EXCALIBUR AVENTADOR S จิตวิญญาณซูเปอร์คาร์ในเรือนนาฬิกา ประจักษ์พยานแรกแห่งความร่วมมือระหว่าง ROGER DUBUIS กับ LAMBORGHINI

 

สัมพันธภาพการเป็นพันธมิตรกันระหว่างวงการนาฬิกากับวงการรถยนต์และมอเตอร์สปอร์ต เป็นอะไรที่อยู่คู่กันมาหลายทศวรรษแล้ว อาจด้วยความที่สองสิ่งนี้เป็นยอดปรารถนาของผู้คนเพราะสามารถแสดงถึงฐานะ รสนิยม และความหลงใหลส่วนบุคคลได้อย่างชัดเจนที่สุด แต่การเป็นพันธมิตรนี้ก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงคู่สัมพันธ์กันอยู่เรื่อยๆ ตามแต่ข้อตกลง นโยบาย และโอกาสจะนำพาไป อย่างเช่นทีมแผนกมอเตอร์สปอร์ตของแบรนด์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลี่ยน Lamborghini ที่เมื่อสิ้นสุดสัญญาการเป็นพันธมิตรกับ Blancpain (บลองค์แปง) ไปเมื่อสิ้นสุดปี 2016 ก็ได้หันมาจับมือเป็นพันธมิตรกับ Roger Dubuis (โรเชร์ เดอบุยส์) แทบจะทันทีโดยลงนามข้อตกลงกันตั้งแต่ต้นปี 2017

 

Roger Dubuis เริ่มชิมลางเข้าสู่การเป็นพันธมิตรกับวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการจับมือกับแบรนด์ยางรถยนต์สมรรถนะสูง Pirelli (พิเรลลี) ซึ่งก็ได้ออกนาฬิการุ่นพิเศษเป็นสักขีพยานแห่งความร่วมมือมา 2 รุ่น ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2017 แล้ว แต่เมื่อทางแบรนด์ได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับ Lamborghini เป็นที่เรียบร้อย ก็คาดหวังได้เลยว่าจะต้องมีนาฬิการุ่นพิเศษออกมาให้ชื่นชมกันเป็นแน่

คู่พันธมิตร Roger Dubuis กับ Lamborghini นั้นจะว่าไปแล้วก็ดูมีความเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะนาฬิกาในกลุ่ม Excalibur เองก็เป็นนาฬิกาแนวสปอร์ตแบบทันสมัยสุดขั้วทั้งดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่งและวัสดุที่มักนำเอาวัตถุดิบล้ำๆ หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น คาร์บอน ไฟเบอร์ หรือโลหะผสมชนิดต่างๆ มาใช้กันอยู่แล้ว และแน่นอนว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็มีอยู่ในซูเปอร์คาร์ Lamborghini ด้วยเช่นกัน  

 

 

Roger Dubuis Aventador S Yellow 3

 

 

นาฬิกาแห่งความร่วมมือของสองแบรนด์นี้ เปิดตัวรุ่นแรกเมื่อเดือนกันยายน 2017 ด้วยรุ่น Excalibur Aventador S ที่เรียกได้ว่านำเอาชื่อของซูเปอร์คาร์รุ่นดังมาต่อท้ายชื่อนาฬิกาเอาดื้อๆ เลย โดยออกมาพร้อมกัน 2 เวอร์ชั่น คือ ‘Giallo Orion’ ที่ตกแต่งรายละเอียดด้วยสีเหลือง และใช้ตัวเรือนสีดำวัสดุคาร์บอนแบบมัลติ-เลเยอร์ ผลิตจำนวนจำกัด 88 เรือน สวมคู่มากับสายยางสีดำที่ตกแต่งด้วยรับเบอร์-เทค สีดำ กับ ‘Arancio Argos’ ที่ตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม และใช้ตัวเรือนสีดำวัสดุ C-SMC คาร์บอน อันเป็นชนิดเดียวกับที่ Lamborghini ใช้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่นำคาร์บอนที่สร้างด้วยเทคนิคนี้มาใช้กับตัวเรือนนาฬิกา โดยผลิตขึ้นแบบจำนวนจำกัดสุดๆ เพียงแค่ 8 เรือน สวมคู่มากับสายยางสีดำที่ตกแต่งด้วยอัลคันทาราสีดำ

 

 

Roger Dubuis Aventador S Yellow 1

 

Excalibur Aventador S 'Giallo Orion'

 

 

Roger Dubuis Aventador S Orange 2

 

Excalibur Aventador S 'Arancio Argos'

 

 

นาฬิการุ่นนี้ยังคงใช้ตัวเรือนขนาด 45 มม. แบบฉลุโปร่งพร้อมโครงหน้าปัดแบบสเกเลตันที่มีเพียงวงขอบหน้าปัด ซึ่งเป็นขนาดและรูปแบบเดียวกับรุ่น Excalibur Spider เวอร์ชั่นอื่นๆ หากแต่การตกแต่งนั้นมาในดีไซน์และสีสันที่ออกแบบขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ดีไซน์ของรถ Lamborghini แล้วก็มีสิ่งใหม่ที่มาพร้อมกับนาฬิการุ่นนี้นั่นก็คือ กลไกสเกเลตัน อินเฮ้าส์ ขึ้นลานด้วยมือ แสดงเวลาแบบสามเข็ม กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง เครื่องใหม่ รหัสคาลิเบอร์ RD103SQ ที่นอกจากจะนำแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงสร้างกลไกมาจากดีไซน์เครื่องยนต์ทรงพลังของซูเปอร์คาร์ Aventador S แล้ว ยังเป็นกลไกที่ใช้ชุดบาลานซ์ 2 ชุด เพื่อให้ควบคุมการแสดงเวลาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยทางแบรนด์ได้จัดวางชุดบาลานซ์ ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ทั้งสองชุดในแนวระนาบเอียงโดยติดตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน และเชื่อมต่อการทำงานกันด้วยดิฟเฟอเรนเชียล ซึ่งทำงานด้วยหลักการเดียวกับตูร์บิยอง อันเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากกลไกแบบ Quatuor (ควาทัวร์) บาลานซ์วีล 4 ชุด ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากความแม่นยำที่ได้แล้ว ยังมีลักษณะคล้ายกับตำแหน่งลูกสูบของเครื่องยนต์ด้วย อีกทั้งเข็มวินาทีของกลไกเครื่องนี้ยังเป็นการขยับแบบ “ทรู-บีท หรือ เด้ดบีท” เป็นจังหวะละวินาที เพิ่มความพิเศษอีกระดับให้กับนาฬิการุ่นนี้ ทั้งยังมีฟังก์ชั่นแสดงกำลังสำรองมาด้วยโดยเป็นเข็มที่แสดงผ่านช่องโค้งของชิ้นฝาครอบบริดจ์ที่ออกแบบให้คล้ายกับฝาครอบของเครื่องยนต์ Aventador

 

 

Roger Dubuis Aventador S Orange 1

 

 

ขอบหน้าปัดฉลุสเกเลตันของรุ่นนี้ถูกเคลือบด้วยโรเดียมโดยมีพื้นวงด้านในเป็นวงแหวนสีดำที่พิมพ์ด้วยสเกลนาทีสีเหลืองหรือสีส้มเช่นเดียวกับโทนการตกแต่งของนาฬิกา ทั้งในส่วนของวงขอบตัวเรือนด้านใน บนส่วนปลายของเข็มชั่วโมงกับนาทีทองคำเคลือบพีวีดีสีดำ เข็มวินาที แกนตัวเรือน เม็ดมะยม และด้ายบนสายนาฬิกา และในรุ่นสีส้ม ยังมีการตกแต่งตัวเลขนาทีบนขอบตัวเรือนเป็นสีส้มอีกด้วย ขณะที่โทนสีของโครงหน้าปัด ท่อนบริดจ์ และชิ้นฝาครอบนั้น ในรุ่นสีส้มจะใช้เป็นสีดำ (ซึ่งดูเหมือนว่าชิ้นฝาครอบบริดจ์ของรุ่นสีส้มจะเป็นวัสดุชนิดเดียวกับตัวเรือนด้วย)

 

 

Roger Dubuis Aventador S PG 1    Roger Dubuis Aventador S PG 4

 

 

Excalibur Aventador S 'Pink Gold bezel'

 

 

Roger Dubuis Aventador S PG 3

 

 

Roger Dubuis Aventador S PG 2

 

 

ล่าสุดในช่วงปลายปี Roger Dubuis ก็ได้เผยโฉมหน้านาฬิกาเวอร์ชั่นที่สามของ Excalibur Aventador S ออกมาแล้ว ด้วยตัวเรือนสีดำวัสดุคาร์บอนแบบมัลติ-เลเยอร์ ที่มากับขอบตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ 18 เค ที่ตกแต่งร่องสเกลกับตัวเลขด้วยสีดำ และใช้เม็ดมะยม เข็ม และฝาครอบบริดจ์ ที่ทำจากพิ้งค์โกลด์ 18 เค เช่นกัน สวมคู่มากับสายยางสีดำที่ตกแต่งด้วยแผ่นอัลคันทาราสีดำและตะเข็บด้ายสีทองพิ้งค์โกลด์ ล็อคด้วยบานพับไทเทเนี่ยมเคลือบดีแอลซีสีดำ โดยเวอร์ชั่นพิ้งค์โกลด์นี้จะผลิตขึ้นแบบจำนวนจำกัดเพียงแค่ 28 เรือน และจะออกโชว์เรือนจริงให้สัมผัสกันที่งาน SIHH 2018 ในเดือนมกราคม

 

 

By: Viracharn T.