FREAK VISION ที่สุดแห่งนวัตกรรมกลไกจากฝีมือ ULYSSE NARDIN
By: Viracharn Termpipatpong
Freak คือคอลเลคชั่นนาฬิกาสุดล้ำที่นำเสนอนวัตกรรมจักรกลบอกเวลาสู่การใช้งานจริงโดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องออกมาเป็นเจเนอเรชั่นต่างๆ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และในปีนี้ก็เป็นการนำเสนออีกระดับขั้นของ Freak ด้วยการใช้กลไกเครื่องใหม่ซึ่งเป็นกลไกแบบขึ้นลานอัตโนมัติเครื่องแรกสำหรับตระกูล Freak
แน่นอนว่าเมื่อเป็น Freak แล้ว จะใช้กลไกอัตโนมัติแบบพื้นๆ ก็คงไม่สมศักดิ์ศรี ทางแบรนด์จึงได้พัฒนานวัตกรรมระบบกลไกใหม่ๆ ขึ้นมามากมายซึ่งบางอย่างก็เคยใช้กับนาฬิกาคอนเซ็ปต์ InnoVision 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2017 มาแล้ว
นวัตกรรมเทคนิคใหม่ๆ ที่บรรจุอยู่ในนาฬิการุ่นนี้ ก็คือ ระบบขึ้นลานแบบไกรนเดอร์ ซึ่งเป็นการปฏิวัติระบบใหม่หมด เริ่มจากตัวโรเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับเฟรมที่ประกอบด้วยแขน 4 แขน ซึ่งเพิ่มแรงบิดให้กับการขึ้นลานเป็นสองเท่า โดยมีกลไกนำร่องแบบยืดหยุ่นทำหน้าที่จำกัดแรงเสียดทาน ดังนั้นแม้ขยับข้อมือแค่นิดเดียวก็สามารถทำให้เกิดการขึ้นลานได้แล้ว ต่อด้วยระบบแองเคอร์ เอสเคปเม้นท์ ขออง ULYSSE NARDIN ซึ่งใช้เอสเคปเม้นท์แบบคอนสแตนท์ฟอร์ซวัสดุซิลิเซียมโดยมีพาลเลทฟอร์คที่ขยับเคลื่อนไหวโดยปราศจากแรงเสียดทานติดตั้งอยู่กึ่งกลางทำงานร่วมกับใบสปริงแบบแบนวัสดุซิลิเซียม 2 ชิ้นติดตั้งเป็นมุมฉากต่อกันซึ่งทำให้เกิดแรงดัดและเพิ่มความเสถียรในการทำงานมากเป็น 2 เท่า ส่งผลให้พลังงานมีความสมดุลย์และรักษาระดับการขยับเคลื่อนของบาลานซ์วีลให้คงที่โดยไร้ซึ่งผลกระทบใดๆ จากความผันแปรของแรงบิดที่เกิดจากเมนสปริง และใช้บาลานซ์วีลซึ่งทำจากวัสดุซิลิเซียมเชื่อมผสานกับชิ้นนิกเกิ้ล เพื่อให้บาลานซ์วีลมีน้ำหนักเบาที่สุด
ส่วนด้านการแสดงเวลานั้น ยังคงรักษาลักษณะเด่นของนาฬิกา Freak เอาไว้ นั่นก็คือการจัดวางชุดกลไกไว้บนแท่นทรงแท่งบาแกตต์ทำหน้าที่กวาดหมุนโคจรไปรอบหน้าปัดเพื่อแสดงนาทีโดยมีจุดยึดเป็นแคร่หมุนอยู่ที่ด้านล่างเพียงจุดเดียวซึ่งทางแบรนด์เรียกว่า “ฟลายอิ้ง คาร์รูเซล” หากแต่ชุดกลไกนี้ถูกออกแบบขึ้นใหม่โดยมีบริดจ์ดีไซน์สามมิติที่จำแลงมาจากรูปทรงของลำเรือ ส่วนลักษณะการปรับตั้งเวลากับการหมุนขึ้นลานก็ยังคงใช้การหมุนขอบตัวเรือนกับการหมุนฝาหลังเหมือนเช่น Freak รุ่นต่างๆ
นอกจากนี้ตัวเรือนและวงขอบตัวเรือนของ FREAK VISION ยังถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยมีขนาดที่บางลง พร้อมตกแต่งบนขอบตัวเรือนและด้านข้างของตัวเรือนด้วยการเคลือบยางสีน้ำเงินเพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต ความหนาที่ลดลงของตัวเรือนกับขอบตัวเรือนนี้ถูกชดเชยด้วยดีไซน์กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ที่ใช้เป็นแบบทรงกล่องโดมเพื่อให้มีพื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับชุดกลไก
FREAK VISION
Ref. 2505-250
ตัวเรือน: แพลตินัม ขนาด 45 มม.; เคลือบยางสีน้ำเงินตกแต่งบริเวณด้านข้าง; ขอบตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบยางสีน้ำเงิน
กระจก: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน; ผนึกกระจกแซฟไฟร์ทรงโดมบนฝาหลังไทเทเนียม
หน้าปัด: แซฟไฟร์ สลักหลักชั่วโมง
สาย: หนังจระเข้สีน้ำเงิน เคลือบผิวให้คล้ายผิวยาง; ตัวล็อคแบบบานพับ วัสดุไทเทเนียม
กลไก: อัตโนมัติ ขึ้นลานด้วยระบบ “ไกรนเดอร์” คาลิเบอร์ UN-250 ความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 50 ชั่วโมง; เอสเคปเม้นท์แบบแองเคอร์ คอนสแตนท์ ของ ULYSSE NARDIN; ไมโคร-เบลด และเกียร์เทรน ทำจากวัสดุซิลิเซียม; บาลานซ์วีลซิลิเซียมเชื่อมติดด้วยชิ้นนิกเกิ้ล; ชุดกลไกจัดวางแบบบาแกตต์ติดตั้งบนแคร่หมุนโดยจะหมุนครบ 1 รอบในทุก 1 ชั่วโมง; ขึ้นลานด้วยการหมุนขอบฝาหลัง; ปรับตั้งเวลาด้วยการหมุนขอบตัวเรือน (ล็อคด้วยก้านโยก)
ฟังก์ชั่น: แสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยการหมุนของชุดกลไก