iamwatch

จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของ SEIKO เกิดขึ้นในปี 1881 เมื่อ Kintaro Hattori เปิดร้านจำหน่ายนาฬิกาในกินซ่า โดยบริษัทของเขาได้ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นขึ้นในปี 1913 และได้พัฒนาศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกา ด้วยเทคโนโลยีและงานฝีมืออันเป็นเลิศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนในปีนี้ถึงวาระแห่งการฉลองครบรอบ 110 ปีแห่งการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่น ด้วยการเปิดตัวซีรี่ส์นาฬิกาที่ระลึก ซึ่งรวมถึงนาฬิกา KING SEIKO รุ่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากมรดกทางเทคโนโลยี และการออกแบบอันยาวนาน อีกทั้งยังเป็นการกลับมาของนาฬิกา KING SEIKO ที่ได้รับอิทธิพลมาจากนาฬิกาวินเทจรุ่นดั้งเดิม ที่สร้างความประทับใจให้กับคนรักนาฬิกาทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม รูปลักษณ์ที่หรูหราเมื่ออยู่บนข้อมือ และฝีมือการออกแบบที่เป็นเลิศ

หน้าปัดที่ได้แรงบันดาลใจจากเขตคาเมโดะ (Kameiko) ของโตเกียว สู่ความโดดเด่นของพื้นหน้าปัดที่ไล่ระดับสีได้อย่างสวยงามหรูหรา พร้อมเหลี่ยมมุมของลวดลายที่เล่นกับแสงได้อย่างน่าหลงใหล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงเรขาคณิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า คิกโกมอน (Kikkoumon) อันมีต้นแบบมาจากรูปทรงหกเหลี่ยมบนกระดองเต่า ซึ่งในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้น เต่าเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาวและความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้รูปทรงหกเหลี่ยมของกระดองเต่า ยังเชื่อมโยงกับชุดเกราะของซามูไรที่มีความหมายถึงความแข็งแกร่งและชัยชนะอีกด้วย โดยลวดลาย Kikkoumon ยังมีเรื่องราวอันยาวนานที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของ KING SEIKO ในช่วงปี 1960 ณ โรงงานในเขตคาเมโดะของโตเกียว

ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ คาเมชิมะ (Kameshima) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำและลำธารที่ถูกเรียกว่า "เกาะเต่า" (Tortoise Island) ดังนั้นรูปแบบลวดลายบนหน้าปัด ที่มีมิติความลึกและพื้นผิวที่น่าทึ่งนั้น แท้จริงแล้วรูปหกเหลี่ยมแต่ละชิ้น จะประกอบขึ้นจากรูปหกเหลี่ยมซ้อนกันถึงสามชิ้น โดยแต่ละชิ้นจะมีความลึกที่แตกต่างกันเพื่อให้ดูมีมิติ พร้อมการใช้เทคนิคการไล่เฉดสีจากสว่างที่กลางหน้าปัด แล้วค่อยๆ เข้มขึ้นทีละน้อยไปจนถึงบริเวณขอบหน้าปัด จนทำให้ KING SEIKO Watchmaking 110th Anniversary เรือนนี้ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ในตัวเรือนงามสง่าขนาด 37 มิลลิเมตร และสายแบบละเอียดโดยมีข้อต่อ 7 ชิ้นในแต่ละชุด ให้ความคมชัดและเหลี่ยมมุมอันงดงาม

ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก KING SEIKO KSK รุ่นคลาสสิคที่รังสรรค์ขึ้นในปี 1965 และเป็นซีรี่ส์ของ KING SEIKO ในรุ่นที่สอง ซึ่งเป็นรุ่นที่กำหนดรูปลักษณ์ของนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ ที่มีอินเด็กซ์แสดงเวลาหลักชั่วโมงที่ผ่านการเจียรเหลี่ยมอย่างประณีต ผสานกับชุดเข็มแสดงเวลาที่คมกริบ รวมกันทำให้คอลเลคชั่นแห่งการฉลองโอกาสพิเศษเรือนนี้ เต็มไปด้วยความสง่างามและโดดเด่น นอกจากนี้ข้อต่อตัวเรือนยังได้รับการขัดเงาพื้นผิว ให้เงาราวกับกระจกพร้อมการขัดแต่งด้วยเทคนิคการขัดแบบลายริ้วแฮร์ไลน์ เพื่อมอบสัมผัสแห่งความละเมียดละไม เคียงคู่กับความแม่นยำของการแสดงเวลาอันเที่ยงตรง ประกอบเข้ากับกระจกแซฟไฟร์ทรงบ๊อกซ์-เชฟท์ พร้อมเคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสง

ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R31 ที่ความถี่ 21,600 รอบต่อชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 70 ชั่วโมง โดยมีฝาหลังแบบขันเกลียว พร้อมความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 10 บาร์ และความสามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร โดยมีตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสตีลในขนาด 37 มิลลิเมตร หนา 12.1 มิลลิเมตร ใช้งานคู่กันกับสายหนังสีดำพร้อมชุดล็อค เพิ่มทางเลือกในการสวมใส่และเปลี่ยนลุคเป็นเดรสว็อชได้อย่างง่ายดาย โดย KING SEIKO Watchmaking 110th Anniversary ใน Ref. SPB365J จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 71,000 บาท โดยผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 1,200 เรือนทั่วโลก และจะจำหน่ายเฉพาะที่บูติคของนาฬิกา SEIKO เซ็นทรัลสาขาพระรามเก้า

รวมทั้ง SEIKO บูติคออนไลน์, เคาท์เตอร์นาฬิกา SEIKO ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านตัวแทนจำหน่ายที่คัดเลือกทั่วประเทศ รวมทั้งสามารถติดต่อและสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ที่ Website : www.seikoboutiquethailand.com/product/king-seiko-spb365j/ รวมทั้งสามารถดูรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ Website : https://www.seikowatches.com/th-th/, FB : SEIKO Club by SEIKO Thailand, Youtube Channel : SEIKO Club by SEIKO Thailand, IG : Seiko_Thailand และ Line : @Seiko_Thailand