iamwatch

Twitter

โมนาโก ดินแดนในฝันขนาดพื้นที่เล็กประมาณเซ็นทรัลปาร์คในนิวยอร์กอันเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ สวยสง่า หรูหราเปี่ยมรสนิยม และเป็นเมืองที่ต้องตาติดใจของเหล่าชนชั้นสูง เศรษฐี และผู้มีรสนิยมวิไลทั่วโลก จนต้องแวะเวียนไปเยือนอยู่เป็นประจำ หลายท่านอาจรู้จักโมนาโกผ่านทางความโด่งดังของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก (หรือเกรซ เคลลี่) นักแสดงระดับโลกชื่อดังชาวอเมริกันผู้เป็นชายาของเจ้าชายเรนิเยที่ 3 แห่งโมนาโก หรือจะเป็นพระราชโอรส เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโกผู้โด่งดังซึ่งเป็นประมุขแห่งแคว้นโมนาโกในปัจจุบัน และติดอันดับท้อปเทนของราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีกิจการต่างๆ อยู่ภายใต้การบริหารมากมาย รวมไปถึงเจ้าหญิงชาร์ลีน พระชายาผู้เลอโฉม ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกทีมชาติแอฟริกาใต้ และดินแดนแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ตั้งของคาสิโนระดับโลก และการปิดถนนในเมืองเพื่อใช้ในการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าวันมาเป็นเวลายาวนานอีกด้วย

จากความเป็นเอกลักษณ์แห่งดินแดนโมนาโกอันเป็นตัวแทนแห่งการใช้ชีวิตอย่างหรูหราของผู้มีเกียรติทั่วโลกซึ่งไม่มีที่ใดในโลกเสมอเหมือนนี้เอง ทำให้มีผู้ผลิตนาฬิกาอิสระรายหนึ่งก้าวขึ้นมาสู่การเป็นผู้ผลิตนาฬิกาแห่งแคว้นโมนาโกนี้ โดย Dr. Peter Stas ผู้ก่อตั้งแบรนด์ (ซึ่งก็เป็นคนเดียวกับที่ก่อตั้งและเป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกา Frederique Constant แห่งเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และเป็นผู้ปลุกชีพ Alpina นาฬิกาสวิสแบรนด์เก่าแก่อายุ 130 ปีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง) ร่วมกับอีก 2 ท่าน คือ Pim Koeslag ช่างนาฬิกาฝีมือดี และ Robert van Pappelendam นักการตลาดมากประสบการณ์ ได้ตั้งธงเอาไว้ว่านาฬิกาที่ผลิตขึ้นในโมนาโกแบรนด์นี้จะต้องเป็นนาฬิกาหรูชั้นเลิศคุณภาพระดับสูงสุดเท่านั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้คน ดินแดน และประวัติศาสตร์ ของโมนาโก และจะต้องเป็นนาฬิกาที่เดินด้วยกลไกชั้นยอดซึ่งเที่ยงตรงแม่นยำที่สุดจนถึงขนาดว่าเหล่านักประดิษฐ์ในอนาคตจะต้องสนใจศึกษาว่าสร้างกลไกแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งแน่นอนว่ากลไกที่มีคุณสมบัติเช่นนี้จะต้องถูกพัฒนาและผลิตขึ้นด้วยตัวเองแบบอินเฮ้าส์เท่านั้นโดยจะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นเองร่วมกับชิ้นส่วนที่ผลิตโดยผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ และ Ateliers deMonaco (อติลิเยร์ เดอ โมนาโก) ก็คือชื่อของแบรนด์นาฬิกาที่ว่านี้ครับ โดยเปิดตัวนาฬิกาของตนออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009

Robert, Peter และ Pim ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ateliers deMonaco

ปัจจุบัน Ateliers deMonaco มีนาฬิกาอยู่ทั้งหมด 6 คอลเลคชั่นด้วยกัน ซึ่งทุกแบบจะเป็นการผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ นาฬิกาบอกเวลา 3 เข็ม ในคอลเลคชั่น Ronde de Monte-Carlo, นาฬิกากลไกตูร์บิยองตัวเรือนกลม Tourbillon Ronde d'Or, นาฬิกากลไกตูร์บิยองตัวเรือนเหลี่ยม Tourbillon Carre d'Or, นาฬิกากลไกตูร์บิยองพร้อมฟังก์ชั่นมินิทรีพีทเตอร์ คอลเลคชั่น Grand Tourbillon Minute Repeater ที่มีทั้งแบบตัวเรือนกลมและตัวเรือนเหลี่ยม ไปจนถึงนาฬิการะดับสูงสุดที่ใช้ชื่อคอลเลคชั่นว่า Masterpiece ซึ่งจะเป็นนาฬิกาที่มีความพิเศษในแบบต่างๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นการประดับอัญมณีล้ำค่าหรืองานสลักหน้าปัดสุดพิเศษ โดยแต่ละแบบจะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดซึ่งน้อยมากๆ และอีกคอลเลคชั่นก็คือ Quantieme Perpetual ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มากับฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์แบบไม่ธรรมดาที่จะมาเป็นพระเอกของบทความนี้ จะเห็นว่าทั้งหมดจะเป็นนาฬิกาที่ยึดรูปแบบขนบธรรมเนียมแห่งการผลิตนาฬิกาชั้นสูงทั้งสิ้น โดยการเน้นที่กลไกบอกเวลาแบบสามัญ กลไกตูร์บิยอง และกลไกที่มากับคอมพลิเคชั่นระดับสูงอย่างมินิทรีพีทเตอร์หรือเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ ตลอดจนการตกแต่งนาฬิกาด้วยอัญมณีเลอค่าหรืองานสลักตกแต่งหน้าปัดอย่างวิจิตร เช่นเดียวกับแบรนด์นาฬิการะดับสูงชั้นนำของโลก

ในปี 2013 นี้ทาง Ateliers deMonaco ได้ออกนาฬิกาฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์มาใหม่ในชื่อรุ่นว่า Quantieme Perpetual Calendar Eazy Adjust ซึ่งนักประดิษฐ์นาฬิกาได้ทำการพัฒนากลไกอัตโนมัติฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ขึ้นมาใหม่ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงประเด็นที่สุด เพราะโดยปกติแล้วนาฬิกาเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ทั่วไปนั้นหากจะต้องปรับตั้งค่าปฏิทินต่างๆ แล้วจะเป็นปัญหาต่อผู้ใช้เป็นอย่างมากเพราะมีขั้นตอนและวิธีการปรับตั้งที่ยากพอดูและบางรุ่นหากต้องปรับตั้งค่าก็ถึงกับต้องส่งกลับไปให้ทางแบรนด์จัดการให้เลยทีเดียวซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สะดวกด้วยกันทั้งนั้น กลไกที่คิดขึ้นมาใหม่นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเม็ดมะยมเพียงเม็ดเดียวโดยทำงานร่วมกับปุ่มกดอีกปุ่มหนึ่งซึ่งติดตั้งอยู่บนชุดเม็ดมะยมเช่นกัน จึงไม่มีปุ่มใดๆ ยื่นออกมาให้สะดุดสายตา 

ขั้นตอนการปรับตั้งนั้นใช้เพียงแค่ดึงเม็ดมะยมออกมาแล้วหมุนเม็ดมะยมเพื่อเลือกโหมดการตั้งค่าระหว่าง โหมดปกติซึ่งใช้ตั้งเวลา - ฟังก์ชั่นตั้งวันที่ - ตั้งวัน - ตั้งสัปดาห์ - ตั้งเดือน โดยจะทราบว่ากลไกการตั้งค่านั้นอยู่ในโหมดใดได้จากการแสดงของเข็มเรโทรเกรดที่ชี้บอกบนหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เมื่อได้โหมดที่ต้องการแล้วก็ทำการปรับตั้งอย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มบนเม็ดมะยม เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วก็หมุนเม็ดมะยมให้โหมดกลับมาอยู่ที่โหมดปกติ (Neutral) และกดเม็ดมะยมกลับเข้าที่ก็เป็นอันเสร็จพิธี

เรามาทำความรู้จักกับรายละเอียดต่างๆ ของนาฬิการุ่นนี้กันเลยดีกว่าครับ

Quantieme Perpetual Calendar Eazy Adjust

ทุกอณูที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นนาฬิกา Ateliers deMonaco แต่ละแบบล้วนมีที่มาจากสิ่งที่ดีที่สุดในโลกซึ่งผสมผสานเข้ากับความเป็นโมนาโกได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างรุ่นนี้ก็จะเห็นได้จากการดีไซน์รูปทรงและรูปแบบของตัวเรือนและส่วนประกอบต่างๆ โดยนำเส้นสายกับกลิ่นไอ ของบรรยากาศแบบเมดิเตอเรเนียนและหินภูผาอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของขุนเขาแห่งโมนาโกรวมถึงสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ไปจนถึงตึกสมัยใหม่อันงดงามและถนนชั้นดีทอดเส้นทางคดเคี้ยวตามเขาซึ่งใช้เป็นสถานที่แข่งรถฟอร์มูล่าวันทุกปีมาสังเคราะห์ออกมาเป็นงานดีไซน์ที่มีทั้งเส้นตรงและความโค้งนูนบนตัวเรือนและยังมีการผนวกวัสดุชั้นดีต่างๆ อย่างตัวเรือนชิ้นในที่ทำจากวัสดุไทเทเนี่ยมกับชิ้นด้านนอกที่จะมีให้เลือกทั้งที่เป็นไทเทเนี่ยมเหมือนกันหรือเป็นวัสดุทองคำ 18k เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนรวมไปถึงงานขัดแต่งที่เน้นความแตกต่างแต่กลมกลืนเช่นกัน 

ตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้จะประกอบด้วยชิ้นส่วนรวม 31 ชิ้น แต่ละชิ้นจะถูกขัดแต่งและประกอบเข้าด้วยกันด้วยมือและยังสามารถกันน้ำได้ถึงระดับ 30 เมตรอีกต่างหาก โดยจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวเรือนอยู่ที่ 43 มิลลิเมตร และมีความหนา 13.1 มิลลิเมตร สวมคู่กับสายหนังจระเข้พร้อมบานพับทองคำ 18k โดยตัวล็อคนั้นยังถูกลบเหลี่ยมและสลักชื่อแบรนด์อย่างสวยงามอีกด้วย ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 88 เรือน ในตัวเรือนไทเทเนี่ยม, โรสโกลด์ และไวท์โกลด์

สำหรับงานหน้าปัดนั้นก็นำความเป็นโมนาโกที่ได้กล่าวไปมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเช่นเดียวกัน โดยเป็นงานพื้นหน้าปัดสีไทเทเนี่ยมทำลายซันเรย์ที่วางซ้อนด้วยงานกรอบหน้าปัดทรงตอนโนลงพื้นภายในวงสเกลหลักชั่วโมงด้วยสีดำพร้อมติดตั้งหลักชั่วโมงเอาไว้ ณ บริเวณส่วนกลาง เชื่อมต่อกับส่วนขอบหน้าปัดด้วยงานฉลุสเกเลตันเลขโรมัน เข็มต่างๆ ทำจากทองคำ 18k โดยจะมาในแบบสเกเลตันฉลุกลาง 

การบอกค่าปฏิทินถาวรของนาฬิกาเรือนนี้สามารถอ่านค่าได้อย่างง่ายดาย โดยการแสดงวันที่นั้นจะใช้จานดิสก์ 2 จานร่วมกันแสดงค่าตัวเลขผ่านกรอบหน้าต่างคู่แบบบิ้กเดททรงสวย ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนค่าวันกับเดือนนั้นจะใช้จานดิสก์คนละจานแสดงค่าเป็นตัวอักษรผ่านกรอบหน้าต่าง ณ ตำแหน่ง 9 กับ 3 นาฬิกาจัดวางตรงข้ามกันอย่างสมดุลย์ ส่วนด้านล่างนั้นจะมีจานแสดงค่าปีลีพเยียร์อยู่ด้วยโดยจะแสดงค่าผ่านช่องหน้าต่างขนาดเล็ก ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ของวงหน้าปัดย่อยทรงกลมซึ่งจะเป็นหน้าปัดสำหรับแสดงสัปดาห์และแสดงฟังก์ชั่นการใช้งานของระบบปรับตั้งค่าอีซี่แอดจัสท์ ทั้งสองฟังก์ชั่นนี้จะชี้บอกด้วยเข็มใครเข็มมันบนแกนกลางร่วมกัน เข็มยาวจะชี้แสดงค่าตัวเลขสัปดาห์ในรอบปีซึ่งจะพิมพ์อยู่บนกรอบหน้าปัดย่อย ส่วนเข็มสั้นนั้นจะทำงานแบบเรโทรเกรดโดยจะทำหน้าที่ชี้บอกว่า ขณะนี้การทำงานของระบบปรับตั้งกำลังอยู่ในโหมดใด ระหว่าง Neutral ใช้ตั้งเวลาปกติ, การตั้งสัปดาห์, เดือน, วัน หรือวันที่ โดยโหมดต่างๆ นี้จะพิมพ์อยู่บนพื้นหน้าปัด 

กลไกของนาฬิการุ่นนี้เรียกว่ากลไก Quantieme Perpetual EZ Adjust เป็นกลไกฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์แบบเปลี่ยนทุกค่าพร้อมกันทันที (จะเปลี่ยนค่าการแสดงปฏิทินทุกค่าพร้อมกันในช่วงเวลาระหว่าง 23.58 – 0.04 นาฬิกาของแต่ละวัน) ที่ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นโดยนักประดิษฐ์นาฬิกาของแบรนด์เอง โดยมีการคิดค้นให้สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าปฏิทินหรือการแสดงเวลาได้อย่างง่ายดายผ่านการปรับตั้งด้วยการทำงานของปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวร่วมกับเม็ดมะยมเพียงเม็ดเดียวและยังติดตั้งปุ่มกดไว้บนเม็ดมะยมเพื่อมิให้เกะกะสายตาและยังเป็นการแสดงฝีมืออันเหนือชั้นของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งก็ได้ทำการจดสิทธิบัตรระบบการปรับตั้งแบบนี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพรวมของกลไกนี้เป็นการผสานงานช่างในอดีตเข้ากับความแม่นยำและเทคโนโลยีอันทันสมัยของปัจจุบัน กลไกอัตโนมัติขึ้นลาน 2 ทิศทางกลไกนี้ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง โดยจะมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 0-4 วินาทีต่อวันเท่านั้น ซึ่งความแม่นยำนี้เป็นผลมาจากการใช้เอสเคปเม้นท์วีลที่ทำจากซิลิเซียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอวกาศยาน ไมโครโปรเซสเซอร์ และเซมิ-คอนดัคเตอร์ ด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่งระดับ 2 เท่าของสตีล ส่งผลให้มีแรงเสียดทานต่ำจนไม่ต้องใช้สารหล่อลื่นและไม่มีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็ก ทำให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากผลกระทบใดๆ ต่อความแม่นยำ (ชิ้นส่วนซิลิเซียมเหล่านี้ผลิตโดย Sigatec) จุดเด่นอีกอย่างของกลไกนี้ก็คือมีระบบนิรภัยป้องกันความเสียหายของกลไกแสดงปฏิทินจากการหมุนเข็มทวนเข็มนาฬิกา ทั้งยังทำให้สามารถปรับตั้งค่าปฏิทินได้ทุกเวลาโดยไม่เกิดความเสียหายใดๆ อีกด้วย 

ไม่เพียงแต่ใช้กลไกชั้นเลิศดังที่กล่าวไว้เท่านั้น ส่วนประกอบชิ้นเล็กชิ้นน้อยของกลไกก็ล้วนถูกคัดสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น บริดจ์ต่างๆ จะได้รับการขัดแต่งด้วยมือโดยช่างผู้ชำนาญ สำหรับโรเตอร์ทูโทนสีเงิน-ทอง รูปแบบเฉพาะตัวซึ่งเรียกว่าโล่ Ateliers deMonaco ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนที่กรุอยู่บนฝาหลังนั้นจะทำจากทองคำ 18k โดยจะถูกสลักตกแต่งอย่างประณีตด้วยมือเช่นกัน 

Quantieme Perpetual Calendar Eazy Adjust - Turini

นอกจากเวอร์ชั่นหน้าปัดเต็มสไตล์คลาสสิกแล้ว Quantieme Perpetual Calendar Eazy Adjust ยังมีเวอร์ชั่นที่ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้นออกมาด้วยโดยใช้ชื่อต่อท้ายว่า Turini ที่นำมาจากชือภูเขา Col de Turini อันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ซึ่งอยู่ทางเหนือของโมนาโกและก็เป็นสเตจเส้นทางการแข่งขันอันโด่งดังของรายการแข่งรถยนต์มอนติคาร์โลแรลลี่อีกด้วย โดยมี 3 ลักษณะของตัวเรือน ได้แก่ ไทเทเนี่ยม โรสโกลด์ และไวท์โกลด์ ซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดแบบละ 88 เรือนให้เลือกเช่นกัน จุดที่แตกต่างจากรุ่นแรกที่กล่าวไปแล้วก็คือ พื้นหน้าปัดของรุ่น Turini นี้ จะเป็นแผ่นแซฟไฟร์รมดำหนา 0.3 มิลลิเมตรซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้มองเห็นบางส่วนของจานแสดงค่าต่างๆ และงานขัดแต่งกลไกอย่างสวยงาม วางซ้อนด้วยงานพื้นหน้าปัดลายซันเรย์ทรงตอนโนลงแล็กเกอร์สีดำเงาล้อมด้วยกรอบสเกลต่อเนื่องกับงานฉลุสเกเลตันเลขโรมันในสีเดียวกับตัวเรือนทอดสู่บริเวณขอบหน้าปัด เข็มต่างๆ ทำจากทองคำ 18k โดยจะมาในแบบสเกเลตันฉลุกลางเช่นเดียวกับรุ่นหน้าปัดเต็ม

ทราบมาว่าจะมีการนำ Ateliers deMonaco เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอนในปีนี้ ซึ่งผู้แทนจำหน่ายก็คือ บริษัท แม็คโครริช เมโทร จำกัด ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของ Frederique Constant กับ Alpina ในประเทศไทยนั่นเอง คอยพบกับนาฬิการุ่นนี้รวมถึงรุ่นต่างๆ จากแบรนด์แห่งโมนาโกแบรนด์นี้ได้ในประเทศไทยเร็วๆ นี้ครับ 

By: Viracharn T.