AUDEMARS PIGUET NEW ROYAL OAK PERPETUAL CALENDAR THAILAND LIMITED EDITION
ความสัมพันธ์อันดีระหว่าง AUDEMARS PIGUET และประเทศไทยเริ่มต้นมาอย่างยาวนาน โดยสามารถย้อนกลับไปได้ถึงในปี 1950 เมื่อนาฬิกาข้อมือฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ซีรี่ส์แรก Ref. 5516 ซึ่งผลิตเพียง 12 เรือนถูกจำหน่ายให้กับลูกค้าชาวไทย ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปี 2008 AUDEMARS PIGUET รังสรรค์ Royal Oak Limited Edition เรือนแรกสำหรับประเทศไทยขึ้น Royal Oak King of Thailand 80th Anniversary เรือนเวลาเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา รังสรรค์บนตัวเรือนสตีล/พิ๊งค์โกลด์ ผลิตขึ้นเพียง 50 เรือน
Royal Oak King of Thailand 80th Anniversary
ถัดมาคือ Royal Oak Offshore Pride of Siam ในปี 2013 อีกเรือนเวลาที่สะท้อนถึงเกียรติภูมิของประเทศไทย โดดเด่นที่ฝาหลังสตีลสลักรูปช้างเผือก สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง สื่อความหมายพิเศษถึงความเป็นมงคลและความงดงามที่หาได้ยาก โดยได้แรงบันดาลใจจากธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นบนพื้นแดง ซึ่งเคยเป็นธงราชการของประเทศไทยในอดีต ผลิตขึ้นเพียง 100 เรือน
Royal Oak Offshore Pride of Siam
โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา AUDEMARS PIGUET ได้ส่งตรงเรือนเวลาที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์กว่า 50 เรือน มาจัดแสดงที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ผ่านนิทรรศการ “From Le Brassus to Bangkok” ทั้งยังให้เกียรติศิลปินร่วมสมัยเชื้อสายไทยคนแรก มาร่วมครีเอทภาพนิ่งและวิดีโออินสตอลเลชั่น เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์สู่สายตาชาวไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากสื่อมวลชน และแฟนๆ ของแบรนด์เป็นอย่างดี
From Le Brassus to Bangkok
และเพื่อเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยที่มีต่อ AUDEMARS PIGUET นาฬิการุ่น Royal Oak Perpetual Calendar Thailand Limited Edition Ref. 26607BC.OO.1220BC.01 ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 20 เรือน จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยได้ดีไซน์จากแรงบันดาลใจของสีธงไตรรงค์ เพื่อสื่อถึงความเป็นไทยและความภาคภูมิใจของคนในชาติ สะกดทุกสายตาด้วยลวดลาย กรองด์ ตาปิสเซอรี่ (Grande Tapisserie) หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของ Royal Oak บนดีไซน์พื้นหน้าปัดสีแดง
พร้อมส่วนแสดงสัปดาห์บนขอบตัวเรือนด้านในสีเดียวกัน ร่วมด้วยวงหน้าปัดย่อยสีน้ำเงินและสีขาว ทำหน้าที่แสดงวัน วันที่ และเดือน พร้อมไฮไลท์สำคัญอย่างส่วนแสดงข้างขึ้น–ข้างแรม และส่วนแสดงเดือนพร้อมปีอธิกสุรทิน ณ ตำแหน่ง 6 และ 12 นาฬิกาตามลำดับ บนตัวเรือนไวท์โกลด์ ขนาด 41 มิลลิเมตร ฝาหลังสลักคำว่า “Quantieme Perpetuel” และ “Limited Edition of 20 Pieces” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 5134 พลังสำรองลานนาน 40 ชั่วโมง กันน้ำลึก 20 เมตร ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การแต่งตัวด้วยสายยางสีแดงและสีน้ำเงิน ให้เลือกเปลี่ยนได้ในแต่ละวัน ในราคาจำหน่าย 3,622,700 บาท