนต่างๆ ได้รับการสลักและขัดแต่งอย่างงดงามด้วยมือซึ่งสามารถชื่นชมความงานได้ผ่านทางฝาหลังกรุแซฟไฟร์ กลไกนี้มี 42 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 34.1 มิลลิเมตร หนา 4.7 มิลลิเมตร สามารถหยุดเข็มวินาทีได้ โดยแต่ละเครื่องจะถูกประกอบขึ้นด้วยมือถึง 2 รอบด้วยกันตามมาตรฐานอันเข้มงวดของ LANGE
ตัวจริงของนาฬิการุ่นนี้น่าจะมีให้เห็นกันในงาน SIHH 2013 ที่เจนีวา ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 21 มกราคมนี้ครับ ท่านใดสนใจคงต้องติดต่อทางตัวแทนจำหน่าย (เพนดูลัม) เอาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะไม่รู้ว่าในจำนวนการผลิต 200 เรือนนี้ จะได้โควต้านำมาจำหน่ายสักกี่เรือน หรือจะต้องสั่งจองล่วงหน้ากันหรือไม่อย่างไร รุ่นพิเศษลิมิเต็ดในตัวเรือนแพลตินั่มอย่างนี้ เรื่องค่าตัวคงไม่ต้องพูดถึง
By: Viracharn T.
