FRANCK MULLER Grand Central Tourbillion, Ref. CX40 T CTR
นาฬิการุ่น Grand Central Tourbillon รุ่นใหม่จาก FRANCK MULLER นี้โดดเด่นด้วยกลไกตูร์บิยองที่ตำแหน่งกลางหน้าปัดพร้อมลวดลายกิโยเช่ในตัวเรือนแบบ Cintrée Curvex อันโด่งดังของแบรนด์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สามารถมองเห็นผลงานชิ้นเอกภายในได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน พร้อมความโดดเด่นด้วยลายกิโยเช่แบบใหม่ ที่มาพร้อมเอฟเฟ็คท์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของกรงตูร์บิยองที่หมุนรอบตัวเอง โดยลายกิโยเช่จะมีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ของการผสมผสานรายละเอียด ที่เป็นผลมาจากการคำนวนที่แม่นยำของแผนกออกแบบ ในการปรับสมดุลการทำงานของกลไกได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ
Grand Central Tourbillon รุ่นใหม่นี้คือเรือนเวลาเรือนแรกของโลก ที่จัดวางกลไกตูร์บิยองไว้กลางหน้าปัดกับตัวเรือนทรงตอนโน โดยมีเส้นสายโฉบเฉี่ยวทันสมัยในรูปทรงตัวเรือนที่เพรียวบาง แสดงถึงความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตเรือนเวลายุคใหม่ ซึ่งเป็นผลงานจากการวิจัยและพัฒนาอย่างทุ่มเทนานกว่าหนึ่งปี โดยการย้ายชุดตูร์บิยองจากตำแหน่ง 6 นาฬิกาแบบดั้งเดิมมาไว้ที่กลางของพื้นหน้าปัด ที่เป็นการเน้นความโดดเด่นสะดุดตา นอกจากนี้เข็มแสดงเวลาชั่วโมงและนาที ยังได้รับการจัดวางอย่างสร้างสรรค์รอบกรงตูร์บิยอง ซึ่งเป็นการรวมความสนใจไปที่ความซับซ้อนของกลไกภายในอย่างชาญฉลาด
โดยชุดตูร์บิยองแบบ 60 วินาทีจะจัดวางไว้กับบริจด์ชิ้นเดียว ซึ่งมีรูปแบบที่สามารถแสดงวินาที และถูกยกขึ้นเหนือกลไกที่เหลือทั้งหมดสู่พื้นหน้าปัด เพื่อแสดงความซับซ้อนอย่างวิจิตรงดงาม โดยเข็มแสดงเวลาชั่วโมงและเข็มนาที จะยื่นออกจากส่วนตรงกลางบนวงแหวนฉลุรอบๆ กรงตูร์บิยองอันตระการตา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางในการรวมความสนใจทั้งหมด มาพร้อมกลไกอัตโนมัติพร้อมชุดไมโครโรเตอร์ ที่ได้รับการตกแต่งลวดลายรัศมีที่สามารถให้พลังสำรองลานได้นานถึง 4 วัน โดยกลไกชุดใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นทั้งหมดใน Watchland ด้วยทีมวิศวกรของแบรนด์
โดดเด่นด้วยหน้าปัดกิโยเช่ที่ผ่านการชุบกัลป์วาไนซ์ และเคลือบด้วยแล็คเกอร์โปร่งแสงถึง 20 ชั้นอย่างประณีต พร้อมดีไซน์อาร์ทเดโคขนาดใหญ่ของหลักชั่วโมงอันเป็นเอกลักษณ์ของ FRANCK MULLER ที่ได้รับการประดับลงบนหน้าปัดอย่างพิถีพิถัน พร้อมตัวเรือนแบบ Cintrée Curvex ที่สามารถจดจำได้ในทันทีของ FRANCK MULLER ที่ดึงดูดใจผู้คนที่ชื่นชอบตัวเรือนแบบนี้มานานเกือบสามทศวรรษ โดยตัวเรือน Cintrée Curvex ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของการออกแบบอย่างน่าทึ่ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการจัดวางตูร์บิยองอยู่ตรงกลางตัวเรือนตอนโน
และเพื่อให้มุมมองของหน้าปัดลายกิโยเช่และกลไกตูร์บิยองมีความชัดเจนยิ่งขึ้น กระจกแซฟไฟร์จึงถูกขยายยาวไปจนถึงข้อต่อของตัวเรือนและสาย ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้หลังจากการปรับเทคนิคใหม่ในการยึดกระจก ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาและ 6 นาฬิกาให้สมบูรณ์แบบ โดยนอกจากนี้ขอบหน้าปัดของนาฬิการุ่น Grand Central Tourbillon นี้ยังแยกออกจากตัวเรือน และทำให้สามารถขัดแต่งในรูปแบบทูโทนที่สวยงามได้ โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเรือนแบบ Cintrée Curvex ดั้งเดิมไป พร้อมเน้นย้ำถึงความโค้งมนอันสวยงามของเรือนเวลารุ่นนี้ไปพร้อมกันอีกด้วย