Horological Machine No.7 ‘Aquapod’
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk
หลังจากที่ MB&F มุ่งสู่อวกาศกับ HM2, HM3 และ HM6 เปิดตัวสู่ท้องฟ้ากับ HM4 และปิดถนนเข้าสู่โลกแห่งความเร็วกับ HM5, HMX และ HM8 ปี 2017 MB&F ก็พุ่งลงสู่น่านน้ำด้วย Horological Machine No.7 หรือ HM7 Aquapod และล่าสุดในปีนี้ กับขอบเบเซิลสีเขียว
และแมงกะพรุนก็คือแรงบันดาลใจของ Aquapod เรือนนี้ แมงกะพรุนไม่ใช่ปลาและไม่ใช่วุ้นอย่างที่เราเห็น องค์ประกอบส่วนใหญ่ของพวกมันประกอบด้วยน้ำ แมงกะพรุนเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีอายุมากที่สุดในโลกซึ่งมีอายุมากกว่าไดโนเสาร์เสียอีก และยังเป็นสุดยอดของการประมวลผลข้อมูลโดยไม่มีสมองสั่งการส่วนกลาง แต่เป็นห่วงประสาทที่เชื่อมโยงถึงกันและมีความไวต่อการสัมผัสสูง ทั้งเพื่อการมองและนำทาง นอกจากนี้ แมงกะพรุนยังสามารถโคลนนิ่งได้อย่างง่ายดาย ถ้าคุณผ่ามันออกครึ่งตัว (ไม่แนะนำให้ทำ) มันจะเติบโตเป็นแมงกะพรุนสองตัวที่มีพันธุกรรมเหมือนกันเป๊ะ ยิ่งไปกว่านั้นแมงกะพรุนยังเคยได้รับโอกาสในการขึ้นสู่อวกาศอีกด้วย ในปี 1991 ที่กระสวยอวกาศโคลัมเบียนำแมงกะพรุนขึ้นอวกาศเพื่อการทดลองผลทางวิทยาศาสตร์ และสำหรับเรา แมงกะพรุนในขณะที่เรืองแสงจะมีความสวยมาก แม้หลายชนิดจะเรืองแสงเพื่อวัตถุประสงค์ในการดึงดูดเหยื่อก็ตาม
สำหรับ Aquapod เรือนนี้ กรงตูรย์บิยองที่เห็นได้เด่นชัดจะเป็นศูนย์กลางของเรือน ที่มีลักษณะเดียวกันกับแมงกระพรุนที่มีความสมมาตรและมีจุดสร้างพลังงานจากศูนย์กลางของตัวมัน และเช่นเดียวกัน Aquapod เรือนนี้ยังมีความสามารถในการเรืองแสงในที่มืดได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับแมงกระพรุน ทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามของนาฬิกาเรือนนี้ได้ในอีกลักษณะหนึ่งอย่างที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน
แต่ถึงจะมีลักษณะที่สวยงามอย่างที่ทีมงานของ MB&F ต้องการ แต่ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของนาฬิกาเรือนนี้คือวงแหวนแสดงเวลาที่มีขนาดใหญ่มากพอๆ กันกับตัวเรือน คำตอบของปัญหาใหญ่นี้คือการพัฒนาชุดตลับลูกปืนเซรามิคขนาดกว้างพิเศษที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าๆ กันเพื่อรองรับการหมุนของวงแหวนแสดงเวลาที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำมาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของตัวเลขแสดงค่าต่างๆ ที่ทางทีมงานตัดสินใจให้เป็นการลงสารเรืองแสดง (Super Luminova) ด้วยมือ เพราะเทคนิคการพิมพ์จะไม่สามารถกระทำได้บนแผ่นวัสดุที่โค้งอย่างเช่นขอบวงแหวนแสดงค่าของนาฬิกาเรือนนี้
HM7 Aquapod มีให้เลือก 3 รุ่นคือ แบบตัวเรือนไทเทเนี่ยมพร้อมขอบเบเซิลเซรามิกสีน้ำเงิน ผลิต 33 เรือน แบบตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์พร้อมขอบเบเซิลสีดำ ผลิต 66 เรือน และในปีนี้กับแบบตัวเรือนไทเทเนียมพร้อมขอบเบเซิลสีเขียว ผลิต 50 เรือน