RUDIS SYLVA, Tracing back horological skills

ในพื้นที่ที่รวมเรียกกันว่าฟรองซ์มงตาญ (Franche Montagne) ที่มีผู้ตั้งถิ่นฐานจำนวนมาก เดินทางมายังภูมิภาคนี้เพื่อสร้างฟาร์ม ที่ในช่วงฤดูหนาวอันเย็นยะเยือก ก็นำพาให้เหล่าเกษตรกรเหล่านี้ ต้องหางานอื่นทำซึ่งนั่นก็คือการใช้เครื่องมือพิเศษ ในการผลิตลูกไม้และถุงน่องจนนำมาสู่ความเชี่ยวชาญ ในการจัดการกับเครื่องมือเหล่านี้ และสามารถพัฒนาให้กลายเป็นเครื่องมือ ในการผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความต้องการ ในตลาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 จนกระทั่งทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วน
นาฬิกาชั้นนำไปได้โดยปริยาย ซึ่งว่ากันว่าช่างนาฬิกาคนแรกๆ ในภูมิภาคนี้ก็คือ Girard, François-J. Froidevaux หรือ J-B Mauvais ณ หมู่บ้านในแถบเลอบุยส์ราวปี 1769 โดยเขาสามารถผลิตชิ้นส่วนกลไกเปล่าออกสู่ตลาดได้ นอกจากนี้ยังมี Joseph Bouverat ช่างผลิตตัวเรือนนาฬิกาในช่วงปี 1730 ณ เลอนอร์มง รวมทั้งช่างวิศวกร François Surdez ที่ต่างก็นั่งทำงานตรงกระจกหน้าต่างของฟาร์ม ซึ่งหน้าต่างจำนวนมากของฟาร์มเหล่านี้ จะแสดงให้เห็นถึงกิจกรรม ในด้านการผลิตนาฬิกาที่เกิดขึ้น ณ ฟาร์มแต่ละแห่ง
โดยมีฟาร์มจำนวนมากในเขตลาโชซ์-เดอ-ฟองซ์ (La Chaux-de-Fonds) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงมรดกอันยาวนาน ของการผลิตนาฬิกาในสวิตเซอร์แลนด์ โดยยิ่งฟาร์มใดมีหน้าต่างบานใหญ่ขึ้น ก็จะแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของฟาร์มนั้นๆ เพราะช่างฝีมือจะต้องนั่งทำงานอยู่หลังหน้าต่างแต่ละบาน ซึ่งในชั้นล่างหน้าต่างเหล่านี้จะติดตั้ง ลูกกรงเพื่อการป้องกันจากการบุกรุกของหมี และโต๊ะขนาดใหญ่ที่ใช้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อการประกอบนาฬิกาชิ้นต่างๆ ยังมีเตาเพื่อใช้หลอมวัตถุดิบต่างๆ ไปพร้อมกันอีกด้วย
เช่นเดียวกันกับ RUDIS SLYVA ที่มาจากชื่อของ Jean Ruedin ผู้บุกเบิกและตั้งถิ่นฐานในยุคแรกๆ ของแถบนี้และ SYLVA ซึ่งเป็นภาษาละตินที่หมายถึง 'ป่า' สู่การรวบรวมประวัติศาสตร์ อันยาวนานในการผลิตนาฬิกาของพื้นที่แถบนี้ ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนพร้อมแนวคิด ในการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอเรือนเวลาที่แสดงให้เห็นได้ ถึงความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต ของชุมชนในภูมิภาคแห่งนี้ในแง่มุมที่ดีที่สุดให้กับโลก พร้อมเรือนเวลาที่มีต้นกำเนิดมาจากสูตรทางคณิตศาสตร์
พร้อมการถ่ายทอดผ่านจินตนาการของนักออกแบบ ในเวิร์กช็อปสู่การตกแต่งในด้านต่างๆ โดยช่างฝีมือผู้มีความชำนาญการ เพื่อการปฏิวัติวงการนาฬิกากับชุดออสซิลเลเตอร์ฮาร์โมเนียส อันเป็นระบบที่มีบาลานซ์วีลสองชุด ที่เชื่อมต่อกันแต่ขับเคลื่อนด้วยชุดสปริงเพียงชุดเดียว ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางด้านเทคนิคที่ล้ำสมัย และทำให้สามารถได้ค่าที่แม่นยำ มากกว่าชุดตูร์บิยองแบบปกติ จากชุดบาลานซ์สปริงที่จะหมุนไปรอบๆ ในทุกตำแหน่ง โดยมี Mr. Mika Rissanen ช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญในชุดกลไก
แบบซับซ้อนระดับสูงที่ทำงานให้กับ RUDIS SYLVA และยังเป็นผู้ที่คิดคิดค้นชุดกลไกที่ได้รับสิทธิบัตรนี้ โดยข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของชุดกลไกนี้มีตั้งแต่ ชุดบาลานซ์วีลแบบฟันเฟืองสองชุดที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งการผสานกันนี้ทำให้เกิดค่าแอมพลิจูดที่เท่ากัน และความสมมาตรต่อพลังของชุดสปริง จะตรงข้ามกันตลอดเวลา ทำให้สามารถปรับค่าเฉลี่ยได้ในทันที ขณะที่อยู่ในตำแหน่งแนวตั้ง ซึ่งจะช่วยขจัดผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่มี โดยชุดกลไกนี้จะทำงานที่ความถี่ระดับ 21,600 รอบต่อชั่วโมงหรือ 3 เฮริท์ซ
และชุดกรงที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ ชนิดพิเศษนี้จะหมุนวนในแบบ 360 องศาและจะเท่ากับ 60 วินาทีในหนึ่งรอบจากลานที่ขึ้นได้จากกลไกการไขลานด้วยมือ เพื่อให้พลังสำรองลานยาวนานประมาณ 70 ชั่วโมง โดยฮาร์โมเนียสออสซิเลเตอร์จะมีความแม่นยำมากกว่าชุดตูร์บิยองทั่วไป จากค่าแอมพลิจูดที่วัดได้ในทุกๆ ตำแหน่ง ทั้งในตำแหน่งที่มีค่าที่สูง หรือในตำแหน่งที่มีค่าที่ต่ำ จากการทดสอบในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในแนวตั้ง ที่ถือเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบ จากแรงโน้มถ่วงในระดับสูงสุดของชุดกลไกโดยทั่วไป