A. LANGE & SÖHNE Datograph Perpetual Tourbillon Honeygold “Lumen”
25 ปีหลังจากการเปิดตัวนาฬิการุ่น Datograph แบรนด์นาฬิกา A. LANGE & SÖHNE ก็นำเสนอการตีความครั้งใหม่กับ Datograph Perpetual Tourbillon Honneygold “Lumen” ที่งาน WATCHES & WONDERS GENEVA 2024 ที่ถือเป็นนาฬิกาแบบซับซ้อนของกลไกโครโนกราฟฟลายแบ็ค ผนวกเข้ากับฟังก์ชั่นเพอเพทชวลคาเลนดาร์ พร้อมทั้งชุดตูร์บิยองที่มีกลไกแบบหยุดวินาทีได้ และจะนำเสนอเป็นครั้งแรกในวัสดุฮันนี่โกลด์สุดพิเศษเฉพาะของแบรนด์ (Honeygold®) ในแบบ “Lumen” ที่จำกัดการผลิตเพียง 50 เรือนทั่วโลก
จากในปี 2016 กับการเปิดตัวนาฬิการุ่น Datograph Perpetual Tourbillon ที่โดดเด่นในด้านความเที่ยงตรงสูง ซึ่งแม้ว่าระดับความซับซ้อนของกลไกเพียงอย่างเดียว ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จทางเทคนิคของแบรนด์แล้ว แต่ความท้าทายที่สุดคือเรื่องของหน้าปัด ที่สามารถจัดระเบียบได้เป็นอย่างดี รวมทั้งอ่านค่าได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ส่งผลให้นาฬิการุ่น Datograph Perpetual Tourbillon Honeygold “Lumen” สามารถแสดงให้เห็นถึงความประณีตทางเทคนิค ที่รวมเข้ากับองค์ประกอบในการออกแบบด้านอื่นๆ พร้อมกัน
ซึ่งองค์ประกอบมากมายเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้นาฬิกากลายเป็นงานศิลปะชั้นสูง โดยมีความพิเศษในแง่ของฟังก์ชั่นต่างๆ รวมเข้าไปอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบฟลายแบ็ค พร้อมการแสดงค่าวันที่ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้สามารถวัดค่าเวลาได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในขณะที่ฟังก์ชั่นเพอเพทชวลคาเลนดาร์ จะสามารถแสดงค่าเวลาในระยะยาวตามรูปแบบปฏิทินเกรกอเรียน พร้อมความสามารถในการแสดงค่าปีอธิกสุรทิน ในแบบที่สามารถปรับตั้งค่าหนึ่งวันได้โดยปุ่มที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา
ในขณะที่ความเป็น “Lumen” ของนาฬิการุ่นนี้จะไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่าง ด้วยกลไกอันชาญฉลาดเท่านั้น แต่ยังเนื่องจากการจัดวางรูปแบบต่างๆ ได้อย่างชัดเจนบนหน้าปัด ซึ่งแปลค่าความประณีตทางเทคนิคเป็นภาษาการออกแบบที่โดดเด่น ประกอบด้วยรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่เกิดจากวันที่ขนาดใหญ่ ในกรอบช่องรับแสงคู่ที่อยู่ใต้ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยอีก 2 หน้าปัด ที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมบนหน้าปัด ที่มีรูปแบบชัดเจนและได้รับการจัดระเบียบไว้เป็นอย่างดี
และรวมไปถึงการเผยรูปแบบที่เปล่งประกายในความมืด กับหน้าปัดกึ่งโปร่งใสและการเคลือบสารเรืองแสง ที่ทำให้หน้าปัดและฟังก์ชันการทำงานต่างๆ สามารถเรืองแสงขึ้น ยิ่งสภาพแวดล้อมโดยรอบมืดลงเท่าไหร่ องค์ประกอบเรืองแสงก็จะปรากฏเด่นชัดมากขึ้นเท่านั้น ทั้งเข็มแสดงค่าเวลาชั่วโมงและเข็มนาที ก็ยังมีการฝังด้วยสารเรืองแสง ในขณะที่เข็มแสดงค่าวินาทีโครโนกราฟ จะได้รับการเคลือบอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเข็ม พร้อมทั้งสเกลแสดงค่านาทีและสเกลทาคีมิเตอร์ ที่จะสามารถเรืองแสงได้ดีเช่นกัน
พร้อมวันที่เรืองแสงขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งเป็นไฮไลท์อันโดดเด่น ซึ่งปรากฏเป็นครั้งแรกในนาฬิการุ่น Grand Lange “Lumen” ในปี 2013 ที่ช่วยทำให้มองเห็นกลไกอันชาญฉลาดได้ ยิ่งทำให้หน้าปัดนาฬิกาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันมืดมิด พร้อมการทำงานของกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ L952.4 ที่มีชุดคอลัมน์วีลแบบคลาสสิคและมาพร้อมกับชุดบาลานซ์สปริงแบบอิสระ เช่นเดียวกับบาลานซ์วีลที่มีน้ำหนัก และอยู่ในตำแหน่งเยื้องศูนย์ ให้ความเสถียรที่ดีเยี่ยมตลอดช่วงพลังสำรองลานทั้ง 50 ชั่วโมง
ที่ความถี่ 18,000 รอบต่อชั่วโมงหรือ 2.5 เฮริท์ซ ที่ช่วยทำให้สามารถกดจับเวลาได้อย่างแม่นยำ ถึงระดับหนึ่งในห้าของวินาที พร้อมจุดเด่นด้านคุณภาพตามแบบฉบับ ของแบรนด์อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น บริจด์ที่ผลิตจากเยอรมันซิลเวอร์ และสกรูว์ที่สามารถชื่นชมได้ผ่านทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ ในตัวเรือนขนาด 41.5 มิลลิเมตร หนา 14.6 มิลลิเมตร ที่ผลิตจากฮันนี่โกลด์ที่ผสานความแข็งแกร่ง และความเปล่งประกายที่ไม่มีใครเทียบได้ ผนวกกับ “ลูเมน” อันเรืองแสงสวยงาม