URWERK UR-112 Aggregat Back to Black
ถ้าหากเราคือฮีโร่ เราจะอยากเจ๋งเหมือน James Bond และหากเราคือสี เราก็อยากจะเป็นค่ำคืนที่มืดมิดที่สุด แล้วถ้าเราคือคุณภาพ แน่นอนว่าความตรงเวลา คือกฎเพียงข้อเดียวที่เราจะยึดถือ แล้วหากเราคือรถ เราก็อยากเป็น BUGATTI Atlantic Type 57 SC ที่เป็นยอดปรารถนาสูงสุด.. ซึ่งอันที่จริงแล้ว เราคือ UR-112 Aggregat Back to Black ที่เป็นนาฬิกาดิจิทัลได้มากที่สุดในบรรดาเหล่าเรือนเวลาจักรกลจาก URWERK ที่แสดงเวลาชั่วโมงแบบจั๊มปิ้งอาวร์ แสดงนาทีแบบลากหรือแดรกกิ้ง และยังแสดงวินาทีด้วยตัวเลข ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรา ที่ยังมากไปกว่านี้อีก... เล็กน้อย
“เพราะเราคือยอดจักรกลภายใต้ร่างสตีลและไทเทเนียม” ที่มาพร้อมตัวเรือนสตีลและไทเทเนียมภายใต้สถาปัตยกรรมการออกแบบอันซับซ้อน เริ่มต้นจากส่วนด้านบน กับฝาครอบสตีลที่เซาะร่องและเปลือยโปร่งแบบโอเพ่นเวิร์ก เพื่อมอบการมองเห็นถึงความรุ่มรวยของเครื่องยนต์แห่งความเร็วอันแวววาว โดยฝาปิดนี้จะเปิดออกในแนวตั้ง เพื่อให้สามารถเข้าถึงการแสดงพลังสำรองชั้นรอง และการแสดงวินาทีด้วยตัวเลข ส่วนโครงร่างกลางไทเทเนียมจะตกแต่ง ด้วยงานปัดด้านแบบซาตินขัดแซนด์บลาสต์และบีดบลาสต์ จึงสร้างรูปของสนามไมโครดอท (microdots) แห่งฟังก์ชั่น พร้อมทั้งปีกสตีลที่ทำให้เป็นสีดำทั้งสองชิ้น
ในลำตัวท่อนกลางที่ทำให้แต่ละโซน แต่ละพื้นที่ และแต่ละองค์ประกอบมีลวดลายพื้นผิว รวมถึงงานตกแต่งและภาษาการออกแบบในรูปแบบเฉพาะตัว นอกจากนี้ “เรายังเกิดมาท่ามกลางกลิ่นน้ำมันและความเงาวาว” จากการเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่น Special Project โดยแยกมาจากคอนเซ็ปต์นับตั้งแต่แรกเริ่มของการแสดงชั่วโมงแบบการโคจร (Wandering-Hour Indication) สำหรับ URWERK แต่ปรากฏบนสเกลใหม่ทั้งหมดพร้อมโครงร่างใหม่ เช่นเดียวกันกับกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ UR-13.01 ซึ่ง Martin Frei ผู้ร่วมก่อตั้งของ URWERK กล่าวถึงว่า
“แรงบันดาลใจของคอลเลกชัน 112 นี้ได้รับโดยตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ที่ทั้ง Felix และผมนั้นโชคดีที่ได้มีโอกาสพบกับคอลเลกชั่นรถยนต์สุดประทับใจของ Mr. Ralph Lauren ซึ่งท่ามกลางรถรุ่นหายากที่สุดนั้นก็คือ BUGATTI Atlantic และใช่เลย นี่คือรักแรกพบ ด้วยเส้นสายอันสมบูรณ์แบบกับโครงรถที่ไล่เลื้อยไปตามลำตัว ด้วยความสง่างามแบบอาร์ตเดโค BUGATTI คันนี้คือความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง และเป็นดั่งมิวส์ (Muse) ที่ถือเป็นตัวแทนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับภาพวาดร่างแรกของ UR-112” Martin เล่าถึงที่มาของแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานล่าสุดนี้
ไม่มีทั้งลูกบาศก์ ไม่มีกรงหมุนพร้อมแซทเทิลไลต์ต่างๆ และไม่มีการแสดงแบบส่วน 120 องศาเหมือนนาฬิกากับรุ่นอื่นๆ ของ URWERK ที่เคยสร้างหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ ให้กับแบรนด์มาแล้วกว่า 25 ปีโดย UR-112 Aggregat Back to Black นี้จะแสดงชั่วโมงแบบจั๊มปิ้งอาวร์ และแสดงนาทีแบบเทรลลิ่งมินิท (Trailing Minutes) บนปริซึมซึ่งย้ายมายังด้านหน้าของนาฬิกา ที่การแสดงเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ ผ่านกระจกแซฟไฟร์บานใหญ่ โดยขณะที่ชั่วโมงกระโดดในด้านหนึ่ง นาทีก็จะขยับไปข้างหน้าครั้งละห้านาทีบนอีกด้าน ส่วนตัวแสดงแบบลากหรือเทรลลิ่ง (Trailing) เพิ่มเติมนี้จะแสดงหน่วยนาทีที่แม่นยำ
Felix Baumgartner ผู้ร่วมก่อตั้งของ URWERK และช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์กล่าวว่า “นับเป็นอีกครั้งที่เราได้ปล่อยให้ความกล้าหาญได้พูดแทนเรา ในการสร้างสรรค์ซึ่งยานอวกาศแห่งเวลา ที่เหมือนกับยูเอฟโอที่ถือเป็นความท้าทายทางเทคนิค และเป็นความบ้าอันบริสุทธิ์ในแง่ของจักรกลและการตกแต่ง กับพลังงานที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์กลางของ UR-112 ที่ส่งออกไปทั้งสี่ทิศทางตามแกนที่มีไม่น้อยกว่า 12 แกน เสมือนลูกไม้แห่งจักรกลอย่างแท้จริง เราจึงสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้เพียงจำนวนจำกัดมากๆ แต่นี่คือความสมบูรณ์แบบซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา และความปิติยินดีในการประดิษฐ์สร้างสรรค์เรือนเวลาสำหรับเรา!”
“ฉันคือความฝันเหนือจินตนาการของการประดิษฐ์นาฬิกา ที่ขับเคลื่อนสู่ความสุดขั้วอย่างแท้จริง” โดยลำตัวกลางของตัวเรือน บรรจุไว้ด้วยชิ้นส่วนสำหรับขับเคลื่อนและควบคุมโดยกลไกอินเฮ้าส์ใหม่ ที่มีกระปุกลานขนาดใหญ่ที่มอบพลังสำรองลานได้ถึง 48 ชั่วโมงโดยเชื่อมโยงเข้ากับโรเตอร์ขึ้นลานอัตโนมัติ ผ่านการกดปุ่มสองปุ่มบนด้านข้างของนาฬิกา ที่จะเป็นการเปิดเครื่องกำบังหรือตัวปิด และเผยให้เห็นการแสดงพลังสำรองและการแสดงวินาทีในขนาดเล็กที่น่าตื่นเต้น โดยประกอบไปด้วยดิสก์ซิลิคอนแบบสเกเลตัน ที่เชื่อมต่อเข้ากับบริจด์อลูมิเนียมอโนไดซ์สีแดง อันเป็นงานออกแบบต้นตำรับของ URWERK4
แสดงเวลาผ่านปริซึมชั่วโมงและนาทีด้วยชุดเฟืองที่จัดวางในมุมเอียง 90 องศาสองชุด โดยปริซึมอลูมิเนียมสีดำที่ได้รับการเซาะโพรงในด้านต่างๆ นั้นได้เสริมความโดดเด่นด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา พร้อมยึดอย่างปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะหมุนได้ทั้งบนแกนของตนเองและภายในพื้นที่เฉพาะ โดยการบรรลุผลลัพธ์ด้านจลนศาสตร์นี้ จำเป็นต้องอาศัยซึ่งความแม่นยำอย่างมาก เพื่อมอบคุณลักษณะอันโดดเด่น ที่มาจากงานออกแบบที่เหนือกว่าประเพณีการผลิตใดๆ ซึ่งนี่ก็คือวิถีแห่ง URWERK นั่นเอง โดยนาฬิกาเรือนนี้จะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด 25 เรือน และมีราคาจำหน่ายที่ 280,000 สวิสฟรังก์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์