F.P. JOURNE FFC
เสมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้น ของวิธีการอ่านค่าเวลาที่ไม่เหมือนใคร โดยแสดงเวลาผ่านการใช้นิ้วมือที่ดูมีชีวิตชีวา ซึ่งจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในการผลิตนาฬิการุ่น FFC Blue นี้เหมือนเป็นดั่งบทละครและสมควรได้รับการบอกเล่าอีกครั้ง โดยจากจุดเริ่มต้นเมื่อ Ms. Eleanor Coppola ภรรยาของ Francis Ford Coppola ได้มอบภาพจําลองของนาฬิกา Chronomètre à Résonance ให้กับสามีของเธอ ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังที่ได้รับของของขวัญ เป็นภาพจําลองของนาฬิกาที่ดูสง่างามนี้จึงยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่มาของคำเชิญให้กับ Francois ทันทีเพื่อให้มาพบกับเขาที่โรงกลั่นไวน์ในนาป้าวัลเล่
และที่นั่นเป็นที่ๆ พวกเขาได้พูดคุยกันถึงหลักการต่างๆ ของการเปลี่ยนแปลงระบบการแสดงค่าเวลา และเมื่อผู้สร้างภาพยนตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้ถามช่างนาฬิการะดับโลกว่าเคยคิดที่จะผลิตนาฬิกา ที่มาพร้อมการแสดงค่าเวลาชั่วโมงในแบบที่ คนสมัยก่อนเคยนับตัวเลขด้วยนิ้วมือหรือไม่ ที่ซึ่งแนวคิดในการแสดงค่าเวลานี้ ได้ดึงดูดความสนใจของ Francois ได้ในทันที จากแนวคิดที่เขาเคยอยากท้าทาย โลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่แสดงเวลาด้วยเข็มเข็ม และนี่เป็นแรงจงูใจของเขาที่ทําให้เขาเริ่มสร้างต้นแบบออกนาฬิการุ่น FFC Blue ในปีเดียวกันเพื่อนำเสนอสำหรับงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH ปี 2021
ด้วยการเริ่มออกแบบกลไกที่จะสามารถแปลง ตัวเลขเหล่านี้ให้เป็นสัญลักษณ์เชิงดิจิทัล และเนื่องจาก Francis เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความหลงใหลในประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับลูกชายของเขาที่ปัจจุบันก็เป็นนักประวัติศาสตร์เช่นกัน เลือกที่จะวาดภาพสเก็ตซ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากภาพวาดของอวัยวะเทียมที่วาดโดยศัลยแพทย์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส Ambroise Paré ในช่วงปี 1509/1510-1590 ที่ถือเป็นหนึ่งบุคคลในประวัติศาสตร์ ในช่วงที่ความเข้าใจในร่างกายมนุษย์ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ยังอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา ที่ซึ่งมือกลก็ถือเป็นอีกหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการแพทย์
โดยด้านหน้าของ FFC Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากมือที่พัฒนาโดยแพทย์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา และเลือกใช้มือที่ทําหน้าที่ในการแสดงเวลาจากไททาเนียมแกะสลัก เพื่อลดน้ำหนักของส่วนประกอบที่ต้องมีการเคลื่อนไหว และไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้พลังลาน ของกลไกพื้นฐานที่ผลิตโดย F.P. JOURNE “สิ่งสําคัญที่สุดในการสร้างนาฬิกาคือสิ่งที่มองเห็นได้ ซึ่งในกรณีนี้เป็นเรื่องของการใช้ห้านิ้วในการขยับ โดยส่งกระทบน้อยที่สุดต่อชุดกลไก” Francois Paul Journe กล่าว จากการจัดการเรื่องพลังงานที่มาจากบาร์เรล ที่ต้องรับประกันพลังสำรองลานได้อย่างยาวนาน
ซึ่งนั่นเป็นที่มาของชุดกลไกแบบเรอมองทัวร์ ที่ทำงานระหว่างชุดขบวนเกียร์หลักและชุดดิสเพลย์ ที่ทำงานร่วมกันกับบาร์เรล ที่ต้องคำนึงถึงการปล่อยพลังงานเป็นจังหวะ ที่ยังส่งผลไปถึงจักรกรอกชุดต่างๆ อันส่งผลไปถึงชุดนิ้วมือบนหน้าปัด ที่ต้องแสดงผลรวมทั้งหมดในทุกชั่วโมง โดยทั้งหมดนี้ Francois ต้องใช้เวลานานกว่า 7 ปีในการทําให้เรื่องทั้งหมดนี้มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งรวมไปถึงช่างฝีมือผู้ชํานาญงานการที่ได้รับการสนับสนุนด้านทักษะจากฐานการผลิตของ Francois จนกระทั่งสามารถรวบรวมแนวคิด และกำหนดส่วนประกอบทั้งหมด ให้สามารถสร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์นี้ขึ้นได้
เพื่อมาประกอบลงในตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร พร้อมความหนาเพียง 10.7 มิลลิเมตร แม้จะมีความซับซ้อนของชุดกลไกในระดับสูง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างสรรค์นาฬิกา จะไม่ใช่เพียงแค่ความซับซ้อนของชุดกลไก แต่ยังเป็นเรื่องของการใช้พลังลานให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากวัตถุประสงค์หลักในแนวคิดที่ว่า นาฬิกาคือเครื่องแสดงเวลาที่เที่ยงตรงที่สุดเท่าที่มนุษย์จะสร้างขึ้นได้
