CHOPARD เผยโฉม 4 รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวในงาน Baselworld 2014

 

Chopard แบรนด์นาฬิกาสวิสหรู เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ 4 รุ่น ที่จะเปิดตัวในงาน Baselworld 2014 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยมีครบทั้งไลน์สปอร์ต ไลน์นาฬิการะดับสูงสำหรับผู้ชาย และไลน์นาฬิกาผู้หญิงยอดนิยม Happy Sport ที่มากับเวอร์ชั่นทูโทน และเวอร์ชั่นกลไกระดับสูงอย่างตูร์บิยองพร้อมประดับเพชรเต็มสุดอลังการ

 

Grand Prix de Monaco Historique Chrono

 

สำหรับไลน์นาฬิกาสปอร์ต ได้แก่ Grand Prix de Monaco Historique Chrono นาฬิกาแบบแรกจากคอลเลคชั่นใหม่ถอดด้าม Grand Prix de Monaco Historique ซึ่งวางตัวให้เป็นนาฬิกาสำหรับหนุ่มๆ ที่นิยมกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ ด้วยรูปโฉมที่นำแรงบันดาลใจมาจากวงการมอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ ฟังก์ชั่น และสีสัน เห็นได้จากนาฬิกาแบบแรกของคอลเลคชั่นรุ่นนี้ที่มากับตัวเรือนไทเทเนี่ยมผิวด้านทรงสวยขนาด 44.5 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนสตีลขัดเงาติดตั้งวงแหวนอลูมิเนียมสีดำ พร้อมปุ่มกดไทเทเนี่ยมดีไซน์สไตล์หัวลูกสูบและเม็ดมะยมไทเทเนี่ยม เส้นวงโค้งบนหน้าปัดจำลองจากโค้งของสนามแข่ง วงหลักชั่วโมงจำลองแบบจากจานเบรก หลักชั่วโมงทรงหัวศร การตกแต่งด้วยสีเหลืองและดำบนหน้าปัดลายสเนลด์สีเงินร่วมกับเคาน์เตอร์จับเวลาสีดำ 2 วง และวงวินาทีสีเงิน เข็มสีดำเมทัลลิกแต้มสารเรืองแสงและเข็มจับเวลาสีเหลือง พร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ กำลังสำรอง 46 ชั่วโมง และสวมคู่กับสายหนังวัวสีดำเจาะรูกลมสไตล์ก้านพวงมาลัยรถแข่งในอดีตพร้อมบานพับไทเทเนี่ยม-สตีล หรือสายผ้าไนล่อนนาโต้สีดำคาดแถบเหลือง

 

 Untitled 12

 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เหมาะกับการนำชื่อ Grand Prix de Monaco Historique ซึ่งเป็นการแข่งขันที่นำเอารถฟอร์มูล่าวันในอดีตมาแข่งกันที่โมนาโก โดยทาง Chopard ได้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาตลอด และสำหรับในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 7 ของการแข่งขัน จะจัดขึ้นในวันที่ 10-11 พฤษภาคมนี้ ดังนั้นจึงมีโลโก้ของ Automobile Club de Monaco ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันรายการนี้สลักอยู่บนฝาหลังสตีลขัดเงาของตัวเรือนด้วย 

 

 

 

L.U.C 1963

 

เมื่อเอ่ยถึงนาฬิการะดับสูงสำหรับสุภาพบุรุษของ Chopard ก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากตระกูล L.U.C โดยรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้คือ L.U.C 1963 นาฬิกาหรูความเที่ยงตรงสูงระดับโครโนมิเตอร์ ที่ถอดแบบมาจากนาฬิกาโครโนมิเตอร์สุดยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์เครื่องบอกเวลา ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของตัวเรือน รูปแบบของหน้าปัดที่แผ่กว้างเกือบจรดขอบตัวเรือน ตลอดจนการบอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแม่นยำระดับโครโนมิเตอร์จากกลไกไขลานที่ได้รับตรารับรองคุณภาพ Poincon de Geneve ถือเป็นนาฬิการูปแบบคลาสสิกที่แฝงด้วยคุณภาพชั้นเลิศของเทคนิคการสร้างที่ทันสมัยที่สุดเอาไว้อย่างแนบเนียน โดยสำหรับชื่อรุ่นที่มีตัวเลข 1963 นั้น เป็นการสื่อถึงปี ค.ศ. ที่ตระกูล Scheufele ได้เข้าครอบครองกิจการของ Chopard โดยขณะนั้น Chopard ยังคงทำการผลิตนาฬิกาข้อมือที่ทำงานด้วยกลไกไขลานของนาฬิกาพกที่มีความเที่ยงตรงสูงตามมาตรฐานโครโนมิเตอร์อยู่ด้วย และนี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ Karl-Friedrich Scheufele ประธานร่วมของ Chopard ในปัจจุบัน ต้องการสร้างนาฬิการุ่น L.U.C 1963 ขึ้นมา เพื่อระลึกถึงนาฬิกาโครโนมิเตอร์ หน้าปัดสีขาว หลักชั่วโมงโรมันสีดำ อันเป็นแบบที่พ่อของเขายังคงให้มีการผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเข้าซื้อกิจการของ Chopard

 

Untitled 51

 

ตัวเรือนทรงคลาสสิกขนาดใหญ่ถึง 44 มิลลิเมตร ของ L.U.C 1963 ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุโรสโกลด์หรือแพลตินั่มขัดด้านร่วมกับขอบตัวเรือนขัดเงาพร้อมเม็ดมะยมขนาดใหญ่ถึง 8 มิลลิเมตรในวัสดุเดียวกับตัวเรือน งดงามด้วยหน้าปัดสีขาวสไตล์กระเบื้องพอร์ซเลนผืนกว้างถึง 36.7 มิลลิเมตร พร้อมหลักชั่วโมงโรมันและแทร็กนาทีแบบรางรถไฟสีดำ บอกวินาทีด้วยเข็มบนวงหน้าปัดขนาดเล็กพร้อมตัวเลขอารบิกแดง เข็มต่างๆ มาในทรงดอฟีนเช่นเดียวกับนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ๆ ของ L.U.C กลไกไขลานขนาดใหญ่ถึง 38 มิลลิเมตร L.U.C Calibre 63.01-L ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 60 ชั่วโมง ระดับมาตรฐานโครโนมิเตอร์และ Poincon de Geneve ที่ใช้ในนาฬิการุ่นนี้ ถูกปรับปรุงจาก L.U.C Calibre 06.01-L ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นร่วมกับ Geneva Watchmaking School และเปิดตัวเมื่อปี 2010 เพื่อให้แสดงเพียงชั่วโมง นาที และวินาที โดยถูกตกแต่งแบบทูโทนด้วยสีโรสโกลด์และสีเงินของสตีลและบริดจ์นิกเกิ้ลซิลเวอร์ พร้อมงานขัดแต่งอย่างประณีตสวยงามบนชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยมือ เพื่อสร้างมิติและความงามยามพินิจผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง สวมคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลเย็บด้วยมือพร้อมหัวเข็มขัดโรสโกลด์หรือแพลตินั่มตามตัวเรือน โดยจะผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดเพียงชนิดตัวเรือนละ 50 เรือนเท่านั้น 

 

 

Happy Sport Medium Automatic Two Tone

 

มาถึงคอลเลคชั่นยอดนิยมสำหรับสุภาพสตรีอย่าง Happy Sport ซึ่งปีที่แล้วได้ทำการฉลองครบรอบ 20 ปีของคอลเลคชั่นกันไปด้วยการออกรุ่นกลไกอัตโนมัติมาให้สาวๆ ได้ชื่นชมกัน ในปีนี้ทาง Chopard ได้ออกเวอร์ชั่นใหม่ของ Happy Sport Medium Automatic มาเพิ่มเติมในแบบทูโทน โดยเป็นการประกอบวัสดุโรสโกลด์กับสตีลเข้าด้วยกันอย่างงดงามทั้งในส่วนของตัวเรือนและสาย โดยมากับหน้าปัดสีเงินที่ได้รับการตกแต่งลวดลายกิโยเช่บริเวณกลางหน้าปัดพร้อมเอกลักษณ์สำคัญของคอลเลคชั่นคือเม็ดเพชรกลิ้งได้ โดยจะมีจำนวน 7 เม็ด ส่งประกายความงามร่วมกับหลักชั่วโมงและเข็มสีทอง พร้อมเจาะช่องแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา ตัวเรือนของรุ่นนี้เป็นขนาดกลาง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 36 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสสตีล โดยมีขอบตัวเรือนเป็นโรสโกลด์ขัดเงา พร้อมเม็ดมะยมโรสโกลด์ประดับบลูแซฟไฟร์ มาคู่กับสายหนังจระเข้ หรือสายสตีลสลับโรสโกลด์ สำหรับกลไกอัตโนมัติกำลังสำรอง 42 ชั่วโมงที่ใช้นั้นได้รับการตกแต่งด้วยลายโค้ตเดอเชอแนฟอย่างสวยงามซึ่งมองเห็นได้ผ่านกระจกบนฝาหลัง 

Untitled 3

  

Happy Sport Tourbillon Joaillerie

 

ปีนี้ Chopard เผยสุดๆ แห่งนาฬิกาสุภาพสตรี ด้วย Happy Sport ยอดนิยมที่มากับกลไกชั้นสูงอย่างตูร์บิยอง และมีการประดับเพชรอย่างอลังการ โดยเรียกขานว่า Happy Sport Tourbillon Joaillerie นาฬิการุ่นนี้ทำงานด้วยกลไกตูร์บิยองชั้นสูง L.U.C 02.16-L ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ระบบไขลานที่ให้กำลังสำรองนานถึง 9 วัน ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพโดย Poincon de Geneve บอกเวลาผ่านเข็มชั่วโมง นาที และวินาที สีน้ำเงิน โดยบรรจุไว้ในตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 42 มิลลิเมตร ประดับเพชรกลมบนตัวเรือนและประดับเพชรแบบ Trapeze-Cut รวมอีก 36 เม็ดบนขอบตัวเรือน ขณะที่เม็ดมะยมได้รับการประดับเพชรแบบบาแกตต์และไบรโอเล็ตคัท ส่วนผืนหน้าปัดก็ได้รับการประดับเพชรแบบปูเต็มหน้าปัดด้วยวิธีการที่เรียกว่าสโนว์เซ็ตติ้ง โดยแม้แต่บริดจ์ของตูร์บิยองก็ได้รับการประดับเพชรด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าเมื่อเป็น Happy Sport ก็จะต้องมีเพชรกลิ้งอยู่บนหน้าปัดด้วย ดังนั้นจึงยังคงมีเพชรจำนวน 7 เม็ดกลิ้งอยู่เหนือหน้าปัดประดับเพชรด้วยเช่นกัน สวมใส่คู่กับสายหนังจระเข้ตัดเย็บด้วยมือพร้อมหัวเข็มขัดไวท์โกลด์

 

Untitled 4

 

By: Viracharn T.