WATCH MARKET ANALYSIS : Watch Industry Annual Report 2020
อย่างที่หลายคนในวงการนาฬิกาพอจะทราบ การจัดแสดงงานนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของแบรนด์นาฬิกา เนื่องจากความชื่นชอบ ชื่นชม และความประทับใจในภาพลักษณ์ต่างๆ ที่แบรนด์นำเสนอ จะทำให้เกิดความสนใจจนเป็นการซื้อขายตามมา ดังนั้นการที่แบรนด์นาฬิกาทั้งหลาย ต่างทุ่มเทเงินก้อนใหญ่ระดับร้อยล้าน เพื่อสร้างพาวิลเลี่ยนของตัวเองขึ้นมาในทุกปี พร้อมการนำเสนอผลงานชิ้นเด่น อันเป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก จึงถือเป็นการลงทุนที่เป็นเรื่องปกติของแบรนด์นาฬิกา ในขณะที่แบรนด์เล็กๆ ก็ต้องคอยอาศัย พ่วง และตามกระแสหลักของอุตสาหกรรมไปด้วย จนทำให้เกิดความสนใจขึ้นในหมู่ผู้คน กับแบรนด์นาฬิกาต่างๆ ที่ชื่นชอบ
และจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่เริ่มต้นจากช่วงปลายปี 2019 จนกระทั่งงานนาฬิกาใหญ่ทั้งสองคือ SIHH (ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Watch and Wonders) และ Baselworld ต่างก็ต้องปรับเปลี่ยนพร้อมทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนในที่สุดก็ไม่สามารถรั้งการจัดงานไว้ได้ และต้องยุติการจัดงานในที่สุด และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Baselworld ต้องยุติบทบาทการจัดงานไปชั่วคราว แม้ในช่วงแรกจะพยายามแจ้งถึงข่าวการจัดงานครั้งต่อไปในปี 2020 แต่ก็ไม่อาจยั้งกลุ่ม LVMH, CHOPARD, PATEK PHILIPPE และ ROLEX ให้ร่วมจัดงานต่อไปได้ จนส่งผลให้ต้องยุติบทบาทการจัดงานไปอย่างไม่มีกำหนด จนล่าสุดประกาศแจ้งถึงการปรับเปลี่ยนเพื่อจัดงานแบบออนไลน์ในปี 2020 ซึ่งต้องติดตามดูกันต่อไป
ในขณะเดียวกันกับที่ Watch and Wonders ซึ่งยึดเจนีวาเป็นเมืองหลัก สามารถรวบรวมแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะแบรนด์ยักษ์ใหญ่สองแบรนด์คือ PATEK PHILIPPE และ ROLEX รวมทั้ง CHOPARD เอาไว้ได้ จึงทำให้ในขณะนี้ Watch and Wonders ดูจะเป็นผู้คุมเกมส์การจัดแสดงงานนาฬิกาโลกไว้ในมือแทนที่ Baselworld ที่เป็นหัวหอกมานานหลายสิบปี ซึ่งอย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Watch and Wonders ก็นำเกมส์รุกโดยการประกาศแจ้งถึงการยกเลิกการจัดงาน เนื่องจากสถานการณ์ของ Covid-19 ที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง เป็นการจัดงานแบบออนไลน์แทนเช่นกัน แต่จากการที่ Watch and Wonders เป็นผู้รวบรวมแบรนด์นาฬิกาหลักๆ ไว้มากมาย ก็เชื่อได้ว่าต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ดี
อีกประเด็นสำคัญของการจัดแสดงงานนาฬิการะดับโลก คือการวัดความสนใจของผู้คนและรีเทลเลอร์ต่างๆ ก่อนที่นาฬิการุ่นนั้นๆ จะถูกผลิตและส่งออกจำหน่ายสู่ตลาด ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นการป่าวประกาศถึงศักยภาพของแบรนด์ ในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ สู่ตลาด ผ่านทางกองทัพสื่อมวลชนกว่าพัน ที่รวมตัวกันเข้าชมการนำเสนอและช่วยกระจายข่าวออกสู่ตลาด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต่างก็ทำให้โรงงาน ต้องมีระยะเวลาพอสมควรในการจัดการงานด้านการผลิต ดังนั้นการยกเลิกการจัดงานในปี 2020 จึงถือเป็นฝันร้ายของผู้บริหารแบรนด์ เพราะต้องกำหนดระยะเวลาต่างๆ ใหม่ทั้งหมดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พร้อมกับกระแสของสื่อมวลชน ที่กระจายตัวกันอย่างไม่เป็นเอกภาพอย่างที่เคยเป็นมาก่อน
ผนวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยนักกับสินค้าลักซ์ชัวรี่ รวมทั้งระยะเวลาการปิดการดำเนินงานของร้านค้าต่างๆ ในช่วงที่มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในประเทศต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ภาพโดยรวมของวงการ ไม่แจ่มใสนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา และยังทำให้เกิดภาวการณ์กระจุกตัวของความต้องการ โดยรวมความต้องการของผู้คนไปสู่แบรนด์/รุ่นหลักๆ กับภาพลักษณ์ของแบรนด์/รุ่นที่ผู้คนรู้จักกันดี รวมทั้งมีความต้องการในตลาดที่สูงอยู่แล้ว ร่วมกันผลักดันให้นาฬิกาแบรนด์/รุ่นนั้นๆ กลับกลายเป็นมีราคาสูงลิบลิ่วสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และแม้ว่านาฬิกาแบรนด์/รุ่นนั้นๆ ไม่ได้มีฟังก์ชั่นหรือความสามารถพิเศษอย่างใดอย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งนอกจากจะทำให้กลไกตลาดบิดเบือนแล้ว ยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ผลิต เนื่องจากความต้องการที่สูงและมีการผลักดันให้ผลิต เพื่อส่งนาฬิการุ่นเหล่านี้สู่ตลาดตามความต้องการ ในขณะที่ผู้ผลิตไม่สามารถผลิตนาฬิการุ่นเหล่านี้ได้มากเกินขีดจำกัด ทั้งจากแผนงานการผลิตและความเป็นจริงในตลาด ที่หากมีจำนวนการส่งออกสู่ตลาดมากเกินกำหนด จะทำให้เกิดการล้นตลาดและการล่มสลายของความนิยมไปได้อย่างไม่ยาก เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้ต่างต้องการเพียงแค่มีนาฬิการุ่นเหล่านี้เท่านั้น ไม่ได้เกิดจากความลุ่มหลงและชื่นชอบอย่างที่ควรจะเป็น และพร้อมจะเทขายออกสู่ตลาดเมื่อหมดความต้องการอย่างง่ายดายเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตเป็นกังวลมากที่สุดถึงผลที่จะตามมาและไม่อาจแก้ไขได้
อย่างไรก็ตามแบรนด์นาฬิกา/รุ่นไม่ได้อยู่ในกระแส ต่างก็พยายามนำเสนอนาฬิกาตามรูปแบบของตนเองออกสู่ตลาดเช่นเดิม โดยเพิ่มกระแสความต้องการขึ้นในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการสื่อสารของตัวเองในรูปแบบต่างๆ การลดราคาของนาฬิกาหลายๆ รุ่นลงอย่างสวยงาม รวมไปถึงการเปิดตัวนาฬิกาในรุ่นและแบบที่ตรงกับความต้องการของตลาดในขณะนี้ นั่นก็คือนาฬิกาในแนวสปอร์ตที่เป็นหัวใจหลักของผู้คนในแถบเอเซีย ที่ถือเป็นลูกค้าหลักของอุตสาหกรรมนาฬิกาในขณะนี้ โดยนำรูปแบบเดิมของตนเองมาปรับปรุงใหม่ในแนวสปอร์ต ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้คนที่ชื่นชอบนาฬิกาที่แตกต่าง พร้อมกับความสามารถด้านการใช้งานในชีวิตประวันวัน
ดังนั้นจึงสามารถสรุปภาพรวมของอุตสาหกรรมนาฬิกาในปีนี้ได้ว่า เป็นภาพความปั่นป่วนในการปรับเปลี่ยนแนวทางตลอดเวลา รวมทั้งปัญหาของการนำเสนออย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงานต่างๆ ที่ต้องรวบรวมผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน ในขณะที่ผู้ผลิตรายน้อยใหญ่ ต่างก็ต้องคอยควบคุมและบาลานซ์งานด้านการผลิต ให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการให้ดีที่สุด จนถึงปลายทางของผู้คนที่มักจะเลือกซื้อนาฬิการุ่น/แบรนด์ที่ยอดนิยมเอาไว้ก่อน โดยคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ น้อยกว่า และพร้อมที่จะเทขายออกสู่ตลาดเมื่อไม่ต้องการ อันจะเป็นหนทางที่อันตรายของนาฬิกาแบรนด์/รุ่นนั้นๆ และส่งผลโดยตรงกับนักสะสมหรือผู้ที่เลือกซื้อไปในขณะที่ราคาสูงลิบลิ่ว