L’EPEE 1839 – Duet, Music to the rhythm of time
ปี 2012 เป็นปีเริ่มต้นของเสียงดนตรีอันไพเราะจาก L’EPEE เมื่อ REUGE แบรนด์กล่องดนตรีระดับโลก ตัดสินใจร่วมงานเพื่อผลิตผลงานชิ้นใหม่ร่วมกัน โดยทั้งสองถือเป็นแบรนด์ที่มีถิ่นกำเนิดในหุบเขาจูราของสวิตเซอร์แลนด์ ที่พรั่งพร้อมประสบการณ์ และความสามารถในการผลิตผลงานต่างๆ ออกมาโดยตลอด
L’EPEE ถือเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในการผลิตนาฬิกาตั้งโต๊ะมาตั้งแต่ปี 1839 ในขณะที่ REUGE ก็มีประวัติศาสตร์ของแบรนด์อันยาวนานที่ย้อนหลังไปได้ถึงปี 1855 ดังนั้นการรวมตัวกันของทั้งสอง จึงถือเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ของนาฬิกาตั้งโต๊ะและกล่องดนตรี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก
นาฬิกาตั้งโต๊ะพร้อมเสียงดนตรี จึงถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือกันของทั้งสองแบรนด์ โดยมีการพัฒนาและวิจัยร่วมกันในหลายด้าน เพื่อสร้างผลงานชิ้นใหม่นี้ให้เกิดขึ้น เนื่องจากองค์ประกอบและความต้องการของชุดกลไกสำหรับทั้งสองสิ่ง แม้จะมีความคล้ายกัน แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างกันในหลายด้านอยู่
กลไกชุดใหม่ที่ทำงานด้วยพลังงานจากตลับลานถึง 5 ชุดจาก L’EPEE จึงได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนานถึง 40 วันตามลักษณะที่เหมาะสมของนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ดี ในขณะที่ยังต้องรองรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง ของการตีแสดงเวลาชั่วโมงตามปกติของนาฬิกาตั้งโต๊ะอีกด้วย
ในขณะที่ทาง REUGE พัฒนาแผ่นดนตรีเพื่อให้สามารถเล่นเพลงได้ถึง 12 เพลง และใช้พลังสำรองลานที่น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานของกลไกแสดงเวลา ในขณะที่ยังต้องคงความสามารถในการเล่นเพลงต่างๆ ได้จำนวนมากอย่างเหมาะสมในตลอดช่วงเวลา 40 วัน
ผลงานชิ้นนี้จึงสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ และได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Duet อันหมายถึงการประสานเสียงร่วมกันของทั้ง L’EPEE และ REUGE เพื่อให้เกิดเสียงอันไพเราะมากขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบให้มีความโปร่งใส และแสดงให้เห็นได้ถึงกลไกการทำงานอันสวยงามด้านใน
กลไกอินเฮ้าส์ภายในผลิตจากบราสเคลือบพาลาเดียม พร้อมตลับลาน 5 ชุดให้พลังสำรองลานที่ยาวนานถึง 40 วัน โดดเด่นด้วยชุดเอสเคปเม้นท์ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่ขยับตัวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีเข็มแสดงพลังสำรองลานที่ออกแบบเป็นพิเศษ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อแสดงลานที่ยังเหลืออยู่
โดยชุดกลไกทั้งหมดจะเกาะอยู่กับผนังกระจกแซฟไฟร์ด้านใน เพื่อทำให้เสมือนชุดกลไกนี้ลอยอยู่กลางอากาศ ในขณะที่ด้านนอกจะเป็นกระจกแซฟไฟร์อีกหนึ่งชั้น เพื่อทำหน้าที่เป็นกล่องตัวเรือนของนาฬิกาชั้นนอก ที่ถูกออกแบบให้มีความเรียบง่าย ดูหรูหรา และเข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่ REUGE ออกแบบให้ Duet สามารถเล่นเพลงได้ถึง 12 เพลงโดยมีให้เลือกโทนของเสียงเพลง ทั้งแบบคลาสสิคหรือแบบโซล ซึ่งมีการพัฒนาให้สามารถใช้ดรัมเพียงชิ้นเดียวในการเล่นเพลงทั้งเพลง โดยกลไกสำหรับเสียงดนตรีทั้งหมด จะบรรจุอยู่ด้านล่างของตัวเรือน ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน
ดังนั้นผลงานชิ้นนี้ จึงเป็นมากกว่านาฬิกาตั้งโต๊ะ และมากกว่ากล่องดนตรี แต่จะเป็นผลงานศิลปะ ที่ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ ให้มีรูปแบบใหม่ที่ผนวกงานทั้งสองศาสตร์เข้าด้วยกัน แต่ผสานกันไว้ด้วยรูปแบบเชิงศิลป์ที่ทั้งสองแบรนด์มีร่วมกันมาโดยตลอด
