Pre-SIHH 2018 เผยโฉมนาฬิกา 2 รุ่นใหม่จาก PIAGET 'Altiplano Ultimate Automatic' และ 'Extremely Lady'
PIAGET (เพียเจต์) เผยโฉมบางรุ่นของนาฬิกาใหม่ๆ ปี 2018 ออกมาให้ชมกันแล้ว นำโดย 2 รุ่นเด่นอย่างรุ่น Altiplano Ultimate Automatic (อัลติพลาโน อัลติเมท ออโตเมติก) ที่มาตอกย้ำการเป็นนาฬิกาเรือนบาง ด้วยสถานะการเป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติที่มีความบางเป็นที่สุดของโลก และรุ่น Extremely Lady (เอ็กซ์ตรีมลี่ เลดี้) ที่นำเสนอเรือนเวลาสตรีดีไซน์ทรงเสน่ห์ซึ่งเป็นการนำเรือนเวลาอันน่าหลงใหลในประวัติศาสตร์ของตนมาตีความใหม่ในบริบทแห่งยุคปัจจุบัน
Altiplano Ultimate Automatic
เพรียวบางเหนือขีดจำกัด
อีกครั้งที่ PIAGET ท้าทายขีดจำกัดเดิมของความเพรียวบาง ด้วยสถิติตัวเลขใหม่ของตัวเรือนที่บางเพียงแค่ 4.3 มม. ซึ่งทำให้นาฬิการุ่น Altiplano Ultimate Automatic นี้ เป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติที่เพรียวบางที่สุดในโลก เคียงคู่อย่างสมเกียรติกับนาฬิกากลไกไขลานที่มีความบางเป็นที่สุดของโลกที่ Piaget เปิดตัวออกมาเมื่อ 3 ปีก่อน และด้วยความที่กลไกอัตโนมัตินั้นมีส่วนประกอบมากกว่ากลไกไขลาน การสร้างให้มีความบางเป็นที่สุดของโลก จึงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมและควรคู่กับการดำรงชื่อรุ่นว่า Ultimate อันหมายถึงขั้นสูงสุดเป็นอย่างยิ่ง
ความสำเร็จครั้งใหม่นี้เป็นผลจากการปฏิวัติโครงสร้างทั้งหมดของนาฬิกา ที่ซึ่งฝ่ายออกแบบ ฝ่ายพัฒนา ฝ่ายวิศวกรรม และฝ่ายช่างทั้งในส่วนของตัวเรือนและกลไก ต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างเข้มข้นและเต็มความสามารถในทุกๆ ขั้นตอน จนออกมาเป็นการประสานรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวของตัวเรือนนาฬิกาเดรสคลาสสิกแบบ Altiplano และกลไกอินเฮ้าส์ คาลิเบอร์ 910 P ซึ่งถูกติดตั้งแบบกลับด้านกันกับลักษณะของกลไกทั่วไป โดยใช้เมนเพลทของกลไกรวมเป็นชิ้นเดียวกับฝาหลังและส่วนของขาตัวเรือน ขณะที่ชิ้นส่วนกลไกต่างๆ ล้วนถูกออกแบบและสร้างให้มีความบางเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น วีล ซึ่งมีความหนาเพียงแค่ 0.12 มม. ที่ไม่ใช่แค่บางเพียงอย่างเดียวแต่ยังถูกตกแต่งเป็นลายรัศมีพระอาทิตย์อย่างประณีตบรรจงอีกต่างหาก
กลไกเครื่องนี้ขึ้นลานแบบอัตโนมัติด้วยโรเตอร์วัสดุทองคำ 22 เค ที่เป็นลักษณะของแผ่นวงแหวนอยู่บริเวณขอบด้านในของตัวเรือนโดยสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่หากไม่บอกก็จะดูแนบเนียนจนเกือบดูไม่ออกว่าเป็นกลไกแบบขึ้นลานอัตโนมัติ ส่วนการแสดงเวลาจะเป็นแบบสองเข็มบนวงหน้าปัดขนาดเล็กที่จัดวางตำแหน่งเยื้องศูนย์กลางไปยัง 10 นาฬิกา โดยปล่อยให้พื้นที่ส่วนที่เหลือแสดงถึงความงดงามของดีไซน์โครงสร้างกลไกอย่างเต็มที่ และแม้จะมีความบางเฉียบอย่างที่เห็นแต่ก็สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 50 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนขนาดของตัวเรือนนาฬิการุ่นนี้ก็คือ 41 มม. โดยเปิดตัวออกมาทั้งเวอร์ชั่นตัวเรือนวัสดุพิ้งค์โกลด์ และเวอร์ชั่นตัวเรือนวัสดุไวท์โกลด์ ซึ่งทั้งคู่ล้วนติดตั้งมากับสายหนังจระเข้สีดำ
เวอร์ชั่นตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ (Ref. G0A43120) ; เวอร์ชั่นตัวเรือนไวท์โกลด์ (Ref. G0A43121)
Extremely Lady Ref. G0A43210
แรงบันดาลใจจากตำนานอันเย้ายวน
ด้วยแรงบันดาลใจจากนาฬิกาวินเทจตัวเรือนทรงไข่ หน้าปัดหยก ประดับเพชรกับมรกต ที่ แจ๊กเกอลีน เคนเนดี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ทั่วโลกรู้จักกันดีสวมใส่เมื่อ ค.ศ. 1967 นาฬิกา Extremely Lady รุ่นใหม่นี้จึงถือกำเนิดขึ้นมา โดยทางดีไซเนอร์ได้ทำการปรับโฉมให้เข้ากับยุคปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน
ตัวเรือนพิ้งค์โกลด์รูปไข่ของรุ่นนี้ถูกประดับด้วยเพชรจำนวน 24 เม็ดบนวงขอบตัวเรือน ล้อมรอบพื้นหน้าปัดที่ทำจากเปลือกหอยมุกสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมขับเน้นความสง่างามหรูหราแบบคลาสสิกเหนือกาลเวลาด้วยสายทองคำพิ้งค์โกลด์เส้นบางที่ถูกสกัดให้ผิวทองเป็นลอนอันอ่อนไหวอย่างประณีตด้วยมือโดยใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมของ PIAGET สมัยยุคทศวรรษที่ 1960-1970 เพื่อให้เกิดประกายอันนุ่มนวลงดงามยามต้องแสง โดยมีแรงบันดาลใจมากจากขนสัตว์ ส่วนการแสดงเวลาของ Extremely Lady รุ่นนี้จะเป็นแบบเรียบง่ายที่มีเพียงเข็มชั่วโมงกับนาทีจากการขับเคลื่อนของกลไกไขลาน คาลิเบอร์ 56P ที่ทั้งเล็กและบาง
By: VIracharn T.