ULYSSE NARDIN Blast การปะทุครั้งใหม่ของพลังงานจากภูเขาไฟ
เปี่ยมด้วยพลังอันมหาศาล กับสไตล์คลาสสิคสง่างามของ ULYSSE NARDIN นาฬิการุ่น Blast ที่เปิดตัวในวันนี้ทั่วโลก เปรียบเสมือนร่างอวตารแห่งยุคสมัย ที่เป็นพลังอันทรงอำนาจของธรรมชาติ กับความมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีที่สร้างขึ้น ด้วยเส้นสายอันแข็งกร้าวดุจหินและความเข้มแข็งของเอกบุรุษ รวมกันก่อให้เกิดเป็นผลงานรุ่นใหม่ล่าสุดของนาฬิกาแบบสเกเลตันตูร์บิยอง ที่จุดเปลวไฟและส่งคลื่นสั่นสะเทือนผ่านโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาสู่แก่นของหัวใจ โดยผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมทรงเรขาคณิตอันซับซ้อน ของขาสายลายตารางหมากรุกที่ชวนให้นึกถึงยานบินอำพราง รวมทั้งการสร้างสรรค์สู่ผลงานชิ้นเอกอันโดดเด่น แข็งแกร่ง และน่าตื่นเต้นสำหรับวันนี้
ด้วยต้นแบบที่แข็งแกร่งซึ่งหล่อหลอมอยู่ภายในทุกอณูของ “X-Factor” และงานการออกแบบอันงดงาม นาฬิการุ่น Blast ถือเป็นการตีความขึ้นใหม่ โดยสร้างตัวเรือนขึ้นจากนาฬิการุ่นขายดีที่สุดอย่าง Skeleton Tourbillion Open-Worked โดยมีการเล่นระหว่างความโปร่งใส ของกลไกตูร์บิยองอัตโนมัติใหม่อันเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้กรงรูปทรงเอ็กซ์ ที่ผ่านการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดด้วยภาพแห่งความแข็งแกร่งบึกบึน ทำงานด้วยความถี่ 2.5 เฮริท์ซ โดยมีเอกลักษณ์อื่นๆ พร้อมกันไม่ว่าจะเป็นกรอบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขาตัวเรือนที่ยึดเข้ากับสาย ขอบตัวเรือนที่มีสีอันเรียบลื่น และกลไกการทำงานที่จัดตั้งเป็นแนวดิ่ง รวมทั้งกระปุกลานที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ตลอดจนกรงฟลายอิ้งตูร์บิยองที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
กลไกอินเฮ้าส์รุ่นล่าสุดนี้คือคาลิเบอร์ UN-172 ที่มีการพัฒนามาจากกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ UN-171 พร้อมพลังสำรองลานนาน 3 วัน และเป็นครั้งแรกของคอลเลกชั่น กับไมโคร-โรเตอร์ที่ผลิตจากแพลทินัม ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากด้านหน้าที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยใช้เวลาถึง 18 เดือนในการสร้าง นับตั้งแต่แนวคิดสู่การสร้างสรรค์ อย่างเช่นขอบตัวเรือนทรงกลมพร้อมหยักฟันทรงสามเหลี่ยม หรือสัญลักษณ์ "X” คู่ที่จับยึดเข้ากับกลไกด้วยโครงสร้างแบบแซนด์วิช และบัคเคิลแบบบานพับที่สามารถปรับระดับเองได้ รวมทั้งให้ความปลอดภัยสูงสุด โดยผ่านการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
น้ำแข็ง : White Blast ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเซรามิคสีขาว สีเทาเมทัลลิค สีน้ำเงินเข้ม และความโปร่งใสอันสวยงาม กับขอบตัวเรือนไทเทเนียมเรียบลื่น พร้อมคำกำกับสีน้ำเงินเข้มบนบาร์เรลว่า Silicium Technology อันหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในชุดกลไก พร้อมกับโลโก้ ULYSSE NARDIN สีน้ำเงินเข้มที่โดดเด่นบนกรอบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และสีน้ำเงินเข้มบนมาร์กเกอร์และเข็ม ที่เติมเต็มด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา ช่วยให้ความสว่างไสวยามค่ำคืน
ไฟ : Rose Gold Blast ขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร ที่หลอมขึ้นจากหนึ่งในโลหะอันล้ำค่าที่สุดบนผืนโลก มาพร้อมตัวเรือนท่อนกลางเคลือบดีแอลซีสีดำ และขาสายผลิตจากทองคำ คู่ขอบตัวเรือนเซรามิคสีดำ กับกรงตูร์บิยองสองโทนสี ระหว่างสีโรสโกลด์และพีวีดีสีดำ
ไฟ : Black Blast ขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร มาพร้อมความสมบูรณ์แบบของตัวเรือนท่อนกลางด้านบน และขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิค สะพานจักรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำลวดลาย "X” คู่สีแดงและสีดำ และบาลานซ์วีลสีแดงใหม่โดดเด่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ ULYSSE NARDIN ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รอยต่อกระจกคริสตัลเป็นสีแดง เพื่อให้เข้ากับทับทิมสังเคราห์และคำกำกับ Silicium Technology ที่ลงแล็กเกอร์บนบาร์เรลโดดเด่นขึ้น ในขณะที่โลโก้ ULYSSE NARDIN เป็นสีเทา และเติมเต็มความสมบูรณ์ด้วยกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขาสายทรงเรขาคณิตที่ตกแต่งแบบขัดเงาและลายแซนด์บลาสท์
น้ำแข็ง : Blue Blast ขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร กับสีฟ้าเย็นยะเยือกราวอยู่ภายในภูเขาน้ำแข็ง โดยมีตัวเรือนท่อนกลางผลิตจากไทเทเนียม ขอบตัวเรือนไทเทเนียมสีฟ้า สะพานจักรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าผลิตจากทองเหลืองสีฟ้า กรงตูร์บิยองสีฟ้า ลวดลาย "X” คู่สีฟ้าและสีเทา เข็มและมาร์กเกอร์ ตกแต่งสีเทาเมทัลลิค
นาฬิกา ULYSSE NARDIN รุ่น Blue Blast จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 1,453,000 บาท, รุ่น White Blast และรุ่น Black Blast ในราคา 1,519,000 บาท และรุ่น Rose Gold Blast ที่ 1,783,000 บาท