ULYSSE NARDIN Diver X Skeleton 44 mm, Limited Edition 175 Pieces

ULYSSE NARDIN ผนึกรวมนาฬิกาในคอลเลคชั่น Diver X และ Skeleton X เข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นเครื่องบอกเวลาสไตล์ไฮบริดใหม่ ภายใต้ชื่อ Diver X Skeleton ที่ทั้งน่าตื่นเต้น และทรงประสิทธิภาพสูงสุด ตามสไตล์ของนาฬิกาเรือนเด่นจาก ULYSSE NARDIN กับการผลิตแบบจำนวนจำกัดที่ 175 เรือนทั่วโลก

 

Screen Shot 2564 07 05 at 22.19.39
 

“วิธีที่ดีที่สุดในการคาดการณ์ถึงอนาคต ก็คือการลงมือสร้างสรรค์” จากความเชื่อมโยงระหว่าง ULYSSE NARDIN และท้องทะเลลึกใต้มหาสมุทรที่ ULYSSE NARDIN ได้บุกเบิกซึ่งนวัตกรรมการประดิษฐ์นาฬิกามาอย่างยาวนานนับจากปี 1846 เมื่อแบรนด์ได้ผนึกชื่อเสียงของตัวเอง เข้ากับการสร้างสรรค์นาฬิกามารีน โครโนมิเตอร์ อันเที่ยงตรงและมีความแม่นยำสูงที่มิอาจเทียบเคียงได้ ในฐานะอุปกรณ์นำทางทางทะเลอันแข็งแกร่ง ที่ช่วยให้บรรดานักแล่นเรือสามารถคำนวณลองจิจูดบนผืนทะเลได้อย่างแม่นยำ

 

ULYSSE NARDIN Diver X Skeleton 03
 

ที่ในวันนี้ ULYSSE NARDIN ยังคงยืนหยัดในฐานะช่างนาฬิกา ที่ถูกลิขิตให้เป็นดั่งผู้ควบคุมอาณาจักรแห่งห้วงมหาสมุทร ด้วยการเผยโฉมเรือนเวลารุ่นใหม่ Diver X Skeleton หลังจากที่ในปี 2019 ได้มีการเปิดตัวนาฬิกา Diver X Cape Horn, Nemo Point และ Antarctica เพื่อฉลองความกล้าหาญของเหล่านักแล่นเรือใบเดี่ยวรอบโลกแห่งวองเดโกลบมาแล้วนั้น ในวันนี้ เพื่อการฉลองครบรอบ 175 ปี ULYSSE NARDIN จึงได้ยกระดับนาฬิกาในคอลเลคชั่น Diver X ไปสู่อีกขั้น

 

un diver x skeleton 3
 
ด้วยการผสมผสานระหว่างสองโลกของ Diver และ Executive Skeleton จนกลายเป็น Diver X Skeleton ผลงานนาฬิการุ่นเอ็กซ์คลูซีฟในซีรี่ส์ของนาฬิกาดำน้ำ ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 175 เรือนโดยมีหมายเลขประจำเรือนกำกับ ด้วยวิวัฒนาการอันล้ำสมัยของนาฬิกา Diver X ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความดึงดูดใจสไตล์สปอร์ต ผสมผสานความโดดเด่นของงานออกแบบสไตล์ทางเทคนิคของ Executive Skeleton ที่นับเป็นการจับกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม
 
ulysse nardin diver x skeleton 1
 

และเหมือนกับนาฬิกาในตระกูล Diver ของ ULYSSE NARDIN ทั้งหมดที่จะถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานต่อแรงกดอากาศอันเป็นอันตรายสุดขั้ว ณ ใต้ท้องทะเลลึกระดับ 200 เมตร และเพื่อบรรลุถึงความสำเร็จนี้ จึงมีการออกแบบให้ขอบเบเซิล สามารถปรับหมุนได้ทิศทางเดียวพร้อมการตกแต่งด้วยการเซาะร่อง ซึ่งจะช่วยปกป้องกระจกแซฟไฟร์ที่โค้งนูนแบบโดม จากแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เมื่อถูกใช้งานใต้น้ำทะเลลึก

 

 

 

UN99
 
 
 
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์ UN-371 ขึ้น ให้พลังสำรองลานนานถึง 96 ชั่วโมง โดยสามารถมองเห็นได้ผ่านตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร พร้อมทั้งมีการปรับปรุงโรเตอร์รูปทรง ที่เป็นไอคอนิคของแบรนด์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีฝาครอบกระปุกลานที่ติดตั้งไว้ ณ ตำแหน่งเที่ยงวัน ที่ผลิตจากวัสดุคาร์โบเนียม (Carbonium®สีน้ำเงินเช่นเดียวกับขอบเบเซิล และเข็มแสดงชั่วโมง นาที และวินาที ที่ทั้งหมดจะเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา เพื่อการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนแม่นยำใต้น้ำ
 
3723 170le 3a blue3b ulysse nardin diver x skeleton 3
 
โดดเด่นด้วยภาพซ้อนซึ่งปรากฏบนหน้าปัด กับรูปทรงสัญลักษณ์ เคลือบพีวีดีสีน้ำเงิน ที่เป็นหนึ่งในพัฒนาการทางเทคนิคอันซับซ้อนสูงสุดเท่าที่เคยสร้างสรรค์มาโดย ULYSSE NARDIN โดยมาร์กเกอร์แสดงเวลาชั่วโมง ได้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับหน้าปัดอย่างไร้ร่องรอย เพื่อให้เสมือนล่องลอยอยู่บนหน้าปัด และมอบสัมผัสได้ถึงความลุ่มลึกมีมิติ ขณะที่ชั้นต่างๆ ที่วางทับซ้อนกันนั้นยังตอกย้ำถึงโครงสร้างแบบชั้นของสัญลักษณ์ ณ ศูนย์กลางหน้าปัด เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของโครงสร้างของกลไกสเกเลตันนี้
 
UN Diver X Skeleton 3723 170LE 3A BLUE 3A BACK 844x1000 1
 

ส่วนตัวเรือนตกแต่งแบบไมโครบีดด์ (microbeaded) ทั้งด้านข้างที่รับกับหูสายขัดเงา และการขัดลายซาตินเคลือบพีวีดีสีน้ำเงิน ตกแต่งด้วยรายละเอียดสีส้มตั้งแต่ มาร์กเกอร์แสดงเวลาชั่วโมง และเส้นลายด้านในสัญลักษณ์ X รวมถึงวัสดุยางที่ช่วยปกป้องรอบเม็ดมะยม และเพิ่มสีสันสไตล์ป็อบ ที่ตอกย้ำถึงสไตล์สปอร์ตของผลงานนาฬิการุ่นนี้  นอกจากนี้ยังมีขอบเบเซิลที่ใช้คาร์โบเนียมสีน้ำเงิน วัสดุเดิมที่เคยใช้ในนาฬิการุ่น Freak X มาแล้ว

 

Screen Shot 2564 07 05 at 22.47.27

 

โดยคาร์โบเนียมนับเป็นวัสดุทางอวกาศที่มีน้ำหนักเบา และมีความแข็งแกร่งทนทานสูงสุดเท่าที่เคยพัฒนามาโดยนักวิทยาศาสตร์ ประกอบและผลิตขึ้นจากไฟเบอร์ชนิดเดียวกัน กับที่ใช้สำหรับการผลิตลำตัวและปีกของเครื่องบินเจเนอเรชั่นล่าสุด ณ ปัจจุบัน และด้วยเพราะกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุเหลือใช้ จึงทำให้วัสดุชนิดนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลง 40% กว่าคาร์บอนชนิดอื่นๆ แม้จะต้องสร้างขึ้นโดยกระบวนการอันซับซ้อนก็ตาม

 

Screen Shot 2564 07 05 at 22.47.44

 

เริ่มต้นจากการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 7 ไมครอน มาผ่านแรงกดอัดและอุณหภูมิที่สูง โดยกระบวนการนี้ยังทำให้เส้นใยที่ได้ สร้างรูปเป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของนาฬิกาแต่ละเรือน โดยนาฬิกา Diver X Skeleton จะมาพร้อมสายยางทั้งในโทนสีน้ำเงินโอเชียน (Ocean Blue) หรือสีส้มซูเปอร์ชาร์จ (Supercharged Orange) พร้อมทั้งองค์ประกอบการตกแต่งด้วยรูปสมอ ULYSSE NARDIN ในโทนสีส้ม พร้อมราคาจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 19,500 สวิสฟรังก์