IAMWATCH 2024 by THE HOUR GLASS
งานนาฬิกา IAMWATCH 2024 ได้รวบรวมนักสะสม ผู้ที่ชื่นชอบ และผู้ที่สนใจในเรื่องของนาฬิกา จากทั่วทุกมุมโลกเพื่อร่วมฉลอง การสร้างสรรค์ผลงานในเชิงศิลปะ ภายใต้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ดูสดชื่น และน่าสนใจ ในรูปแบบที่เป็นกันเอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสื่อสารโดยตรง ระหว่างผู้สนใจ นักสะสม ช่างนาฬิกา และผู้นำในอุตสาหกรรมนาฬิกา โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถสัมผัสผลงานอันสร้างสรรค์ ที่หลากหลาย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนในวงการนาฬิกา
โดยในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า งานก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างครึกครื้น โดยมีผู้มีเกียรติหลายร้อยคนที่เดินทางมาร่วมงาน เพื่อแบ่งปันความหลงใหลในศาสตร์แห่งการผลิตนาฬิกา ภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริม ในด้านการสื่อสารและการชื่นชมงานฝีมืออย่างแท้จริง จากรูปแบบการจัดงานที่เปิดกว้าง ที่ช่วยให้การพูดคุยกันเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถสัมผัสถึงความประณีต และความคิดสร้างสรรค์ในแต่ละผลงานที่นำเสนอได้อย่างใกล้ชิด
บรรยากาศที่มีชีวิตชีวานี้เพิ่มระดับความตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้น เมื่อแบรนด์ชื่อดังหลายแบรนด์ได้เลือกงาน IAMWATCH 2024 เป็นเวทีในการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งจาก MB&F ที่ยังคงสานต่อความร่วมมือกับ Eddy Jacquet ช่างแกะสลักฝีมือเยี่ยม ในผลงานซีรี่ย์ล่าสุดของนาฬิกา Legacy Machine Split Escapement ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ผลิตในจำนวนเพียง 8 เรือน โดยแต่ละเรือนมีการแกะสลักลวดลายที่วิจิตรบรรจง พร้อมถ่ายทอดฉากจากวรรณกรรมคลาสสิคมากมาย
เช่น Moby Dick และ Robinson Crusoe เป็นต้น โดยลวดลายที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ สะท้อนถึงการตีความทางศิลปะของ Jacquet ต่อเรื่องราวเหล่านั้น ผสมผสานกับดีไซน์กลไกอันล้ำสมัยของ MB&F ในตัวเรือนสตีลของแต่ละเรือนที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของ MB&F ในการรวมศิลปะเข้ากับความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดจาก URWERK ในชื่อ UR-150 Scorpion ที่มาพร้อมกับการตีความใหม่
ของกลไกแสดงชั่วโมงแบบแซทเทิลไลท์ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ URWERK โดยดีไซน์ใหม่นี้มาพร้อมกับเข็มเวลาแสดงค่านาที ในแบบรีโทรเกรดที่กวาดผ่านส่วนโค้งถึง 240 องศา ก่อนจะรีเซ็ทกลับมายังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง คล้ายกับการโจมตีอย่างรวดเร็วของหางแมงป่อง กับตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ทำให้ UR-150 เป็นการผสมผสานระหว่างกลไกอันล้ำสมัย เข้ากับการออกแบบที่โดดเด่นและมีพลัง พร้อมนำเสนอใน 2 ทางเลือกทั้ง Titan และ Dark ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ต่อมากับ ULYSSE NARDIN Freak [One Navy Blue] เพื่อถ่ายทอดความโดดเด่นจากพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่น่าสนใจ โดยมีตัวเรือนที่ผลิตจากไทเทเนียมในขนาด 44 มิลลิเมตร พร้อมขอบตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์โบเนียม (Carbonium®) รวมกับการแสดงเวลาแบบฟลายอิ้งโคเรอเซล อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อแสดงเวลานาที และแผ่นดิสก์หมุนสำหรับแสดงเวลาชั่วโมง ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ UN-240 ให้พลังสำรองลานนาน 90 ชั่วโมง มาพร้อมสายยางรีไซเคิล เพื่อตอกย้ำถึงจิตวิญญาณนวัตกรรมของแบรนด์
สุดท้ายกับนาฬิกา KRAYON Anywhere Arborea ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงาน “Virgin Forest at Sunset” ของ Henri Rousseau โดยผสมผสานความชำนาญทางศิลปะ เข้ากับความสามารถทางเทคนิค พร้อมจำนวนการผลิตเพียง 15 เรือน มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ไม่เหมือนใครของ KRAYON ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถติดตามเวลา การขึ้นของพระอาทิตย์และช่วงเวลา ที่พระอาทิตย์ตกจากสถานที่ต่างๆ บนโลกได้อย่างง่ายดาย กับหน้าปัดที่ลงสีด้วยมืออย่างละเอียดบรรจง'
สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ที่เงียบสงบของโลกจากเวลากลางวันสู่เวลากลางคืน พร้อมชูความงามของธรรมชาติควบคู่ไปกับ ความสามารถทางเทคนิคของการผลิตกลไก ภายในของนาฬิกาที่ร่วมกันทำให้ Anywhere Arborea กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกลมกลืนระหว่างศิลปะ เวลา และสถานที่ ซึ่งโลกของนาฬิกาทำให้งาน IAMWATCH 2024 กลายเป็นจุดรวมพลสำหรับผู้ที่มีความหลงใหล ในศิลปะและนวัตกรรมที่กำลัง มาเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกในการประดิษฐ์นาฬิกา