Rolex เปิดตัวนาฬิกาใหม่ในงาน Baselworld 2018
By: Dr. Pramote Rienjaroensuk
ปีนี้ Rolex พุ่งธีมหลักไปที่ GMT Master II ที่มีทีเซอร์ออกมาเป็นภาพสายจูบิลี่ในเว็บไซท์ก่อนการเปิดงานมาหลายวันแล้ว ซึ่งเมื่อเปิดตัว ก็ไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง เพราะนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ฮ๊อทที่สุดของนาฬิกาในกลุ่มโปรเฟสชันนัลตลอดมาอยู่แล้ว และนับเป็นครั้งแรกที่สายจูบิลี่ถูกนำเสนอกับนาฬิกากลุ่มโปรเฟสชันนัลนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนมาใช้ขอบเบเซิลแบบเซราโครมแทนแบบอลูมิเนียม พร้อมๆ กับการนำวัสดุเอเวอร์โรสโกลด์มาใช้เป็นครั้งแรกเช่นกันกับรุ่น GMT Master II ใหม่นี้
รูปแบบตามลักษณะของ GMT Master II ในรุ่นที่ผ่านมาเกือบทุกอย่าง ยกเว้นขนาดที่มีความแตกต่างกันเพียงน้อยนิด โดยเปิดตัวเป็น 3 แบบคือ
1. แบบตัวเรือนและสายสตีลจูบิลี่ หน้าปัดสีดำ ขอบเบเซิลเซราโครมสีน้ำเงินและสีแดง
2. แบบตัวเรือนและสายสตีล/เอเวอร์โรสโกลด์ออยสเตอร์ ขอบเบเซิลเซราโครมสีดำและสีน้ำตาล
3. แบบตัวเรือนและสายเอเวอร์โรสโกลด์ออยสเตอร์ ขอบเบเซิลเซราโครมสีดำและสีน้ำตาล โดยกลไกทั้งสามแบบนี้จะใช้กลไกใหม่ คาลิเบอร์ 3285 ที่นอกจากจะมีความบางกว่าเดิมเล็กน้อยแล้ว ยังมีเพาเวอร์รีเสริฟที่ยาวนานถึง 70 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนสีหน้าปัดของรุ่นทองคำขาวเดิมจากสีดำเป็นสีน้ำเงินเข้มโดยยังคงเป็นกลไกคาลิเบอร์ 3186 ชุดเดิมอีกด้วย
ส่วนนาฬิกาขนาดยอดนิยมตลอดกาลของ Rolex นั่นก็คือ Datejust ขนาด 36 มิลลิเมตร ก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยตัวเรือนจะมีความบางมากและขาตัวเรือนที่จะทำให้สายแนบกับตัวเรือนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับกลไกใหม่ คาลิเบอร์ 3235 ที่มีเพาเวอร์รีเสริฟถึง 70 ชม. โดยมีทางเลือกหน้าปัด สาย และวัสดุอันหลากหลายตามแบบฉบับของ Rolex ที่จะมีการนำเสนอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภายหลัง
สุดท้ายคือนาฬิการุ่นเรือธงในกลุ่มโปรเฟสชันนัลนั่นก็คือ Cosmograph Daytona ที่ในปีนี้ ถูกนำมาประดับเพชรกลมที่ขาตัวเรือนและบ่าเม็ดมะยม พร้อมกับประดับแซฟไฟร์แบบบาเก็ทคัทไล่สีแบบเรนโบว์รอบขอบเบเซิลและมาร์กเกอร์บนหน้าปัด รวมทั้งพิ๊งค์โกลด์คริสตัลในวงหน้าปัดจับเวลา กับตัวเรือนเอเวอร์โรสโกลด์ที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีมุมมองความล้ำค่าอย่างโดดเด่นที่สุด
