iamwatch

โปรเจ็คท์ที่เป็นการนำเสนอแนวทางการออกแบบใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับแนวคิดในกรอบเดิมๆ ​ ที่ในปีนี้กลับมาอีกครั้ง กับธีม​ที่มีชื่อว่า​ ”Incredibly Specialized Watch” กับดีไซเนอร์ทั้ง 7 ที่ได้สร้างสรรค์นาฬิกาในรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ และไร้กรอบมาจำกัด ที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมฟังก์ชันที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านการออกแบบที่เปี่ยมด้วยความชำนาญ ในกฏเกณฑ์เฉพาะ โดยผลงานแต่ละรุ่น จะเป็นการร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับที่มาของแนวคิดและมุมมองทางความคิด พร้อมการจัดแสดงนาฬิกาทั้ง 7 เรือนในประเทศไทย

เริ่มตั้งแต่ 01 Hide-and-Seek Watch ที่ออกแบบโดย Mr. Masanori Kawamura จากแนวคิดของการเล่นซ่อนหา ที่ในบทบาทของการละเล่นนี้ ผู้เป็นยักษ์หรือผู้หามักถูกมองว่าเป็นตัวร้าย และไม่มีใครชอบบทบาทนี้มากนัก แต่ด้วยนาฬิกาเรือนนี้จะทำให้ผู้เล่นอยากเป็นยักษ์มากขึ้น ด้วยความสนุกของฟังก์ชันต่างๆ หน้าปัดที่ต้องมองด้วยการส่องกล้อง ในขณะที่ตรวจสอบการนับด้วยตาซ้าย และตาขวาก็จะถูกปิดด้วยเครื่องบังตาที่ยื่นออกมา โดยจะต้องจบเกมส์ภายในเวลา 10 นาที ตามเวลาที่แสดงบนจอแบบอนาล็อก และสามารถนับจำนวนผู้เล่นที่ต้องหา โดยการหมุนหน้าปัดที่เป็นรูปเขาของยักษ์

ต่อมาคือ 02 Pattermaker's Watch ที่ออกแบบโดย Mr. Kotaro Usugami จากแนวคิดของช่างทำแพทเทิร์นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญผู้สร้างตัวอย่าง และให้คำแนะนำด้านการผลิตของโรงงานเสื้อผ้าทั่วไป ซึ่งหนึ่งในไอเท็มที่ช่างทำแพทเทิร์น ต้องมีไว้บนข้อมือหรือบนโต๊ะทำงาน นั่นก็คือหมอนปักเข็มที่กลายมาเป็นดีไซน์ของนาฬิกา ที่เป็นการผสมผสานนาฬิกาและหมอนปักเข็ม เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยมีลักษณะตัวเรือนคล้ายหมุดปักบนกลีบดอกไม้ ที่มีผิวสัมผัสอันอ่อนนุ่มน่าสัมผัส พร้อมกับเม็ดมะยมที่มีลักษณะเหมือนหัวเข็มหมุดที่ปักลงบนหมอน

และกับ 03 Sukiyaki Watch ที่ออกแบบโดย Mr. Akira Yoshida จากแนวคิดของสุกี้ยากี้ที่ เป็นอาหารที่เขาชอบมากที่สุดในโลก พร้อมพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ ในการทำสุกี้ยากี้ที่อร่อยที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ โดยนาฬิกาจะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ การทำสุกี้ยากี้แสนอร่อยเป็นไปอย่างง่ายดาย ตามทิศทางของเข็มแสดงค่า และตัวเรือนที่แข็งแกร่งทนทาน ที่ชวนให้นึกถึงหม้อเหล็กของสุกี้ยากี้ พร้อมทำให้รู้สึกอยากรับประทานสุกี้ยากี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำ มาคู่กับสายที่ผลิตขึ้นจากหนังวัวของเนื้อโกเบ ซึ่งถือว่ามีความทนทานต่อน้ำและน้ำมันที่กระเด็นออกมา

นอกจากนี้ยังมี 04 Panda Lover ที่ออกแบบโดย Mr. Kiyotaka Sakai จากแนวคิดของนาฬิกาที่เรียกว่า “แพนด้า” สู่แนวคิดของการสร้างนาฬิกา ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นาฬิกาสีขาวดำบนหน้าปัด แต่เป็นนาฬิกาแพนด้าเรือนจริงที่สามารถจับความน่ารัก และรูปลักษณ์ที่เหมือนตุ๊กตาหมีแพนด้าได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดย่อยที่ดูเหมือนดวงตาที่ห้อยลง และทาคีมิเตอร์ที่เป็นมาตรวัดความเร็ว ซึ่งเป็นตัวแทนของฟังก์ชันการจับเวลา ที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นมิเตอร์ไม่ไผ่ (Sasa Meter) รวมถึง ฝาหลังที่มีลวดลายรูปแพนด้าที่น่ารัก

รวมทั้ง 05 Making Tape Euthusiasts ที่ออกแบบโดย Mr. Yugo Hibayashi ด้วยแรงบันดาลใจจากเทปกาว อันมีสีสันสวยงามที่ใช้กันอยู่ประจำ สู่คุณสมบัติที่โดดเด่นที่ผู้ใช้งานจะสามารถสร้างสรรค์ตัวเลข รวมทั้งสัญลักษณ์และเครื่องหมายเฉพาะตัวของตัวเองได้ ด้วยการตัดเทปกาว และตกแต่งบริเวณหน้าปัดในแบบที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังสร้างให้สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย เนื่องจากสามารถยึด และถอดม้วนเทปกาวออกได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดสายนาฬิกาโดยนาฬิกาสามารถรองรับม้วนเทปที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางด้านใน 30 มิลลิเมตร และความกว้างของเทปกาวตั้งแต่ 15 มิลลิเมตรถึง 20 มิลลิเมตร

ก่อนสุดท้ายกับ 06 Sunny Men ที่ออกแบบโดย Mr. Yu Ishihara จากแนวคิดของคนยุคใหม่ที่จะสามารถสัมผัสจังหวะเวลา อันเงียบสงบเหมือนกับจังหวะในยุคของบรรพบุรุษ ในสมัยโบราณได้หรือไม่ สู่นาฬิกาที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้วิถีของดวงอาทิตย์ เป็นตัวกำหนดและแสดงค่าเวลาจากแสดงอันเจิดจ้า ที่อาจเรียกได้ว่า “หอดูดาวขนาดจิ๋ว” ที่สามารถติดตามการเคลื่อนที่ ของท้องฟ้าได้อย่างละเอียด ด้วยความแม่นยำสูงที่ระดับ -1.59 มิลลิวินาทีต่อวัน หรือ -0.58 วินาทีต่อปี โดยต้องมีการกำหนดและตั้งค่าสเกลที่มี พร้อมการตั้งระดับของนาฬิกาเพื่อให้แสดงค่าได้อย่างเที่ยงตรง

สุดท้ายกับ 07 Ambidextrous ที่ออกแบบโดย Mr. Kento Ito กับนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ได้ ทั้งผู้ที่ถนัดซ้ายหรือขวา พร้อมมุมมองที่จะเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับว่าสวมนาฬิกาบนข้อมือซ้ายหรือขวา โดยสีของหน้าปัดจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อสวมนาฬิกาบนข้อมือขวาที่หน้าปัดจะเป็นสีขาวอันโดดเด่น และเมื่อสวมนาฬิกาบนข้อมือซ้าย จะกลายเป็นหน้าปัดสีดำเรียบหรู โดยทั้งเข็มแสดงค่าเวลาและหลักชั่วโมงก็มีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีชื่อแบรนด์ SEIKO ที่จะมีสีสันที่แตกต่างกันในหน้าปัดเดียว แล้วแต่จะมองเมื่อสวมข้อมือซ้ายหรือข้อมือขวา