NEW PIECES FROM MONTBLANC in WATCHES & WONDERS 2013
ค่าย Montblanc ก็เป็นอีกค่ายที่นำเสนอนาฬิการุ่นใหม่และรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นสำหรับลูกค้าชาวจีนโดยเฉพาะในงาน Watches & Wonders ครั้งนี้ โดยนาฬิการุ่นใหม่นั้น จะมีทั้งคอลเลคชั่นนาฬิการะดับสูง Villeret ที่มากับกลไกระดับแกรนด์คอมพลิเคชั่น ซึ่งเป็นกลไกตูร์บิยองที่มากับฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบสปลิตเซ็กเกินด์และฟังก์ชั่นแสดงเวลาไทม์โซนที่สอง และนาฬิกาคอลเลคชั่น Star ในเอดิชั่นพิเศษเข็มวินาทีสีแดงใน 3 รูปแบบฟังก์ชั่น ส่วนคอลเลคชั่นพิเศษที่ผลิตในจำนวนจำกัดเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะนั้นเป็นนาฬิกาฟังก์ชั่นเวิลด์ไทม์ที่ใช้แผนที่ประเทศจีนเป็นจุดศูนย์กลางของหน้าปัด
Villeret 1858 Exo Tourbillon Rattrapante
เริ่มกันด้วยนาฬิการะดับสูง Villeret 1858 กับรุ่น Exo Tourbillon Rattrapante ซึ่งเป็นนาฬิกาตูร์บิยองที่นอกจากจะนำเสนอกลไกชั้นสูงสุดซับซ้อนระดับแกรนด์คอมพลิเคชั่น ที่มากับตูร์บิยองและฟังก์ชั่นโครโนกราฟกลไกคอลัมน์วีล ซึ่งถูกขัดแต่งอย่างพิถีพิถันตามขนบเก่าแก่ภายในตัวเรือนรูปทรงเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือการวางบาลานซ์ขนาดใหญ่อยู่นอกกรงตูร์บิยอง และยังมากับฟังก์ชั่นสปลิทเซ็กเกินด์ในกลไกโครโนกราฟอีกด้วย และยังสามารถแสดงค่าเวลาไทม์โซนที่สองและแสดงกลางวัน-กลางคืนอีกต่างหาก ทั้งหมดนี้จะถูกนำสู่สายตาผ่านการแสดงผลแบบเรกูเลเตอร์ที่มีลักษณะการออกแบบเป็น 3 มิติ ซึ่งผลิตขึ้นจากทองคำและตกแต่งวงหลักแสดงเวลาด้วยงานอีนาเมลแบบกรองเฟอ ผลิตในจำนวนจำกัดในตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 38.4 x 11.9 มิลลิเมตร เพียง 18 เรือน เท่านั้น
กลไกที่ใช้นั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นกลไกอินเฮ้าส์ที่พัฒนาและผลิตขึ้นที่โรงงาน Villeret อันเก่าแก่ของ Montblanc โดยมีรหัสรุ่นว่า Calibre 16.61 ในรูปแบบของกลไกไขลานสุดซับซ้อน กำลังสำรอง 55 ชั่วโมง ความถี่การทำงาน 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมจักรกลตูร์บิยองที่จะหมุนครบ 1 รอบในทุก 4 นาที
TimeWalker World-Time Sinosphere – Limited Edition
คอลเลคชั่น TimeWalker นี้ยังมีไฮไลต์สำหรับงาน Watches & Wonders เป็นรุ่น World-Time Sinosphere ที่สร้างขึ้นจากพื้นฐานของรุ่น Northern Hemisphere หรือรุ่นซีกโลกเหนือนั่นเอง โดยมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเมืองของตัวแทนไทม์โซน UTC +8 ซึ่งจะไม่ใช่ปักกิ่งหรือฮ่องกงตามปกติของนาฬิกาเวิลด์ไทม์ทั่วไป แต่จะเป็นคำว่า “CHINA” พิมพ์ด้วยสีแดงอย่างโดดเด่นแทน นอกจากนี้พื้นที่บริเวณกลางหน้าปัดยังติดตั้งด้วยแผ่นเร้ดโกลด์ที่ทำเป็นภาพแผนที่ของประเทศจีนติดตั้งอยู่ในขณะที่พื้นแผนที่ของอาณาจักรอื่นจะใช้เป็นสีเทา ส่วนตัวเลข 24 ชั่วโมงนั้นบนจานดิสก์ที่ล้อมรอบประเทศจีนนั้น ช่วงเวลากลางวันจะเป็นสีเทา ขณะที่ช่วงเวลากลางคืนจะใช้สีแดง ขณะที่เข็มบอกเวลาทรงดาบนั้นจะเป็นงานเคลือบเร้ดโกลด์ ชี้บอกเวลาไปยังหลักชั่วโมงเคลือบเร้ดโกลด์เช่นกัน และยังมีระบุข้อความ CHINA EDITION สีทองขนาดเล็ก แทนหลักชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 7 นาฬิกาอีกด้วย นาฬิกามาในตัวเรือนทูโทนขนาด 42 มิลลิเมตร วัสดุสตีล โดยมีขอบตัวเรือนเป็นเร้ดโกลด์ มีให้เลือกทั้งคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำตาล หรือสายสตีลที่แซมด้วยเร้ดโกลด์ สำหรับตัวกลไกที่ใช้จะเป็น Calibre MB 4810/410 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง มากับฟังก์ชั่นเวิลด์ไทม์แสดงเวลาของ 24 ไทม์โซน และแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ขึ้นลานด้วยระบบอัตโนมัติ ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 88 เรือน
Star Special Edition Carpe Diem
Star คอลเลคชั่นนาฬิการูปโฉมคลาสสิกของ MONTBLANC ที่สืบสานต่อเนื่องกันมากว่า 15 ปี รุ่นพิเศษนี้ เป็นเอดิชั่นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาในตัวเรือนสตีล โดยมีกลไกขึ้นลานอัตโนมัติฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เลือก คือ แบบบอกเวลา 3 เข็มเรียบง่ายพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ Calibre 4810/409 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง แบบโครโนกราฟพร้อมฟังก์ชั่น UTC แสดงเวลาไทม์โซนที่สอง Calibre MB4810/503 กำลังสำรอง 46 ชั่วโมง และแบบคอมพลีทคาเลนดาร์แสดงวัน วันที่ เดือน และมูนเฟส Calibre MB4810/912 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง
ทั้ง 3 แบบจะมากับเข็มวินาทีสีแดง เพื่อบ่งบอกความเป็นเอดิชั่น Carpe Diem อันเป็นภาษาลาติน ซึ่งสื่อความหมายว่า enjoy the day ในภาษาอังกฤษ ในรุ่น คอมพลีทคาเลนดาร์ (Quantième Complet) และ Chronograph UTC จะใช้ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร สวมคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ ส่วนรุ่น 3 เข็มจะใช้ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร ซึ่งมีให้เลือกทั้งสายหนังจระเข้สีดำ และสายสเตนเลสสตีล
By: Viracharn T.