ROLEX BASELWORLD 2013 Novelties
หลายคนคงได้เห็นกันแล้วกับนาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของ ROLEX ประจำปี 2013 ซึ่งเปิดตัวกันไปในงาน BASELWORLD เมื่อเดือนเมษายน มาอัพเดทกันอีกครั้งแบบครบๆ ดีมั้ยครับ ว่าเค้าออกเวอร์ชั่นอะไรมาเพิ่มเติมให้กับคอลเลคชั่นต่างๆ กันบ้าง
สำหรับในปีนี้ ก็มีเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของนาฬิกาจากคอลเลคชั่นต่างๆ ถึง 5 คอลเลคชั่นด้วยกัน ได้แก่ Daytona, GMT-Master II, Yacht-Master II, Day-Date และ Lady-Datejust ซึ่งหากจะว่ากันถึงโทนสีแล้ว เวอร์ชั่นใหม่ของบรรดานาฬิกาแนวสปอร์ตจาก Rolex ในปีนี้จะมากับโทนสีฟ้า-น้ำเงินเป็นหลัก ซึ่งก็ตรงกับโทนสีที่มาแรงและหลายแบรนด์นำมาใช้กันในปีนี้อย่างไม่น่าเป็นความบังเอิญ เรามาเริ่มต้นจากคอลเลคชั่นที่มีอายุครบ 50 ปีในปีนี้กันก่อนซึ่งก็คือ Daytona
Cosmograph Daytona Ref.116506
หลายคนคาดหมายกันไปต่างๆ นานาว่า Rolex จะฉลองอายุ 50 ปีของ Daytona ด้วยการออก Daytona รุ่นใหม่ แต่ Rolex กลับตัดสินใจที่จะส่ง Daytona ในเวอร์ชั่นสูงค่า นั่นก็คือวัสดุตัวเรือนแพลตินั่มออกมาเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ งานนี้ต้องมีเงินเหลือจริงๆ ล่ะครับถึงจะกัดฟันร่วมฉลองความยืนยาวของตระกูล Daytona กับ Rolex เค้าได้ แต่ก็เชื่อได้ว่ามีแฟนๆ จำนวนมากจากทั่วโลกที่เงินไม่ใช่ปัญหาของพวกเขาและพร้อมที่จะจ่ายเพื่อครอบครองสุดยอดแห่ง Daytona รุ่นนี้
Platinum Daytona มากับขอบตัวเรือนเซรามิกสลักสเกลและตัวเลขที่ทาง Rolex เรียกว่าเซราโครมในสีน้ำตาลเชสต์นัทเช่นเดียวกับรุ่นตัวเรือนเอฟโรสโกลด์ที่มีอยู่แล้ว โดยติดตั้งอยู่บนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตรและจับคู่มากับสายวัสดุแพลตินั่มเช่นเดียวกับวัสดุตัวเรือน หน้าปัดของรุ่นนี้จะใช้เป็นสีฟ้าซึ่งทาง Rolex เรียกขานว่าไอซ์บลู โดยลงแล็กเกอร์สีน้ำตาลเชสต์นัทบนวงรอบเคาเตอร์ย่อยที่มีเส้นขอบบางๆ เป็นไวท์โกลด์ นาฬิกายังคงทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟพร้อมคอลัมน์วีล Calibre 4130 กำลังสำรอง 72 ชั่วโมง ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์เหมือนเช่น Daytona เวอร์ชั่นอื่นๆ ในปัจจุบัน
GMT-Master II Ref.116710 BLNR
GMT-Master II ในปีนี้เพิ่มเวอร์ชั่นขอบตัวเรือนเซรามิกทูโทนพื้นสีน้ำเงินและสีดำพร้อมเข็มจีเอ็มทีกลางสีน้ำเงินเข้ากันมาให้กับรุ่นตัวเรือนสตีลที่ยังคงมีขนาด 40 มิลลิเมตร มาพร้อมสายสตีล และใช้หน้าปัดแล็กเกอร์สีดำ เดินด้วยกลไกอัตโนมัติฟังก์ชั่นจีเอ็มทีและแสดงวันที่ ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ Calibre 3186 เหมือนเช่นเดิม
Yacht-Master II Ref.116680
Yacht-Master II นาฬิกาฟังก์ชั่นรีกัตต้านับเวลาถอยหลังด้วยเข็มกลางเรโทรเกรดสำหรับการเล่นเรือเวอร์ชั่นใหม่นี้มากับตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตรพร้อมสายสตีลที่ใช้ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินคู่กับหน้าปัดแล็กเกอร์สีขาวด้านโดยลงแล็กเกอร์สีน้ำเงินบนวงรอบเคาน์เตอร์วินาทีเล็กพร้อมเส้นขอบไวท์โกลด์และใช้สีโทนน้ำเงินกับสเกลนาทีรีกัตต้า ขอบหลักชั่วโมง และเข็มบอกเวลา เข้ากับสีขอบตัวเรือน ส่วนเข็มวินาทีจับเวลาและปลายเข็มนาทีจับเวลาจะใช้เป็นสีแดง ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติฟังก์ชั่นรีกัตต้าพร้อมคอลัมน์วีล Calibre 4161 ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ กำลังสำรอง 72 ชั่วโมง เช่นเดิม
Day-Date
ปี 2013 นี้ทาง Rolex ออก Day-Date ในแบบตัวเรือนวัสดุทองคำสีต่างๆ พร้อมขอบตัวเรือนแบบฟลุ้ต ซึ่งจะมาคู่กับหน้าปัดลายซันเรย์สีต่างๆ ที่มีสีสันเตะตาโดยจะจับคู่กับสีตัวเรือนและสายหนังจระเข้สีต่างๆ เฉพาะคู่ของตนคู่ใครคู่มัน ตัวเรือนที่ใช้จะเป็นขนาดมาตรฐานที่ 36 มิลลิเมตร เดินด้วยกลไกอัตโนมัติความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ Calibre 3155 ที่มากับฟังก์ชั่นแสดงวันกับวันที่ลักษณะเฉพาะซึ่งเปิดช่องหน้าต่างแสดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาสำหรับวัน กับ 3 นาฬิกาพร้อมติดเลนส์ขยายบนกระจกหน้าปัดสำหรับวันที่
Ref.11838 จะมากับตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ โดยมีหน้าปัดสีเขียว หรือสีคอนยัค ให้เลือก, Ref.11839 จะมากับตัวเรือนไวท์โกลด์ โดยมีหน้าปัดสีน้ำเงิน หรือสีเชอร์รี่ ให้เลือก ส่วนใน Ref.11835 จะมากับตัวเรือนเอฟโรสโกลด์ คู่กับหน้าปัดสีช็อกโกแลต หรือหน้าปัดโรเดียม
Day-Date Sertie
จาก Day-Date เวอร์ชั่นตัวเรือนทองคำสายหนังจระเข้พร้อมหน้าปัดหลากสีสัน มาดูเวอร์ชั่น Sertie ที่มากับตัวเรือนทองคำซึ่งประดับเพชรบาแกตต์อยู่บนขอบตัวเรือนวัสดุไวท์โกลด์และมากับสายวัสดุทองคำชนิดเดียวกับตัวเรือนกันบ้าง
Day-Date Sertie จะมากับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสลักลายคารูเซลที่ติดตั้งกรอบไวท์โกลด์ประดับเพชรซึ่งใช้เป็นหลักชั่วโมงไปในตัว ตัวเรือนจะมีขนาด 36 มิลลิเมตร และใช้กลไกกับลักษณะการแสดงค่าเช่นเดียวกับ Day-Date มีให้เลือก 2 แบบ คือ Ref.118395BR ที่ใช้ตัวเรือนกับสายวัสดุเอฟโรสโกลด์คู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีชมพู และ Ref.118399BR ที่ใช้ตัวเรือนกับสายวัสดุไวท์โกลด์คู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว
Lady-Datejust Pearlmaster Ref.80285
เวอร์ชั่น Pearlmaster ของ Lady-Datejust นี้ หากดูจากชื่อแล้วก็ต้องมีหอยมุกมาเกี่ยวอย่างแน่นอน ใช่ครับ ตัวเรือนเอฟโรสโกลด์ขนาด 29 มิลลิเมตร พร้อมขอบตัวเรือนวัสดุไวท์โกลด์ประดับเพชรของรุ่นนี้มากับหน้าปัดเปลือกหอยมุกซึ่งจะมีสีดำหรือสีขาวให้เลือก โดยบนหน้าปัดจะถูกตกแต่งด้วยงานเส้นลายดอกบัวสีพิ้งค์โกลด์พร้อมประดับเพชรบนหลักชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา สวมคู่กับสายที่มีให้เลือกระหว่างแบบทูโทนด้วยวัสดุเอฟโรสโกลด์สลับการประดับเพชรบนวัสดุไวท์โกลด์ และสายเอฟโรสโกลด์ล้วน ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที Calibre 2235 ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์
By: Viracharn T.