ARNOLD & SON Globetrotter
ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 Arnold&Son ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์ที่ดีที่สุดในโลก โดยผ่านการทดสอบจากนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่มาแล้วจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกัปตันเจมส์ คุ๊ก ผู้เดินเรือไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิค หรือ เซอร์จอห์น แฟรงค์คลิน ผู้พิชิตน่านน้ำอันหนาวเหน็บของทะเลในแถบแคนาดาตั้งแต่ปี 1845
เมื่อเวลาผ่านไป และการใช้นาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย Arnold & Son ในปัจจุบันจึงนำเสนอเรือนเวลาที่ยังคงสปิริตของนาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์ไว้ ผนวกเข้ากับฟังก์ชั่นการใช้งานในยุคปัจจุบันที่ซึ่งผู้คนเลือกใช้การดูเวลาแบบไทม์โซน และ Globetrottor คือ ผลงานที่ยังคงรูปแบบโครโนมิเตอร์เอาไว้ ในแบบที่จอห์น อาร์โนลด์ เลือกใช้ในนาฬิกาแบบโครโนมิเตอร์เพื่อการเดินเรือของเขา
Globetrottor เน้นรูปแบบจำลองของโลกในแบบสามมิติเพื่อให้เห็นมุมมองของโลกได้อย่างง่ายดาย โดยเลือกใช้มุมมองจากขั้วโลกเหนือเป็นหลัก และมีรายละเอียดที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นลูกโลกที่ผลิตจากทองเหลืองที่มีพื้นผิวแตกต่างกัน โดยพื้นที่สูงแถบภูเขาจะเป็นการพ่นทรายเพื่อให้เห็นความแตกต่างจากพื้นที่ลุ่ม และพื้นที่ทะเลที่จะมีความแตกต่างของความเข้มของสีน้ำเงินเพื่อแสดงให้เห็นถึงความลึกที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่น้ำตามพื้นที่จริงโดยใช้การกัดสี และพ่นทับด้วยแลคเกอร์ใสอีกครั้งเพื่อความเงางามและเห็นเด่นชัดซึ่งทำให้ลูกโลกนี้มีส่วนที่เสมือนจริงมากที่สุด
ลูกโลกนี้จะถูกคาดด้วยบริจด์ตามแบบฉบับของลูกโลกจำลอง ซึ่งเมื่อวัดขนาดแล้วจะได้ขนาดตัวเรือนเพียง 45 มิลลิเมตร กับความหนาสูงสุดของตัวเรือนที่ 17.23 มิลลิเมตรเท่านั้น เพื่อที่จะบรรจุรายละเอียดของลูกโลกเสมือนจริงนี้ได้ทั้งหมดซึ่งนับเป็นการแสดงเวลาบนลูกโลกที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลกตั้งแต่เคยมีการจัดวางไว้บนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ
ขอบตัวเรือนเป็นทั้งตำแหน่งในการแสดงเวลา โดยเข็มบอกเวลาทั้งสองจะซ่อนอยู่ภายใต้ลูกโลกและแสดงให้เห็นได้เพียงปลายหัวเข็มเพื่อชี้บอกเวลา ในขณะที่สเกลด้านในบนแผ่นคริสตัลแซฟไฟร์จะแสดงช่วงเวลาแบบ 24 ชั่วโมงตามไทม์โซนต่างๆ ของลูกโลก
คาลิเบอร์ A&S6002 กลไกอัตโนมัติที่ใช้ มีบริจด์ต่างๆ บนกลไกที่เคลือบเอดีแอลซีสีดำขัดแต่งลายโค๊ดเดอเชอเนฟแบบซันเรย์ โรเตอรที่เคลือบเอดีแอลซีสีดำเข้มขัดแต่งลายฮ็อบเนล พร้อมแท่นเครื่องที่เคลือบเอ็นเอซีสีเทาพร้อมขัดแต่งลายเซอร์คูล่าร์เกรนเพื่อความโดดเด่นของชุดกลไก โดยกลไกชุดนี้มีพลังงานสำรองยาวนานถึง 45 ชั่วโมง
ราคารุ่นตัวเรือนสตีล : CHF 14,900 (ไม่รวมภาษี)
