HERMÈS Arceau Wow
มิติอันทรงเสน่ห์ของ Wow ไม่ได้เพียงมาจากลวดลาย แต่ยังมาจากวิธีการในการรังสรรค์ขึ้นซึ่งรวมไปถึงรูปแบบของสีสันที่แตกต่างกันในแต่ละด้าน ทั้งการตีความด้วยหลากหลายสีบนด้านหน้า และเวอร์ชั่นโมโนโครมบนด้านหลังที่Wow ยังคงความคิดสร้างสรรค์แบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างต่อเนื่องจากเมื่อสองปีก่อนที่ศิลปินนักวาดหนังสือการ์ตูน Ugo Bienvenu ได้ร่วมออกแบบผ้าพันคอไหมอันน่าประทับใจให้กับ HERMÈS และตั้งชื่อให้ว่า Wow ทว่า.. ทำไมถึงเป็น Wow หละ
ด้วยเพราะเป็นการนำเอาจิตวิญญาณของนักขี่ม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของ HERMÈS มารังสรรค์ทั้งยังเปลี่ยนย้ายไปสู่โลกแห่งการ์ตูนได้อย่างน่าอัศจรรย์โดยแนวคิดนี้ได้เดินทางจากปารีสสู่ห้องปฏิบัติการของ HERMÈS Horloger ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่จะใช่เรือนเวลาที่มีหน้าปัดสองด้านหรือไม่..แน่นอนว่าทำไมจะไม่ใช่ แต่ด้วยเพราะความบางและกึ่งโปร่งแสงเหมือนกับเส้นด้ายผ้าไหมที่เป็นแรงบันดาลใจของผลงานนี้ กับอีกหนึ่งวัสดุที่นำมาใช้และเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดนั่นก็คือมุก
วัสดุที่ทั้งสวยงาม สง่างาม และมีความเป็นผู้หญิง ทั้งยังปล่อยให้แสงไฟสามารถส่องประกาย พร้อมยังช่วยให้ศิลปินสามารถใช้มิติของแสงเพื่อสร้างสรรค์ลวดลายอันเปล่งประกาย และเต็มไปด้วยความสนุกสนานได้อย่างแท้จริงทำให้นักออกแบบสามารถถ่ายทอดท่าทางการกระโดดขึ้นบนอานม้าพร้อมกับการวางเท้าลงบนโกลน เพื่อนำเสนอภาพภายในรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กได้ ราวกับช่องภาพสไตล์หนังสือการ์ตูน ที่จัดวางไว้ภายในรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ของผ้าพันคอไหม
ทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยม ช่องคำพูด และการเคลื่อนไหว...ที่ต่างก็เล่าเรื่องราวผ่านฉากของฮีโร่หญิงผู้เดินทางข้ามกรุงปารีสในชุดเจ็ตสกี รองเท้าสเก็ตบนรถ และแน่นอนว่ารวมไปถึงการอยู่บนหลังม้า โดยสองนักกอล์ฟผู้มีอารมณ์ขันต่างพากันสงสัยว่าใครคือสตรีผู้กล้าหาญคนนี้..ใช่ Amazon สายลับฮีโร่หญิงแห่งปารีเซียงหรือไม่ แต่ไม่ว่าเธอคนนี้จะเป็นใครก็ตาม ในทุกมุมมองที่ทุกคนจะสามารถมองเห็นได้เธอผู้นี้ต้องเป็นผู้หญิงของ HERMÈS อย่างแน่นอน
โดยงานออกแบบนั้นจะเริ่มต้นด้วยหมึกสีดำที่เป็นการนำทางไปสู่สัมผัสอันเชี่ยวชาญของศิลปินจวบจนลายเส้นพู่กันสุดท้าย จากนั้นการตกแต่งทั้งหมดของลวดลายเหล่านี้จะถูกวาดขึ้นด้วยมือ ด้วยเฉดสีพาสเทลหรือสีอ่อนที่ค่อยๆ บรรจงวาดทีละสี และด้วยความหนาที่มอบมิติความลุ่มลึกให้กับงานออกแบบ ขณะเดียวกันก็บางพอที่จะปล่อยให้แสงส่องผ่านได้ ที่ถือเป็นความสมดุลอันลุ่มลึกละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยงานหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญและประณีตสูงสุด
ซึ่งจะใช้ประมาณ 20 ชั้นของการวาดสีเพื่อนำเอาทุกๆ มิติอันแตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อยของงานออกแบบเหล่านี้ให้เผยตัวตนออกมา ซึ่งแต่ละชั้นยังต้องผ่านการเผาในความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เพื่อสร้างความแข็งแรงและทนทานให้กับเม็ดสีอันล้ำค่าโดยในขณะที่ม้าและฮีโร่หญิงนั้นครองความยิ่งใหญ่บนหน้าปัดที่สอง ซึ่งสอดคล้องกับหน้าปัดด้านบนของนาฬิกา ด้วยเฉดสีสันที่คมชัดขึ้นกับปริมาตรที่ทึบขึ้น ที่ทำให้งานออกแบบนี้ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นทีละน้อยเมื่อฮีโร่หญิงปรากฏกายบนหลังม้า
และเมื่ออยู่รวมกัน พวกเขาจึงดูคล้ายแทบจะกระโจนจากหน้าปัดด้วยความมีชีวิตชีวา พร้อมความคลาสสิคของการควบม้าในสไตล์ HERMÈS ที่สอดคล้องกับสีเอิร์ธโทนราวกับผืนผ้าไหมที่วาดลงบนด้านกลับกันของนาฬิกาด้วยเฉดสีที่แตกต่างและสดใส พร้อมทั้งมิติลวดลายแบบนูน ขณะที่การเคลื่อนไหวของม้ายังมอบการปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากความชำนาญของการทำงานอันแสนละเอียดอ่อนและอดทนจากการใช้เวลาในการรังสรรค์มากกว่า 35 ชั่วโมงสำหรับการผลิตหน้าปัดเพียงชิ้นเดียว
HERMÈS Arceau ที่ออกแบบขึ้นโดย Henri d’Origny ในปี 1978 ในเวอร์ชั่นล่าสัดนี้จะมาพร้อมกันในสองเวอร์ชั่น พร้อมการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ H1912 โดยเวอร์ชั่นแรกจะมาในหน้าปัดโทนสีชมพูอ่อนในขณะที่เวอร์ชั่นที่สองจะเลือกใช้เฉดสีฟ้าน้ำเงินมากกว่า ซึ่งทั้งคู่จะลงตัวกับสายหนังวัวของ HERMÈS ที่ในแต่ละเวอร์ชั่นของนาฬิการุ่น Arceau Wow จะรังสรรค์ขึ้นจากไวท์โกลด์อันสง่างาม พร้อมขอบตัวเรือนแบบประดับเพชร 82 เม็ด และจำผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียงเวอร์ชั่นละ 24 เรือน