55th Anniversary of 44GS, One of the GRAND SEIKO Style

สไตล์ของ 44GS จากปี 1967 คือเรือนเวลารูปแบบแรกที่เป็นศูนย์รวมแห่งแนวทางการออกแบบ ซึ่งรู้จักกันดีในนาม “GRAND SEIKO Style” อันเป็นหลัก 9 ประการที่ทำให้นาฬิกาจาก GRAND SEIKO มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับทุกการสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาจนถึงทุกวันนี้ และในโอกาสแห่งการฉลองวาระครบรอบปีที่ 55 ของ 44GS ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ GRAND SEIKO จึงขอนำเสนอเรือนเวลากลไกควอท์ซที่รวบรวมจิตวิญญาณของดีไซน์แห่งปี 1967 เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยมพร้อมการมอบอัตราความเที่ยงตรงอันน่าทึ่งที่สุดในระดับ +5 ถึง -5 วินาทีต่อปี

 

SBGP017 2 RGB

 

หน้าปัดของเรือนเวลารุ่นนี้มีความโดดเด่นพอๆ กับขุมกำลังที่มอบความเที่ยงตรงอันยอดเยี่ยม ด้วยพื้นผิวแห่งทะเลเมฆซึ่งก่อตัวขึ้น ที่บริเวณขุนเขาในช่วงเช้าของบางวันในภูมิภาคชินชู อันเป็นแหล่งที่เรือนเวลารุ่นนี้และเรือนเวลากลไกควอท์ซทุกรุ่นของ GRAND SEIKO ถูกผลิตขึ้นมา โดยฉากทัศน์นี้เกิดขึ้นจากอากาศที่นิ่งและชื้น จนทำให้เหล่าก้อนเมฆอันหนาทึบมารวมตัวและทับซ้อนกัน ก่อเกิดเป็นทะเลเมฆเหนือที่ราบลุ่มของชินชู ที่ทอดยาวไปสู่ขอบฟ้าในทุกทิศทุกทางและถูกแต่งแต้มด้วยสีฟ้า ที่สะท้อนลงมาจากท้องฟ้าใสกระจ่างซึ่งอยู่เหนือมวลเมฆเหล่านั้น

 

SBGP017 3 RGB

 

เรือนเวลารุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอท์ซอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 9F85 ในเวอร์ชั่นที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นพิเศษ ที่สามารถมอบความเที่ยงตรงถึงระดับ +5 ถึง -5 วินาทีต่อปี โดยอัตราความเที่ยงตรงอันสูงยิ่งเช่นนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ผลึกคริสตัลที่ได้รับการบ่ม จากนั้นจึงทำการคัดเลือกเป็นรายชิ้น เพื่อนำเฉพาะชิ้นผลึกที่มีคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพในระดับสูงสุดมาใช้ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านความเที่ยงตรงแม่นยำ ทั้งฟังก์ชั่นการปรับความต่างของเวลา ที่ทำให้สามารถปรับเลื่อนเข็มชั่วโมงได้โดยไม่ต้องหยุดเข็มวินาที เพื่อรักษาความเที่ยงตรงระดับสูงเอาไว้ เมื่อผู้สวมใส่ทำการปรับเปลี่ยนเขตเวลา

 

88

 

นอกจากนี้ยังมีระบบแบ็คแลชออโต-แอดจัสต์ (Backlash auto-adjust) ที่ช่วยขจัดอาการสั่นของเข็มวินาที รวมไปถึงระบบการเปลี่ยนวันที่อย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา รวมทั้งระบบควบคุมแบบทวิน-พัลส์ (Twin-pulse) ที่ทำให้สามารถสร้างให้เข็มนาทีและเข็มวินาทีมีขนาดยาวจนจรดขอบหน้าปัด เพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาที่แน่นอนได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับ “ประกายแห่งคุณภาพ” ที่ปรากฎอยู่มากมายซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้แนวขอบ ที่คมกริบและพื้นผิวอันราบเรียบที่เป็นศูนย์กลางแห่ง “GRAND SEIKO Style” โดยเป็นการผสมผสานระหว่างพื้นผิวที่ผ่านการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัทสึ และพื้นผิวปัดลายละเอียดแบบแฮร์ไลน์

 

SBGP017 caseback RGB

 

พร้อมกับดาวห้าแฉก ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา อันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการตกแต่งชุดกลไก รวมทั้งสกรูว์ที่ผ่านการให้ความร้อนจนเป็นสีน้ำเงิน และสามารถมองเห็นได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาด้านหลังตัวเรือน โดยเรือนเวลารุ่นใหม่ล่าสุดจากคอลเลคชั่นHeritage นี้เป็นงานการผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 2,000 เรือนทั่วโลก โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมที่บูติกนาฬิกา GRAND SEIKO และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกแล้วทั่วโลก ในราคาจำหน่ายที่ประเทศไทย 146,000 บาท

 

SBGP017 4 RGB

 

 

 

 Screen Shot 2565 06 10 at 00.29.41