New GRAND SEIKO for ladies

GRAND SEIKO เปิดตัวนาฬิกากลไกอัตโนมัติเรือนแรกที่เรียกกันว่า 62GS ในปี 1967 โดยความโดดเด่นของนาฬิกาดีไซน์ลักษณะนี้ คือโครงสร้างไร้ขอบซึ่งช่วยประสานกระจกแซฟไฟร์ให้เข้ากับตัวเรือนได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนาฬิกาใหม่ทั้งสองเรือนล่าสุด ก็มาพร้อมดีไซน์ตัวเรือนแบบ 62GS จาก Heritage Collection โดยหน้าปัดของนาฬิกาแต่ละเรือน ต่างสะท้อนถึงความงามอันน่าหลงใหล ของดอกซากุระในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิอันงามสะพรั่ง

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.30.29

 

โดยนาฬิกาทั้งสองเรือนต่างทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 9S27 ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ที่มีขนาดที่เล็กที่สุดของ GRAND SEIKO กับตัวเรือนที่มีขนาดเพียง 30 มิลลิเมตรและหนาเพียง 10.5 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติในดีไซน์ของ 62 GS ซึ่งมีขนาดกะทัดรัดและบางที่สุดของ GRAND SEIKO ซึ่งหนึ่งในลักษณะที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดของดีไซน์ 62GS ก็คือส่วนโค้งของด้านข้างตัวเรือน ที่มีประกายแวววาวอันแสนสวยงาม

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.30.35

 

และพื้นผิวที่ไม่ผิดเพี้ยนอันเกิดจากเทคนิค การขัดเงาแบบซารัตสึอันเป็นเอกลักษณ์ของ GRAND SEIKO เมื่อผสานกับกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง ก็จะช่วยเพิ่มความสง่างามอันประณีตของดีไซน์แบบไร้ขอบ พร้อมผลงานบนหน้าปัดสีชมพู ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซากุระคาคุชิ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์อันอ่อนโยน ที่หิมะโปรยปรายปกคลุมดอกซากุระอันบานสะพรั่ง ซึ่งฉากอันเงียบสงบนี้จะเกิดขึ้นในช่วงต้น ของฤดูใบไม้ผลิทางตอนเหนือของญี่ปุ่น

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.30.13

 

ซึ่งเป็นที่ตั้งของสตูดิโอชิซึกูอิชิ สถานที่สร้างสรรค์กลไกจักรกลจาก GRAND SEIKO พร้อมความกลมกลืนอันละเอียดอ่อนของหิมะ และดอกซากุระที่แสดงออกผ่านลวดลายพื้นผิวอันประณีตบนหน้าปัดและเฉดสีชมพูอมเทาอันนุ่มนวล โดยสีสันบนหน้าปัดจะเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดอ่อน ด้วยมุมและแสงตกกระทบที่แตกต่างกัน ซึ่งเผยให้เห็นถึงความสง่างามแบบไดนามิก ที่มีชีวิตชีวาซึ่งนำทางให้เห็นได้ ถึงความสง่างามและความประณีตบนข้อมือ

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.32.35

 

พร้อมกับอีกหนึ่งหน้าปัดที่ได้แรงบันดาลมาใจจากซากุระ-สึกิโยะ อันเป็นความงามอันเงียบสงบของดอกซากุระที่ส่องสว่าง ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและแสงจันทร์ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างกลางวันและกลางคืน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ และส่งผลให้แสงจันทร์ส่องแสงพร่ามัวแต่อ่อนโยน ซึ่งฉากที่น่าหลงใหลนี้ได้นำมารังสรรค์ ผ่านลวดลายที่มีพื้นผิวอันละเอียดอ่อนในทุกมุมมอง

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.32.42

 

นาฬิกาทั้งสองรุ่นจะติดตั้งฝาหลังที่กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถเพลิดเพลินไปกับความงามของกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 9S27 ด้วยขนาดเพียง 20 มิลลิเมตรและหนา 4.49 มิลลิเมตร ที่ให้ประสิทธิภาพอันสมบูรณ์แบบ พร้อมความเพรียวบางที่มีขนาดกะทัดรัด ที่ทำให้สามารถสวมใส่ได้สะดวกสบาย บนข้อมือทุกแบบพร้อมช่วยขับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูดียิ่งขึ้น พร้อมความสามารถของชุดเอสเคปวีล ที่สร้างขึ้นโดยเมมส์เทคโนโลยี

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.33.44

 

ที่ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกไม้ห้ากลีบ โดยผสานธีมดอกไม้เข้ากับรายละเอียดการออกแบบที่เล็กที่สุด โดยนาฬิกาใน Ref. STGK031 และ STGK033 นี้จะทำงานด้วยความถี่ 28,000 รอบต่อชั่วโมง ซึ่งให้ความแม่นยำในการแสดงค่าเวลาที่ +8 ถึง -3 ต่อวัน พร้อมพลังสำรองลานนาน 50 ชั่วโมง พร้อมการใช้งานกับสายสตีลและชุดล็อคสายชนิดบานพับ 3 ทบ ที่ปลดล็อกด้วยปุ่มกด กับราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 240,000 บาทต่อเรือนสำหรับนาฬิกาทั้งสองรุ่น

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.34.33

 

Screenshot 2568 03 25 at 00.34.22