เพราะทุกวินาทีคือช่วงเวลาที่พิเศษที่สุด

เริ่มต้นด้วยนาฬิกา SEIKO Prospex Alpinist, Ref. SPB121J ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเขียว จากดีไซน์การออกแบบของยุค 90s พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R35 ในตัวเรือนสตีลขนาด 39.45 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมสายหนังลูกวัวอันนิ่มนวล และกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์เพื่อการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนสูงสุด นอกจากนี้ยังมีนาฬิกา SEIKO Prospex 1965 Heritage Diver’s Watch, Ref. SPB453J

 

Screenshot 2567 12 17 at 23.55.48

 

กับความแกร่งที่ถูกตีความใหม่บนไอเดียแห่งความทันสมัย และแรงบันดาลใจจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นดั้งเดิมปี 1965 โดยปรับรูปลักษณ์แบบไมเนอร์เชนท์ ผ่านดีไซน์ใหม่ที่มีความกะทัดรัดและกระชับข้อมือ มากยิ่งขึ้นด้วยความหนาเพียง 13 มิลลิเมตร และทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R55 ที่เพิ่มระดับการสำรองพลังลานได้นานสูงสุดถึง 3 วัน พร้อมด้วยสมรรถนะการกันน้ำได้ในระดับความลึกที่ 300 เมตร

 

Screenshot 2567 12 17 at 23.55.37

 

ต่อมากับนาฬิกา SEIKO Prospex 1965 Heritage Diver's Watch Save the Ocean Special Edition, Ref. SPB297J ที่เป็นการนำตัวเรือนนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของ SEIKO จากปี 1965 มาปรับลุคให้ดูทันสมัย พร้อมแรงบันดาลใจจากธารน้ำแข็งอันเก่าแก่ บนหน้าปัดที่แสดงสีน้ำเงินเข้มเหมือนธารน้ำแข็งที่อยู่ชั้นลึกที่สุด ผนวกเข้ากับลวดลายพริ้วของน้ำแข็ง ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R35

 

Screenshot 2567 12 17 at 23.55.57

 

ที่มอบพลังสำรองลานได้นาน 70 ชั่วโมงพร้อมความทนทานในทุกสภาวะ และสุดๆ ไปกับนาฬิกา SEIKO Prospex SPEEDTIMER Solar Chronograph, Ref. SSC813P และ Ref. SSC817P กับพื้นผิวหน้าปัดกรรมที่ใช้เทคนิคพิเศษ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและมีมิติให้กับหน้าปัด พร้อมรายละเอียดบนพื้นหน้าปัดย่อยที่เป็นจุดรับพลังงานแสง เพื่อขับเคลื่อนกลไกโซลาร์อินเฮ้าส์คาลิเบอร์ V192

 

Screenshot 2567 12 18 at 00.05.48

พร้อมมอบพลังสำรองลานได้นานถึง 6 เดือน ผนวกกับขอบเบเซิลในวัสดุเซรามิค พิมพ์สเกลทาคีมีเตอร์ที่ใช้สำหรับการจับเวลาและวัดความเร็วแบบละเอียด พร้อมกับนาฬิกาเรือนสุดท้าย SEIKO Prospex SPEEDTIMER Solar Chronograph, Ref. SSC913P ที่มาพร้อมสีสันแห่งความสปอร์ต ที่โดดเด่นลงตัวกับสีน้ำเงิน/แดง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาข้อมือจับเวลาเรือนแรกของโลก

 

Screenshot 2567 12 18 at 00.06.46

 

ผนวกเข้ากับเข็มวินาทีของชุดจับเวลา ที่ออกแบบให้มีความยาวมากขึ้น เพื่อความสะดวกในการอ่านค่าที่แม่นยำ และรวดเร็วเมื่อต้องทำงานร่วมกับสเกลจับเวลาทาคีมิเตอร์ ที่มีหลักแสดงค่าอยู่บนขอบเบเซิล โดยเข็มจับเวลานาทีจะวางในตำแหน่ง 6 นาฬิกาให้ลุคสปอร์ตอันโฉบเฉี่ยว อีกทั้งเพื่อความสะดวกในการอ่านค่าเวลา ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วในแบบนาฬิกาสปอร์ต

 

Screenshot 2567 12 17 at 23.56.15

 

โดยสามารถชมรายละเอียดอื่นๆ ของนาฬิกาทุกรุ่นได้ที่ Website:www.seikoboutiquethailand.com, FB: SEIKO Club by SEIKO Thailand, IG: Seiko_thailand, LINE OA: @Seiko_Thailand, TikTok: SEIKO Club by SEIKO Thailand หรือสอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888

 

 

 

Screenshot 2567 12 17 at 23.46.38