PARMIGIANI Fleurier – Tonda Selene
“ความวิเศษบางอย่างที่อยู่ในกระบวนการผลิตนาฬิการะดับสูง ขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนอันแสนละเอียดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้รวมกันและเกิดเป็นกลไก ที่จะขับเคลื่อนให้นาฬิกาสามารถแสดงเวลาได้ เปรียบเสมือนลมหายใจที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้ดำเนินอยู่ได้ และนี่ก็คือจังหวะของกลไกที่จะไม่มีวันหยุดเคลื่อนที่”
นี่คือหนึ่งในประโยคที่ Michel Parmigiani ประกาศสู่โลกเพื่อให้รับรู้ถึงแนวคิด และปฏิธานอันยิ่งใหญ่ของเขา ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1976 ในช่วงวิกฤติการณ์ควอท์ซ ที่เหล่านาฬิการะดับสูง ที่มีกลไกสลับซับซ้อนต่างๆ ถูกวางทิ้งไว้อย่างน่าเสียดาย และเขาเป็นผู้พลิกฟื้นนาฬิกาเหล่านี้ให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
จนกระทั่ง SANDOZ Family Foundation ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องหนังระดับสูง HERMÉS เล็งเห็นถึงความสามารถของ Michel และตัดสินใจสนับสนุนให้เกิดเป็นแบรนด์ PARMIGIAINI ขึ้นรวมทั้งเข้าซื้อกิจการของโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง จนทำให้เกิดเป็นแบรนด์อย่างสมบูรณ์แบบ
และเพราะ Michel Parmigiani ไม่ได้เพียงแค่มีความสามารถทางด้านการออกแบบ พัฒนา ผลิต และสร้างกลไกนาฬิการะดับสูง อันสลับซับซ้อนได้เท่านั้น แต่เขายังมีความสามารถด้านการออกแบบ ด้วยสไตล์อันเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เกิดเป็นภาพลักษณ์สำคัญของแบรนด์ในปัจจุบัน
ตัวอย่างที่ดีที่เห็นได้ชัด คือนาฬิกา PARMIGIANI Fleurier รุ่น Tonda Selene รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นนาฬิกาที่เต็มไปด้วยความงดงาม กับลวดลายวัสดุโรสโกลด์บนหน้าปัด พร้อมพื้นมุกสีขาวผนวกกับชุดมูนเฟสและชุดแสดงวันที่ ที่รวมกันทำให้นาฬิกาเรือนนี้ มีความงดงามอย่างมีสไตล์บนข้อมือของคุณสุภาพสตรีทุกคน
สะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่า สุภาพสตรีทุกคนย่อมต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเอง ซึ่งจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึ่ง Tonda Selene ก็ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับคุณสุภาพสตรี ผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ด้วยการเอาใจใส่ด้านการออกแบบอย่างละเอียดอ่อน
ในขณะเดียวกันก็ยังคงความพิเศษของกลไก ในรูปแบบที่เหมาะกับการใช้งานของคุณสุภาพสตรี ทั้งช่องหน้าต่างแสดงวันที่เหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา และชุดแสดงมูนเฟสใต้ตำแหน่ง 12 นาฬิกา รวมทั้งความพิเศษสุดของนาฬิกาจาก PARMIGIANI Fleurier ทุกเรือนนั่นก็คือสายหนังวัวที่ตัดเย็บพิเศษจาก HERMÉS
ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ PF318 ทำงานที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (4 เฮริท์ซ) พลังสำรองลานนาน 50 ชั่วโมง และโรเตอร์ที่ผลิตจากโรสโกลด์ ที่สามารถมองเห็นได้ทางด้านหลังตัวเรือน แสดงเวลาชั่วโมง นาที และวินาที พร้อมช่องหน้าต่างแสดงวันที่แบบสามช่อง และหน้าต่างแสดงมูนเฟส
ตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 36 มิลลิเมตร ขอบเบเซิลประดับเพชรจำนวน 46 เม็ดรอบขอบเบเซิล น้ำหนักรวม 1.84 กะรัต กรุกระจกแซฟไฟร์พร้อมเคลือบสารป้องกัน แสงสะท้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หน้าปัดมุกสีขาว และชิ้นงานลวดลายดอกไม้บนหน้าปัด พร้อมมาร์กเกอร์และตัวเลข 3 และ 9 ที่ผลิตจากโรสโกลด์
นาฬิกาเรือนนี้ถือเป็นการต่อยอดจากนาฬิการุ่น Selene 36 ที่มีตัวเรือนโรสโกลด์ และหน้าปัดที่ผลิตจากอเวนทูรีนสีน้ำเงิน พร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน และการประดับเพชรจำนวน 46 เม็ดรอบขอบเบเซิลเช่นกัน โดยมีทางเลือกในรูปแบบเดียวกัน กับขนาดตัวเรือน 33 มิลลิเมตรสำหรับข้อมือที่เรียวบางของคุณสุภาพสตรี
