Slim d’HERMÈS Flagship
กับเรือใบของ HERMÈS ที่กำลังแล่นผ่านเกลียวคลื่น ภายใต้ผืนท้องฟ้าสีอะเวนจูรีน ที่เต็มไปด้วยมวลหมู่ดาว โดยสามารถมองเห็น Slim d’HERMÈS Flagship พร้อมหน้าปัดที่เป็นลำเรืออันได้รับแรงบันดาลใจมาจากบูติกแห่งประวัติศาสตร์ ณ เลขที่ 24 ฟาบูร์ก แซงต์-ออนอเรในปารีสที่ กำลังหันหัวเรือแล่นผ่านค่ำคืนอันเต็มไปด้วยหมู่ดาว จากการผสมผสานของงานวาดภาพย่อส่วน และการแกะสลักอันวิจิตรประณีต
โดยหัวเรือยังประทับด้วยรูปจำลองของนักประดิษฐ์ดอกไม้ไฟชื่อดัง ในขณะที่ใบเรือกำลังโต้ลม และฝ่าเกลียวคลื่นที่มอบภาพอันมีชีวิตชีวา จากฝีมืออันเชี่ยวชาญของเหล่าช่างศิลป์ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 2015 โดย Philippe Delhotal พร้อมการผสมผสานระหว่างความสง่างามอันเรียบง่าย และความสมดุลแห่งภาพ ที่ถ่ายทอดถึงสไตล์อันทันสมัย แต่ก็เหนือซึ่งกาลเวลา ที่ช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับสัมผัสอันสร้างสรรค์ และแสนอัศจรรย์ที่มิอาจลอกเลียนแบบได้
ผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 12 เรือน จากแรงบันดาลใจ ที่มาจากงานออกแบบอันยิ่งใหญ่ของผืนผ้าพันคอไหมจาก Dimitri Rybaltchenko ในภาพของเรือใบที่กำลังแล่นฝ่าเกลียวคลื่นและมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ท่ามกลางประกายแสงระยิบระยับโปรยปราย ของดาวตกที่ร่วมสะท้อนถึงจักรวาลเชิงกวีศิลป์ ของศิลปินผู้รังสรรค์ซึ่งจะพาทุกคนออกเดินทางระหว่าง จินตนาการและความเป็นจริงอันงดงาม
จากงานวาดภาพย่อส่วน ที่นำมาประยุกต์ใช้ผ่านปลายพู่กัน จากนั้นจึงผ่านขั้นตอนของการอบแห้ง ภายในเตาเผาอย่างบรรจง กับหน้าปัดอะเวนจูรีนอันสง่างาม ที่เผยงานฝีมือของการตกแต่งด้วยบรองซ์ ที่ถ่ายทอดไว้ด้วยเฉดแห่งสีสันต่างๆ กับความลุ่มลึกและรายละเอียด อันมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว โดยเรือธงที่ชวนให้นึกถึงบูติกสไตล์ปารีสเซียง อันเป็นตำนานที่ผ่านการแกะสลักแบบนูนต่ำ จากการใช้สิ่วขนาดเล็ก และจากนั้นจึงวาดด้วยมืออย่างประณีตละเอียดอ่อน
ท่ามกลางเสน่ห์ของท้องฟ้ายามราตรี พร้อมทั้งรูปดวงดาวอันสุกสกาว ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกาที่เคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิตชีวา ไปตามการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่ ในตัวเรือนเยลโลว์โกลด์อันเพรียวบางขนาด 39.5 มิลลิเมตรที่การแสดงออก ถึงงานอันประณีตวิจิตรที่มาจากความเชี่ยวชาญ ที่ถ่ายทอดได้ถึงท่วงทำนองอันเที่ยงตรงและแม่นยำ จากการทำงานของกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ H1950 เข้าคู่กับสายนาฬิกาหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ในโทนเดียวกับสีหน้าปัดได้อย่างงดงาม