FRANCK MULLER Vanguard Gravity Tiger
FRANCK MULLER ต้อนรับปีขาลที่กำลังจะเริ่มขึ้นด้วยผลงานเรือนเวลาใหม่ ที่ผสมผสานระหว่างการประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงและหัตถศิลป์แห่งการประดับตกแต่งอัญมณี อย่างการแกะสลักและการวาดภาพย่อส่วนด้วยมือกับเรือนเวลารุ่น Vanguard Gravity Tiger พร้อมร่วมฉลองครบรอบ 30 ปีของประดิษฐกรรมเวลาชิ้นเอกของโลกจาก FRANCK MULLER อันทรงเกียรติแห่งนี้ จากการที่แบรนด์มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการรังสรรค์เครื่องบอกเวลาชั้นสูง พร้อมด้วยกลไกอันสลับซับซ้อนและประณีตสูงสุด ทั้งยังเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีด้านความเชี่ยวชาญในกลไกตูร์บิยอง ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนกลไกต่างๆ ทั้งเอสเคปเมนท์และบาลานซ์วีล ที่ทำงานร่วมกันอยู่ภายในกรงตูร์บิยอง เพื่อเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนของตำแหน่ง ในการแสดงเวลาอันเนื่องมาจากผลกระทบจากแรงโน้มถ่วง
FRANCK MULLER นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเรือนเวลารายแรกๆ ของโลกที่เลือกสร้างให้กรงของกลไกแบบตูร์บิยองนี้แสดงอยู่บนหน้าปัด เพื่อให้เจ้าของเรือนเวลาสามารถชื่นชมการหมุน ของเอสเคปเมนท์นี้ได้อย่างอิสระ ทั้งยังเป็นผู้ผลิตเรือนเวลารายแรกที่พัฒนาชุดตูร์บิยองแบบสามแกนสำหรับนาฬิกาข้อมือ โดยนับจากนั้นเป็นต้นมา FRANCK MULLER ยังได้สร้างสถิติด้านการออกแบบและสร้างสรรค์กลไกตูร์บิยองไว้อีกมากมาย ตั้งแต่ชุดตูร์บิยองในขนาดที่เล็กที่สุดไปจนถึงชุดตูร์บิยองขนาดใหญ่ที่สุดบนนาฬิกาข้อมือ เช่นเดียวกับการประดิษฐ์และสร้างสรรค์ชุดตูร์บิยองที่หมุนได้เร็วที่สุดอีกด้วย
โดยนาฬิการุ่น Vanguard Gravity ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการออกแบบชุดตูร์บิยองที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ด้วยชุดตูร์บิยองขนาดใหญ่แบบโอเวอร์ไซส์ ซึ่งมีกรงรูปทรงไข่พร้อมบริจด์ที่มีความโค้งทั้งแบบนูนและเว้าลง สะท้อนถึงงานออกแบบของตัวเรือนและหน้าปัด รวมถึงมอบภาพสามมิติอันดึงดูดใจและโดดเด่นให้กับนาฬิกา นอกจากนี้ยังนับเป็นหนึ่งในชุดตูร์บิยองที่มีน้ำหนักเบาที่สุด ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากกรงตูร์บิยองที่ผลิตจากอลูมิเนียมอโนไดซ์ ที่ช่วยเสริมทั้งความเที่ยงตรงของการแสดงเวลา และมอบซึ่งสีสันอันเปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูดสายตาให้กับกรงตูร์บิยองบนหน้าปัดอีกด้วย ขณะที่ชุดกรงตูร์บิยองขนาดใหญ่ยังได้มอบประสิทธิภาพการทำงานของบาลานซ์วีลด้วยความถี่ระดับ 3 เฮิรตซ์ กับผลลัพธ์ของความเที่ยงตรงระดับสูงสุด พร้อมทั้งความทนทานต่อแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือน
พร้อมกับการเติมแต่งความสง่างามให้กับนาฬิการุ่น Vanguard Gravity เพื่อเป็นที่ระลึกและร่วมฉลองให้กับปีเสือ (Year of The Tiger) ด้วยความประณีตวิจิตรของงานสลักรูปด้วยมือ ในภาพของเสือที่ราวกับมีชีวิต และกำลังกระโจนขึ้นเหนือกรงตูร์บิยองแบบกราวิตี้ (Gravity Tourbillon) ท่ามกลางฉากหลังที่ส่องประกายแสงระยิบระยับด้วยอัญมณี ราวดั่งมวลหมู่ดาราที่พร่างพราวบนท้องฟ้า โดยภาพบนหน้าปัดจะถูกถ่ายทอดไว้ ด้วยรูปแกะสลักด้วยมือและการตกแต่งแล็คเกอร์ด้วยมือ พร้อมทั้งบรรจงจัดวางไว้บนหน้าปัดและตัวเรือนของนาฬิกา ซึ่งงดงามด้วยงานฝีมือการประดับตกแต่ง อัญมณีคุณภาพสูงสุดอย่างวิจิตรหรูหรา
พร้อมทั้งนำเสนอภายใน 3 เวอร์ชั่น ทั้งในแบบตัวเรือนโรสโกลด์หรือไวท์โกลด์ ประดับด้วยเพชรบริลเลียนท์คัทรวม 643 เม็ดบนหน้าปัดและตัวเรือน หรือในเวอร์ชั่นตัวเรือนไวท์โกลด์เคลือบพีวีดีสีดำ ประดับด้วยเพชรบริลเลียนท์คัทสีดำบนตัวเรือนจำนวน 465 เม็ด และเพชรสีเขียวอีก 63 เม็ด คู่กับเพชรบริลเลียนท์คัทสีดำอีก 48 เม็ดบนหน้าปัด ซึ่งในแต่ละเวอร์ชั่นจะจับคู่มาพร้อมสายหนัง รับกับโทนของตัวเรือนและการตกแต่ง เช่นเดียวกับหัวเข็มขัดที่ประดับด้วยเพชรน้ำงามเช่นกัน
สง่างามด้วยรูปแกะสลักเสือที่ประดับไว้บนหน้าปัด ที่ผลิตขึ้นทั้งหมดแบบอินเฮาส์ในเมืองเลอบัวส์ โดยฝีมือของช่างแกะสลักย่อส่วน ผู้เชี่ยวชาญระดับมาสเตอร์ที่รังสรรค์ภาพของเสือได้ราวกับมีชีวิต จากนั้นจึงนำมาประกอบติดบนแผ่นบางๆ ของพื้นหน้าปัดที่ผลิตจากบราซส์ ก่อนที่รูปสลักนี้จะผ่านขั้นตอนของการยิงขัดแบบชอตบลาสต์ (Shot-blasted) เพื่อให้มีพื้นผิวเรียบ และต่อไปสู่การวาดแล็คเกอร์ด้วยมือทีละชั้น เพื่อสร้างสรรค์เป็นเฉดสีต่างๆ ที่ชัดเจนและเผยธรรมชาติอันสวยงามของเสือ ซึ่งนับเป็นขั้นตอนของการวาดย้อมสีต่างๆ อันประณีตละเอียดอ่อนรวมทั้งหมดถึง 36 ชั้น จากนั้นจึงเป็นการลงแล็คเกอร์โปร่งแสงที่ช่วยให้เสือมีความทรงพลังตามความเชื่อของชาวเอเชียอย่างมีชีวิตชีวา ซึ่งแค่เฉพาะบริเวณดวงตาของเสืออย่างเดียวนั้นต้องใช้การลงแล็คเกอร์ถึง 10 ชั้น
ภายใต้ตัวเรือนขนาดใหญ่ซึ่งมีสัดส่วน 49.5 มิลลิเมตร ซึ่งมอบพื้นที่อันกว้างขวางยิ่งขึ้นสำหรับรูปแกะสลักของเสือผงาด รวมทั้งชุดตูร์บิยองแบบกราวิตี้ที่ครองมากกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่บนหน้าปัด เช่นกันกับที่ยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับกลไกไขลานอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ FM L03 ที่ใช้เมนสปริงขนาดใหญ่ และมอบพลังสำรองลานได้นานสูงสุดถึง 5 วัน โดยในแต่ละเวอร์ชั่นจะผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดเพียง 3 เรือน และมีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในบูติคนาฬิกา FRANCK MULLER และตัวแทนจำหน่ายที่คัดเลือกเท่านั้น