BREITLING welcomes the FORD Thunderbird to its Top Time Classic Cars Collection

ยุค 60s ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการทดลองซึ่งสิ่งใหม่ ทั้งความสนุกสนาน ความอิสระ และความแรง ไม่ว่าจะเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์หรือการเร่งความเร็วของรถสปอร์ต จากการใช้ชีวิตท่ามกลางความเร็วสูงสุดคือชีวิตของผู้ก่อตั้งรุ่นที่สามของแบรนด์ Willy Breitling ผู้ที่รู้สึกถึงอารมณ์นี้และเริ่มการออกแบบนาฬิกาแบบโครโนกราฟอันแหวกแนว ซึ่งดึงดูดความมีชีวิตชีวาของยุคสมัย โดยเขาขนานนามนาฬิการุ่นนี้ว่า Top Time อย่างที่ Georges Kern ซีอีโอของ BREITLING ไว้กล่าวว่า

 collections plp hero tt

 

“Top Time แสดงถึงการฉีกกรอบการออกแบบนาฬิกาแบบเดิมๆ โดยในปัจจุบัน BREITLING กำลังสานต่อความรู้สึกอิสระ และความสนุกสนานด้วยคอลเลคชั่น Top Time Classic Cars ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 60sและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ FORD อีกครั้งเพื่อแนะนำนาฬิการุ่น Thunderbird ใหม่พร้อมกับรุ่นปรับปรุงของ FORD Mustang, CHEVROLET Corvette และ SHELBY Cobra ที่รถทุกคันล้วนเป็นรถยอดนิยมตามแบบฉบับรถสปอร์ตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”

Screen Shot 2566 03 22 at 23.12.03

 

Top Time Classic Cars ถือเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นที่ขายดีที่สุดในปี 2021 ของ BREITLING และยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจาก Capsule Collection ของ BREITLING จึงถูกนำมาเป็นนาฬิการุ่นต่อเนื่องในปีนี้พร้อมการกดคันเร่งที่แรงขึ้นกว่าเดิม ด้วยทั้งสไตล์และความเร็วจากเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลัง นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องและภาพลักษณ์ของยานยนต์ในอดีตพร้อมทั้งสไตล์แฟชั่นเซ็ท 
 Screen Shot 2566 03 22 at 23.12.17
 
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาแบบโครโนกราฟรุ่นแรก ที่เป็นที่ต้องการของทั้งผู้ชายและผู้หญิง จากการออกแบบกราฟิคอันโดดเด่นและสะดุดตา อย่างที่เคยพิสูจน์มาแล้วกับ James Bond สายลับคนโปรดของโลก ที่เคยสวมใส่ในภาพยนตร์เรื่อง Thunderball จากปี 1965 โดยสไตล์เหล่านี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปจนมาถึงในปัจจุบัน โดย BREITLING ยังคงร่วมมือกับแบรนด์จากโลกยานยนต์และมอเตอร์สปอร์ตมาโดยตลอด เพื่อสร้างสรรค์ดีไซน์ยอดนิยมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 
 
Screen Shot 2566 03 22 at 23.12.34
 
คอลเลกชั่น Classic Cars ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้จะรวมไปถึงรุ่น FORD Thunderbird ที่มีสายสีแดงและหน้าปัดสีขาวสะอาดอันดึงดูดสายตา จากโลโก้ Thunderbird และเข็มแสดงเวลาโครโนกราฟสีแดง โดยนาฬิกาทั้งสี่เรือนจะใช้สีและสัญลักษณ์ของรถสปอร์ตรุ่นปี 1950 และ 1960 ซึ่งทุกเรือนจะมาพร้อมกับกลไกการทำงานชุดใหม่ ภายใต้ฝากระโปรงที่คุ้มค่าแก่การกล่าวขวัญถึง นั่นก็คือกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ 01 (BREITLING Manufacturing Calibre 01) 
 
Screen Shot 2566 03 22 at 23.12.44
 
กลไกอันโดดเด่นนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผ่านฝาหลังที่กรุกระจกแซฟไฟร์ โดยกลไกชุดนี้จะให้พลังสำรองลานได้นานประมาณ 70 ชั่วโมง พร้อมการรับประกันถึง 5 ปี โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ที่ถือเป็นหนึ่งในกลไกโครโนกราฟ ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกา ที่มุ่งเน้นออกแบบมาเพื่อความเที่ยงตรง ความน่าเชื่อถือ และการใช้งานในระดับสูงสุด เช่นเดียวกับคาลิเบอร์อื่นๆ ของ BREITLING ที่แต่ละคาลิเบอร์จะได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ COSC ที่เข้มงวด 
 
10 Top Time Ford Mustang Ref. A25310241L1X1 RGB
 
ที่ต้องผ่านการทดสอบการกระแทก การพลิกตัวเรือนในแต่ละด้าน รวมไปถึงความกดดันภายใน โดยตัวเรือนนาฬิกาในคอลเลคชั่น Top Time ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้สามารถจัดวางคาลิเบอร์ชุดนี้ และให้มีความสามารถในการกันน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 100 เมตร หรือระดับ 10 บาร์ ใช้งานเข้าคู่กันกับสายหนังแบบรถแข่งรถที่มีการเจาะรู พร้อมสเกลวัดความเร็วรอบหน้าปัด พร้อมหน้าปัดย่อยแบบสแควร์เคิล (squircle) ที่ทั้งไม่เหลี่ยมมากและไม่กลมมาก 
 
Screen Shot 2566 03 22 at 23.12.55
 
ซึ่งรูปแบบที่ตัดกันนี้ชวนให้นึกถึงมาตรวัดแดชบอร์ดแบบในรถวินเทจ และเช่นเดียวกับนาฬิกาในรุ่นก่อนหน้าจากยุค 1960s ที่เน้นขับเคลื่อนรูปแบบด้วยสไตล์ ตัวเรือนที่ผลิตจากสตีลในขนาด 41 มิลลิเมตรของ Top Time จึงถูกเลือกใช้ เนื่องจากเป็นขนาดที่สะดวกสบายสำหรับทุกข้อมือ อันรวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบทั้งโลกของยานยนต์และโลกของนาฬิกาในทุกลาย ที่ล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้รำลึกถึงความหอมหวาน ของนาฬิกาในสไตล์วินเทจจากอดีตของแบรนด์
 
03 Top Time Chevrolet Corvette Ref. A25310241K1X1 RGB