SEIKO เผยโฉม Prospex ‘Black Series’ สามรุ่นนาฬิกาดำน้ำเรือนดำล้วนแฝงอารมณ์วินเทจ
ในช่วงต้นปี 2018 นี้ SEIKO กำลังจะปล่อยนาฬิกาดำน้ำตระกูล Prospex แบบเรือนสีดำออกสู่ตลาดในชื่อ ‘Black Series’ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้จะมีออกมาด้วยกัน 3 รุ่น นั่นก็คือ Automatic 'Turtle' เต่ายอดนิยม กลไกอัตโนมัติ กับ Solar Diver และ Solar Diver Chronograph ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำที่ทำงานด้วยกลไกพลังงานแสง ตามข้อมูลที่ทราบมานั้นนาฬิกาเรือนดำซีรี่ส์นี้จะเป็นการผลิตแบบจำนวนจำกัด แต่ไม่ได้มีการรันหมายเลขเรือนและก็ไม่ได้บอกจำนวนการผลิตทั้งหมดเอาไว้ และก็ไม่รู้ว่าจะมีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากสนใจก็ต้องลองสอบถามเข้าไปทาง ไซโก ประเทศไทย ดูครับ
ความเท่ของ Black Series นี้ไม่ใช่แค่เพียงการนำนาฬิกาดำน้ำตระกูล Prospex สามรุ่น มาตกแต่งให้เป็นโทนสีดำเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้เสริมลุควินเทจด้วยการเคลือบสารเรืองแสงบนหลักชั่วโมงให้เป็นสีเบจครีมเพื่อให้ได้อารมณ์สารเรืองแสงของนาฬิกาดำน้ำวินเทจ หากแต่ยังคงเป็นสารเรืองแสงแบบ ลูมิไบรท์ ที่ให้แสงเจิดจ้าตามแบบฉบับของ Seiko ในยุคปัจจุบัน ซึ่งก็ตัดกันกับสารเรืองแสงสีขาวที่เคลือบอยู่บนเข็มทั้งสาม นัยว่าเพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนนั่นเอง และทั้งสามรุ่นก็ใช้ดีไซน์โค้ดของเข็มที่เหมือนกันด้วย ทั้งรูปทรง และสีโดยเข็มชั่วโมงใช้เป็นสีดำ ขณะที่เข็มวินาทีนั้นเป็นสีดำที่มีปลายเป็นสีขาว ส่วนเข็มนาทีใช้เป็นสีส้ม ขณะที่ดีไซน์ของสีแผ่นวงแหวนบนขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวก็มาในโทนเดียวกันคือใช้สีหลักเป็นสีดำและมีแถบระหว่างตำแหน่ง 0-15 หรือ 0-20 นาทีเป็นสีเทา โดยสเกลกับตัวเลขนั้นใช้เป็นสีขาว ทาง Seiko บอกว่าเหตุผลในการเลือกใช้สีทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนที่สุดขณะทำการดำน้ำในตอนกลางคืน นั่นก็หมายความว่าคอนเซ็ปต์ของซีรี่ส์นี้ก็คือ นาฬิกาสำหรับดำน้ำในตอนกลางคืนนั่นเอง
ตัวเรือนของทั้ง 3 รุ่น ยังคงเป็นวัสดุสเตนเลสสตีล แต่นำมาเคลือบเป็นสีดำด้วยเทคนิคที่เรียกว่า ‘ฮาร์ด แบล็ก โค้ตติ้ง’ ซึ่งเป็นกรรมวิธีการเคลือบดำที่ Seiko ใช้อยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งวงขอบตัวเรือน เม็ดมะยม และแม้แต่ปุ่มกดของรุ่นโครโนกราฟ ก็ถูกเคลือบเป็นสีดำด้วย ส่วนสายที่ให้มาจะเป็นวัสดุยางซิลิโคนสีดำดีไซน์แบบแอคคอร์เดียนตามแบบฉบับของนาฬิกาดำน้ำ Seiko (ซึ่งเป็นรูปแบบที่ให้ทั้งความทนทานและความสบายยามสวมใส่ โดย Seiko เป็นผู้คิดค้นดีไซน์สายแบบนี้ขึ้นมาและเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา) เรามาไล่ดูไปทีละรุ่นกันเลยนะครับ
Prospex Automatic ‘Turtle’ SRPC49K1
เริ่มกันด้วยนาฬิกาดำน้ำรุ่นยอดฮิตอย่างเจ้าเต่า Prospex Automatic ที่ทางฝรั่งเค้าเรียกกันว่ารุ่น Turtle ซึ่งในภาพรวมนอกจากโทนสีแล้วก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเต่ารุ่นมาตรฐานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนขนาดใหญ่ 45 มม. พร้อมเม็ดมะยมแบบขันเกลียว ที่กันน้ำได้ระดับ 200 เมตร ไปจนถึงกลไกอัตโนมัติ ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 41 ชั่วโมง รหัส 4R36 แม้แต่อักษรแสดงวันกับตัวเลขวันที่ก็ยังคงใช้เป็นสีดำบนพื้นจานสีขาวเหมือนเต่าทั่วไปแต่เมื่อมาอยู่กับโทนสีดำทะมึนของทั้งเรือนแล้วก็ทำให้หน้าต่างของฟังก์ชั่นเดย์เดทนี้แลดูเด่นออกมากว่าที่เคยรู้สึก
Prospex Solar Diver SNE493P1
รุ่นนี้เป็นการตกแต่งบนพื้นฐานของนาฬิกาดำน้ำ Prospex Solar Diver ซึ่งทำงานด้วยพลังงานแสง โดยเมื่อเทียบกันรุ่นเต่าแล้ว ตัวเรือนจะมีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งวัดขนาดได้ 43.5 มม. พร้อมเม็ดมะยมแบบขันเกลียว ที่สามารถกันน้ำได้ถึงระดับ 200 เมตร ทำงานด้วยกลไกรหัส V157 ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เมื่อชาร์จแสงจนเต็มประจุแล้วจะทำงานได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 10 เดือน กลไกนี้มีฟังก์ชั่นวันทีมาให้ด้วยโดยแสดงผ่านช่องหน้าต่างที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งมีการติดตั้งเลนส์ขยายตำแหน่งวันที่มาให้บนกระจกหน้าปัดด้วย
Prospex Solar Diver Chronograph SSC673P1
รุ่นนี้เป็นการตกแต่งบนพื้นฐานของรุ่น Prospex Solar Diver Chronograph ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำกลไกโครโนกราฟที่ทำงานด้วยพลังงานแสง ที่ใช้ตัวเรือนเดียวกันกับรุ่น Prospex Solar Diver จึงเท่ากันทั้งขนาดและความสามารถในการกันน้ำ ส่วนกลไกนั้นเป็นรหัส V175 ซึ่งมากับฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่สามารถจับเวลาได้สูงสุด 1 ชั่วโมง โดยเข็มวินาทีจับเวลาจะแสดงค่าอย่างละเอียดถึงระดับ 1/5 วินาที วงหน้าปัดย่อยจะมีมาให้ 3 วงจัดวางในตำแหน่งคลาสสิกของนาฬิกาโครโนกราฟ นั่นก็คือ 3 - 6 - 9 นาฬิกา โดยแสดงค่าเป็น เวลา 24 ชั่วโมง - นาทีจับเวลา - วินาที และมีฟังก์ชั่นแสดงวันที่มาให้อ่านค่าผ่านช่องหน้าต่างที่อยู่ระหว่าง 4 กับ 5 นาฬิกา โดยกลไกนี้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน เมื่อประจุพลังงานแสงจนเต็ม
By : Viracharn T.