The 1975 Collection : Celebrating 50 Years of timeless classics

MAURICE LACROIX กับการฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีที่ในปีนี้ แบรนด์จะมีการนำเสนอนาฬิกาในคอลเลคชั่นใหม่นำด้วยคอลเลคชั่น 1975 เป็นคอลเลคชั่นแรก ที่ประกอบไปด้วยนาฬิกาทั้งแบบกลไกและแบบควอท์ซ พร้อมการออกแบบอันหรูหราและมีสัดส่วนที่เพรียวบาง ผนวกกลิ่นอายของความวินเทจอันมีเสน่ห์ที่จะสามารถดึงดูดใจไปได้อย่างยาวนาน ซึ่งคอลเลคชั่น 1975 นี้แม้จะเป็นคอลเลคชั่นใหม่แต่ก็ยังคง เต็มไปด้วยลักษณะเฉพาะ ที่คุ้นเคยของนาฬิกาจาก MAURICE LACROIX เช่นเดิม

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.34.17

 

จากการที่แบรนด์นาฬิกา MAURICE LACROIX ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 พร้อมการแสวงหาวิธีการแสดงค่าเวลาในแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และหลังจากการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาอย่างเต็มตัวในปี 2007 แบรนด์จึงมีการเปิดตัวนาฬิกาแบบพิเศษหลายรุ่นตั้งแต่ Masterpiece Square Wheel ในปี 2010, Masterpiece Mysterious Seconds ในปี 2013 และ Masterpiece Gravity ในปี 2014 พร้อมช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อทีมงานได้สำรวจแคตตาล็อกเก่า และค้นพบอัญมณีที่ถูกลืมเลือนอีกครั้ง

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.32.15

 

นั่นก็คือนาฬิกาในคอลเลคชั่น Calypso ที่ MAURICE LACROIX ได้นำต้นแบบนี้มาปรับโฉมใหม่สำหรับกลุ่มคนยุคใหม่ สู่การเปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่น AIKON ในปี 2016 ซึ่งเป็นนาฬิกาสำหรับคนเมืองที่โดนใจ กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและเจนเซอร์ในทันที พร้อมกับความสำเร็จอย่างท่วมท้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กับในปีนี้ที่ MAURICE LACROIX ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปีพร้อมการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในชื่อ 1975 ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่รังสรรค์ขึ้น อย่างประณีตเพื่อครองใจผู้ชื่นชอบนาฬิกา

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.32.22

 

โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคเก่า แต่ยังคงเหมาะกับชีวิตยุคใหม่เป็นอย่างยิ่ง พร้อมยึดตามสูตรสำเร็จของแบรนด์จากการผสมผสาน ระหว่างงานฝีมือของสวิสและคุณค่าที่รับรู้ได้สูง จากการพัฒนาคอลเลคชั่นใหม่โดยนำนาฬิกาในคอลเลคชั่น Les Classique ซึ่งเป็นนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1988 กลับมาตีความใหม่ในสไตล์เรโทร-โมเดิร์นพร้อมวัสดุและการตกแต่งอันหรูหรา สู่นาฬิกาในแบบกลไกและควอท์ซพร้อมขนาดทั้ง 39 และ 40 มิลลิเมตรผนวกกับหน้าปัดและสายในหลายแบบหลากสไตล์

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.50.58

 

ด้วยการผสมผสานสุนทรียศาสตร์พร้อมความรู้ และความชำนาญด้านกลไกของสวิส ในแบบที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์เป็นครั้งแรก พร้อมทางเลือกใน 3 สีหน้าปัดทั้ง สีน้ำเงิน สีดำ หรือสีเงิน พร้อมรูปแบบของเข็มแสดงค่าเวลาชั่วโมงและนาที ในสไตล์โดฟินแบบคลาสสิคที่ทำงาน ร่วมกับมาร์กเกอร์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ในการขัดแต่งแบบเหลี่ยมและขัดเงาแวววาว บนหน้าปัดลวดลายซันบรัชที่เล่นกับแสงตกกระทบได้อย่างยอดเยี่ยม ผนวกด้วยช่องแสดงค่าวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาสำหรับในแบบกลไก

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.31.52

 

และ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาสำหรับแบบควอท์ซ โดยหน้าปัดจะมีเส้นสายที่คมชัด ขณะที่เข็มวินาทีกลางหน้าปัด จะทำหน้าที่เติมเต็มฟังก์ชั่นต่างๆ ให้ครบถ้วน ผสานเข้ากับตัวเรือนที่ออกแบบในแบบของ "Masterpiece Specification" โดยผสานพื้นผิวทั้งแบบขัดด้านและแบบขัดเงาเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการเล่นระดับโทนสีที่ตัดกันอย่างประณีต ซึ่งเป็นผลงานที่ต้องใช้ทักษะในกระบวนการผลิต เช่นเดียวกันกับสายแบบ 5 แถวใหม่ที่ติดตั้งพร้อมชุดล็อคแบบพับ หรือจะเป็นแบบสายหนังสีเข้ากัน

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.32.53

 

พร้อมด้วยโลโก้ MAURICE LACROIX แบบปั๊มนูนใหม่ที่มากับชุดหัวเข็มขัด ที่ยังคงมาพร้อมกับกับระบบอีซี่สแตร็ปเอ็กซ์เชนจ์ ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับเปลี่ยน รูปลักษณ์ของนาฬิกาได้ด้วยตัวเอง "เราพยายามนำแก่นแท้ของ MAURICE LACROIX ออกมาสู่นาฬิกาในแบบที่สดใหม่ ทันสมัย ​​และเหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการฉลอง 50 ปีของเรา” Stéphane Waser แห่งแบรนด์นาฬิกา MAURICE LACROIX กล่าว โดยนาฬิกาในคอลเลคชั่นใหม่นี้จะมีราคาที่ 650 ถึง 1,300 สวิสฟรังก์ในสวิตเซอร์แลนด์

 

Screenshot 2568 03 26 at 21.16.58