iamwatch

กับการนำเสนอนาฬิการุ่น Monaco Split-Seconds Chronograph / F1® ซึ่งผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือน ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงนวัตกรรม ของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในระดับสูง พร้อมการกลับมาของสายนาฬิกาแบบบีดส์-ออฟ-ไรซ์ (Beads-of-Rice) ที่ช่วยเพิ่มความซับซ้อนในสไตล์วินเทจ และสุดท้ายกับนาฬิการุ่น Carrera Chronograph ที่มาพร้อมแคมเปญDesigned to Win เพื่อยกย่องมรดกของ Ayrton Senna ในการถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน ที่จะขับเคลื่อน TAG Heuer เข้าสู่ยุคใหม่

โดยมีนาฬิกา TAG Heuer รุ่น Formula 1 Solargraph ที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานพร้อมการเปิดตัวนาฬิกา 9 แบบที่ผ่านการปรับโฉมใหม่ ซึ่งถ่ายทอดให้เห็นถึงพลังของสนามแข่ง โดยคอลเลคชั่นใหม่นี้จะประกอบไปด้วยนาฬิกา 3 รุ่นและแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นอีก 6 รุ่นโดยทั้งหมดจะมีตัวเรือนในขนาด 38 มิลลิเมตร ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมสีสันอันโดดเด่นที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากลวดลายของรถฟอร์มูล่าวัน และผ่านการอัปเกรดตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อการสวมใส่ได้ในตลอดทั้งวัน

ทำงานด้วยกลไกโซลาร์กราฟที่ใช้พลังงานจากแสง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับนาฬิกาในคอลเลกชั่น Formula 1 เพื่อมอบประสิทธิภาพอันยาวนานในการใช้งาน โดยนอกเหนือจากกลไกแล้ว การนำวัสดุทีเอช-โพลีไลท์ (TH-Polylight) มาใช้ยังถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ สำหรับจิตวิญญาณในด้านนวัตกรรมของ TAG Heuer จากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและทนทานเป็นพิเศษ ที่ช่วยให้สามารถแสดงสีสันออกมา ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมความงดงามยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

พร้อมขอบหน้าปัดที่หมุนได้ในสองทิศทาง ที่ผ่านการออกแบบใหม่ทั้งหมด ในสไตล์และรูปทรงของ TAG Heuer Formula 1 อันเป็นเอกลักษณ์ที่แฟนๆ ทั่วโลกต่างชื่นชอบ พร้อมมอบประสิทธิภาพการใช้งานในระดับที่สูงขึ้น และยังให้เสียงในสไตล์คลาสสิคเมื่อหมุน เพื่อช่วยเพิ่มสัมผัสอันละเอียดอ่อน ที่ไม่ว่าจะสวมใส่ในสนามแข่งหรือในเมือง ก็จะยังคงความโดดเด่นให้เห็นได้อย่างชัดเจน จากโทนสีต่างๆ ที่ผ่านการเลือกสรรค์ให้เหมาะกับธีมสีของสนามแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน

นอกจากนี้ TAG Heuer ยังนิยามจิตวิญญาณของ "นาฬิกาแห่งความสำเร็จ" ใหม่ด้วยการนำนาฬิการุ่น Carrera กลับมาอีกครั้งใน 2 รุ่นใหม่ทั้ง Carrera Day-Date และ Carrera Date Twin-Time ที่ต่างก็มีตัวเรือนพร้อมรูปทรงอันประณีต ผนวกเข้ากับหลักสรีรศาสตร์ที่ได้รับการอัพเกรด และสายนาฬิกาที่สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ TH31 เพื่อมอบความแม่นยำในการแสดงค่าเวลา และการใช้งานอย่างยาวนานที่ระดับ 80 ชั่วโมงโดยให้การรับประกันนานถึง 5 ปี

และนาฬิการุ่น Carrera Day-Date ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยมีให้เลือกใน 5 รุ่นที่โดดเด่นซึ่งผสมผสาน ระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมกับความสง่างามอันทันสมัย ​​และสุดท้ายกับนาฬิการุ่น Carrera Date Twin-Time ที่เพิ่มมิติใหม่โดยการจับคู่ฟังก์ชั่นการทำงาน แบบการแสดงค่าเวลาสองชุด เข้ากับหน้าปัดสีน้ำเงินอมเขียวสดใส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทอง ของการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันที่ TAG Heuer ยังคงฉลองความสำเร็จต่อไป ทั้งในและนอกสนามแข่ง