TAG Heuer Monaco Moment: Where Time Meets Speed
ร่วมด้วย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาตร์ของคอลเลคชั่น Monaco อันเป็นตำนาน กับเรื่องราวระหว่าง TAG Heuer และการแข่งขันโมนาโคกรังปรีซ์ ที่เปรียบเสมือนบทสำคัญ ในหน้าประวัติศาสตร์แห่งเรือนเวลา ที่บอกเล่าถึงจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมทางด้านความเร็ว และความหรูหราเหนือกาลเวลา โดย TAG Heuer คือนาฬิกาแบรนด์แรกที่สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาแบบโครโนกราฟ ในตัวเรือนสี่เหลี่ยมตั้งแต่ปี 1969
ซึ่งนับเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลก ที่ผสานกลไกในแบบอัตโนมัติ เข้ากับชุดโครโนกราฟ ภายใต้ตัวเรือนทรงเหลี่ยม ที่ให้ความสามารถในการกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมรดกแห่งความกล้าหาญและท้าทายนี้ ได้รับการสานต่อจนกลายเป็นสัญลักษณ์ คู่กันกับสนามแข่งอันเป็นตำนานอย่างโมนาโคกรังปรีซ์ ที่สะท้อนให้เห็นได้ถึงความคลาสสิค ความหรูหรา และความเร็วได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยการกลับในมาครั้งนี้ TAG Heuer มาพร้อมการเปิดตัวนาฬิกาที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น
จากคอลเลคชั่น Monaco ใน 2 รุ่นทั้ง Monaco Chronograph Stopwatch ที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 970 เรือนทั่วโลก จากแรงบันดาลใจของนาฬิกาจับเวลา Heuer ในช่วง 70s ซึ่งเป็นยุคทองของแบรนด์ พร้อมกับกีฬามอเตอร์สปอร์ต ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 11 ที่สืบทอดมาจากรุ่นดั้งเดิม โดยมีสายหนังลูกวัวแบบเจาะรู ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ถุงมือนักขับรถแข่งในอดีต เพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความแม่นยำ และสมรรถนะสูงในแบบ TAG Heuer รวมทั้งนาฬิการุ่น Monaco Chronograph x GULF
ใหม่ที่ร่วมถ่ายทอดจิตวิญญาณ แห่งความเร็วจากรุ่นต้นแบบในปี 1969 ด้วยกลไกคาลิเบอร์11 ที่มีเม็ดมะยมอยู่ทางด้านซ้ายอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมแรงบันดาลใจจากชุดแข่งของ Steve McQueen ในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans สู่ดีไซน์หน้าปัดสีเงินอันโดดเด่น ด้วยลายเส้นสีฟ้า-ส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของ GULF และโลโก้ Heuer แบบวินเทจ ในตัวเรือนขัดทรายที่มาพร้อม สายผ้าสีขาวตามแบบของชุดแข่ง และสายหนังลูกวัวสีน้ำเงิน ที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัด 971 เรือน อันเป็นการรำลึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Le Mans
ที่ออกฉายในปี 1971 และยังสะท้อนถึงรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณ ของมอเตอร์สปอร์ตและความร่วมสมัยของ TAG Heuer ได้อย่างลงตัว โดยงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนักแสดงชื่อดัง เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ที่มาร่วมถ่ายทอดเสน่ห์ของนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph ที่สื่อถึงจิตวิญญาณของนักแข่ง ผู้เปี่ยมไปด้วยแพสชั่นและความแม่นยำ ในขณะที่มีเหล่าบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งทั้ง สื่อมวลชน และนักสะสมนาฬิกา รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์สายไลฟ์สไตล์และสายแฟชั่นอีกมากมาย
