NEW PIECES FROM SPEAKE-MARIN 'SPIRIT SEAFIRE & SPIRIT WING COMMANDER'
SPEAKE-MARIN แบรนด์นาฬิกาอินดี้เลื่องชื่อโดยยอดนักประดิษฐ์นาฬิกาชาวอังกฤษที่เข้าไปตั้งเวิร์คช็อปในสวิสมากว่าทศวรรษ เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ที่จะนำมาแสดงในงาน Baselworld 2014 ปีนี้ถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ Spirit Seafire ฟังก์ชั่นโครโนกราฟ กับ Spirit Wing Commander ฟังก์ชั่นบิ๊กเดทและเพาเวอร์รีเซิร์ฟ
ทั้ง 2 รุ่นใช้ตัวเรือนแบบ Piccadilly อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ในวัสดุไทเทเนี่ยมเกรด 5 ขัดเงารูปทรงแกร่งบึกบึนพร้อมขาตัวเรือนแบบยึดสายด้วยสกรูว์ของตระกูลคอลเลคชั่น Spirit ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากลักษณะของทหารอังกฤษซึ่ง Peter บอกว่ามันเป็นกลิ่นของน้ำมันไฮ-อ็อคเทนสำหรับยานรบที่ดูจริงจังเตรียมพร้อมสำหรับการศึกผสานกับเครื่องแบบที่ดูลำลองสบายๆ ตัวเรือนของ Spirit จึงเหมาะกับทั้งการสวมใส่กับชุดนักบินและเสื้อผ้าแบบปกติทั่วไป ขอเพียงคุณมั่นใจที่จะใส่มันเท่านั้น และ 2 รุ่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้ก็จะทำให้ตระกูลนาฬิกา Spirit ของแบรนด์มีความแข็งแกร่งและมีทางเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีเพียงรุ่น Spirit Mk2 ที่เป็นนาฬิกาแบบ 3 เข็มในตัวเรือนสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร ที่เปิดตัวในปี 2012 มาแทน Spirit Mk1 ตัวเรือนสตีลขนาด 38 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Spirit Mk2 DLC ตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำด้านเมื่อปี 2013
Spirit Seafire
หลังจากที่สร้างชื่อกับกลไกคอมพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจั๊มปิ้งอาวร์ เพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ ตูร์บิยอง หรือมินิทรีพีทเตอร์ กันมาแล้ว ก็ถึงคราวที่ Speake-Marin จะสร้างกลไกโครโนกราฟออกมากันบ้าง โดยรุ่นแรกที่จะได้ใช้กลไกโครโนกราฟเป็นแบบแรกก็คือ Spirit Seafire รุ่นนี้นั่นเอง โดยจะแสดงค่านาทีจับเวลาบนเคาน์เตอร์ย่อยที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ตรงข้ามกับค่าชั่วโมงจับเวลาที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนเข็มวินาทีจับเวลาจะใช้เป็นเข็มกลาง โดยยังคงรูปแบบของวีลทรง ท็อปปิ้ง ทูล อันเป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ ไว้ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดยเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีขาว เพื่อแสดงการเดินของวินาที เช่นเดียวกับเข็มชั่วโมงกับนาทีแบบฟาวน์เดชั่นของตน เอาไว้เช่นเดิม เข็มต่างๆ จะถูกเคลือบด้วยพีวีดีดำพร้อมแต้มซูเปอร์ลูมิโนว่าสีขาว และมีฟังก์ชั่นแสดงวันที่ด้วยตัวเลขสีขาวผ่านช่องหน้าต่างกลม ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกามาให้ด้วย ทั้งหมดถูกจัดวางอย่างสมดุลย์บนพื้นหน้าปัดเรซินสีดำด้านซึ่งถูกบรรจงรังสรรค์มาร์กเกอร์และเส้นสายต่างๆ ด้วยมือโดยใช้สารซูเปอร์ลูมิโนว่าสีขาวซึ่งจะให้แสงสีเขียวในความมืดโดยหลักชั่วโมงกับหลักสเกลนั้นจะนูนขึ้นมาจากพื้นหน้าปัดเพื่อให้มีมิติชวนมอง และที่น่าสนใจก็คือ นี่เป็นหนึ่งนาฬิกาโครโนกราฟจำนวนไม่มากที่ใช้รูปแบบของตัวเลขโรมันบนเคาน์เตอร์จับเวลา โดยจะใช้เลขโรมันบนเคาน์เตอร์ชั่วโมงจับเวลา เพื่อสร้างความแตกต่างจากเคาน์เตอร์นาทีจับเวลาซึ่งใช้เลขอารบิก
Spirit Seafire ใช้ปุ่มกดจับเวลาเป็นแบบแป้นกดทรงกลมขนาดใหญ่ขัดเงาได้สัดส่วนกับความใหญ่โตของเม็ดมะยมแบบฟลุ้ตที่ดีไซน์ให้ฝังลึกเข้าไปในตัวเรือนเล็กน้อยเพื่อให้มีความแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น ส่วนบนฝาหลังแบบทึบจะมีข้อความนิยามคติ “Fight, Love & Persevere” ซึ่ง Peter Speake-Marin ให้ไว้เป็นจิตวิญญาณประจำตระกูล Spirit สลักไว้อย่างสวยงาม ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟกำลังสำรอง 48 ชั่วโมง ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง Calibre C99001-D นาฬิกามาคู่กับสายหนังสีน้ำตาลผลิตด้วยมือพร้อมบัคเกิ้ลหัวเข็มขัดวัสดุไทเทเนี่ยม ยึดสายเข้ากับขาตัวเรือนด้วยสกรูว์ตามสไตล์ Speake-Marin
เหตุที่ตั้งชื่อนาฬิการุ่นนี้ว่า ‘Seafire’ นั้น Peter Speake-Marin ให้เหตุผลว่า ด้วยความที่ Spirit เป็นนาฬิกาที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากทหารอังกฤษ และรุ่นนี้จะเป็นนาฬิกาโครโนกราฟแบบแรกของเขา จึงได้นำศักดิ์ศรีแห่ง SupermarineSeafire เครื่องบิน Supermarine Spitfire เวอร์ชั่นปฏิบัติการณ์ร่วมกับเรือบรรทุกเครื่องบิน อันเป็นเครื่องบินสมัยใหม่แบบแรกที่ราชนาวีอังกฤษนำมาใช้ในการคุ้มกันกองเรือเมื่อปี 1942 มาใช้เป็นชื่อของนาฬิการุ่นนี้
Spirit Wing Commander
Spirit Wing Commander มากับฟังก์ชั่นเด่นอย่างบิ๊กเดทและเพาเวอร์รีเซิร์ฟ ร่วมกับการแสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มกลางเคลือบพีวีดีรูปทรงเฉพาะตัวของ Speake-Marin ที่เรียกว่า แบบฟาวน์เดชั่น แต้มด้วยสารซูเปอร์ลูมิโนว่าที่ให้สีขาวยามปกติและให้สีเขียวยามสภาพแสงน้อย และแสดงการเดินของวินาทีด้วยวีลทรง ท็อปปิ้ง ทูล อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่เคลือบด้วยแล็กเกอร์สีขาว ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เข้ากับตัวเลขวันที่ขนาดใหญ่ 2 หลัก ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเขียนด้วยแล็กเกอร์สีขาวบนพื้นดำและสีขาวบนพื้นจานกำลังสำรองที่แสดงผ่านช่องหน้าต่างทรงพัดคล้ายมาตรวัดน้ำมัน ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา อย่างกลมกลืนได้สมดุลย์ ส่วนมาร์กเกอร์ทรงกลมร่วมกับเลขโรมันขนาดใหญ่นั้นถูกบรรจงรังสรรค์ขึ้นโดยใช้สารซูเปอร์ลูมิโนว่าที่ทำให้นูนขึ้นมาเพื่อให้มีมิติ โดยงานลงซูเปอร์ลูมิโนว่าและงานแล็กเกอร์ทุกจุดล้วนถูกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือทั้งสิ้น ทั้งหมดอยู่บนพื้นหน้าปัดเรซินสีดำด้านปลอดแสงสะท้อน
ที่น่าชมอีกอย่างก็คือการออกแบบวิธีการแสดงกำลังสำรองของนาฬิการุ่นนี้ เพราะเป็นการประยุกต์การใช้สีต่างๆ มาแสดงสถานะของกำลังสำรองได้อย่างน่าสนใจ โดยใช้ซูเปอร์ลูมิโนว่าสีขาวเป็นการแสดงว่ามีกำลังสำรองอยู่โดยจะแสดงสถานะลดน้อยลงเมื่อเข้าสู่โซนสีดำและแจ้งกำลังหมดด้วยโซนสีแดง
Spirit Wing Commander ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติกำลังสำรอง 48 ชั่วโมง ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง Calibre 1024SPM ปรับตั้งค่าต่างๆ ด้วยเม็ดมะยมขนาดใหญ่รูปทรงฟลุ้ตอันเป็นอีกเอกลักษณ์ของแบรนด์โดยออกแบบให้จมลึกเข้าไปในตัวเรือนเล็กน้อยเพื่อให้มีความแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือนิยามคติ “Fight, Love & Persevere” ซึ่ง Peter Speake-Marin ให้ไว้เป็นจิตวิญญาณประจำตระกูล Spirit ซึ่งสำหรับรุ่นนี้จะถูกสลักเอาไว้บนแผ่นฝาหลัง สวมคู่กับสายหนังชั้นดีสีน้ำตาลที่ผลิตด้วยมือพร้อมหัวเข็มขัดไทเทเนี่ยม
By: Viracharn T.