21st Century Explorer with OMEGA
ความร่วมมือของ Victor Vescovo กับ OMEGA แบรนด์ผู้ผลิตเรือนเวลาจากสวิส ได้นำไปสู่การแบ่งปันประสบการณ์ ความสัมพันธ์ที่ดี และการทุบสถิติโลก สำหรับผู้ที่แสวงหาความตื่นเต้น จากการที่ Victor Vescovo ได้เป็นคนแรกในโลกที่ดำลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรถึง 12 ครั้ง ซึ่งสำหรับเขาแล้ว สถิติความสำเร็จอันน่าทึ่งในเดือนมีนาคมปี 2021 นี้ เป็นเพียงแค่ความสำเร็จครั้งล่าสุดของเขาเท่านั้น เพราะชีวิตของชายผู้นี้คือตำนานโดยแท้จริง นาวาโท Vescovo อดีตนายทหารเรือของสหรัฐอเมริกา คือหนึ่งในมนุษย์เพียง 70 คนที่สำเร็จภาระกิจ Explorer’s Grand Slam ซึ่งมีหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญคือการปีนยอดเขาที่สูงที่สุดของแต่ละทวีป หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Seven Summits ซึ่งรวมไปถึงยอดเขาเอเวอเรสท์ และการท่องไปในบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ อันแสนหนาวเหน็บด้วยสกี
การยึดมั่นในแนวทางของนักสำรวจนั้น นับว่าหาได้ยากในโลกสมัยศตวรรษที่ 21 ซึ่งใครก็สามารถท่องในโลกเสมือนจริงได้ นอกจากนี้การคมนาคมที่สะดวกยิ่งขึ้น ยังทำให้พื้นที่ที่ไม่ได้รับการสำรวจหดแคบลง นั่นหมายความว่าคนที่มีความมุ่งมั่นเช่น Vescovo ย่อมไม่ทำสิ่งอะไรที่ง่ายๆ เพราะจุดหมายของเขาคือการได้ไปยังมุมที่โหดร้ายที่สุดบนโลก สถานที่มนุษย์ไม่ควรได้ย่ำกราย ที่ต้องอาศัยทั้งความกล้าและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยทั้งสองสิ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญ ที่พาไปสู่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของเขากับ OMEGA จากในปี 2018 ที่เขาได้เริ่มเป้าหมาย Five Deeps Expedition โดยมีจุดหมายคือการดำดิ่งลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดของทั้ง 5 มหาสมุทร ที่เขาได้ทำสำเร็จภายในหนึ่งปีด้วยยานใต้น้ำ Limiting Factor และระหว่างนั้น Vescovo ก็ลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรเท่าที่มีการบันทึกไว้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนเมษายนปี 2019 เมื่อเขาได้ดำลงไปยัง Challenger Deep ในมหาสมุทรแปซิฟิคและได้รับการบันทึกในกินเนสส์บุ๊คออฟเรคคอร์ด ว่าสามารถดำลงไปได้ถึง 10,925 เมตร หรือ 35,843 ฟุต
ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในปี 2020 โดยระบุถึงความลึกแท้จริงที่ 10,934 เมตรหรือ 35,872 ฟุต +/- 3 เมตร ตามคำแนะนำจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าการดำลงไปในความลึกเช่นนี้ คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากยานใต้น้ำ และ Vescovo เองก็ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้เกิดในยุคสมัย ที่เขาสามารถใช้ทรัพยากรด้านเทคโนโลยีแบบที่วีรบุรุษนักสำรวจในอดีตไม่เคยได้ฝันถึงมาก่อน “ผมไม่ได้ถูกยึดติดกับที่ใดที่หนึ่งเหมือนนักสำรวจในช่วงศตวรรษที่ 15 แต่ผมกำลังทำมากกว่าที่มาเจลลันทำ เห็นสถานที่มากมายที่ไม่มีมนุษย์รายใดเคยได้เห็น” ดังนั้นการดำดิ่งครั้งประวัติศาสตร์ของ Vescovo และนาฬิกา OMEGA Ultra Deep Professional ทั้งสามเรือนจึงเกิดขึ้น โดยนาฬิกาสองเรือนถูกติดตั้งไปกับแขนกลของยานใต้น้ำ และอีกเรือนอยู่กับอุปกรณ์นำร่องและรวบรวมข้อมูลที่มีชื่อว่า Lander ส่วน Vescovo ที่อยู่ภายในยานใต้น้ำก็ร่วมบันทึกวินาทีสำคัญ ด้วยเครื่องบอกเวลาจาก OMEGA ที่เขาสวมใส่อยู่ตลอด และเป็นนาฬิการุ่นที่เขาเอ่ยปากชมอยู่ไม่ขาดในการสัมภาษณ์
“OMEGA Seamaster Planet Ocean Titanium Chronometer ของผมเรือนนี้ช่วยให้ผมรักษาเวลาได้อย่างดีเยี่ยมตลอดตลอดทุกปฏิบัติการ”
ในปี 2020 Victor กับ Limiting Factor หวนย้อนกลับมายังมหาสมุทรแปซิฟิค เพื่อทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมายและดำสำรวจไปยังสาม “แอ่ง” ที่รวมกันเป็นแชลเลนเจอร์ดีป ลูกเรือสำหรับภารกิจดำครั้งที่หกประกอบด้วย Dr. Kathryn D. Sullivan และ Kelly Drennan Walsh สองสมาชิกล่าสุดในครอบครัวนักสำรวจของ OMEGA ที่ทิ้งชื่อไว้ในประวัติศาสตร์หลังอดีตนักบินอวกาศ Kathy Sullivan กลายมาเป็นนักบินอวกาศ และผู้หญิงคนแรกที่ได้ดำไปยังจุดที่ลึกที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากนี้ Vescovo ยังไม่ได้จำกัดความมุ่งมั่นในการทำลายสถิติไว้ใต้เกลียวคลื่นเพียงอย่างเดียว เพราะช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขายังได้ไต่ขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟเมานาเคอา (Mauna Kea) โดยเริ่มเดินทางจากฐานที่ต่ำกว่าน้ำทะเลที่ระดับ -5,600 เมตรจนกระทั่งถึงจุดยอดที่สูงเสียดเมฆที่ +4,200 เมตร จากการเดินทางอย่างต่อเนื่องกว่า 9,800 เมตรบนที่สูงยิ่งกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสท์
ดังนั้นเพื่อฉลองให้กับความร่วมมืออย่างแนบแน่น ระหว่างยอดนักสำรวจและ OMEGA แบรนด์เครื่องบอกเวลาที่เขาวางใจ ทาง OMEGA จึงผลิตภาพยนตร์สั้นขึ้นเพื่อบันทึกจิตวิญญาณแห่งการสำรวจ และขับเด่นความสำเร็จครั้งล่าสุดของ Victor Vescovo และทีมงานให้ประจักษ์สายตาของผู้คนทั่วโลก กับภารกิจสำคัญต่างๆ ที่เขามุ่งมั่นทำให้สำเร็จ และเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้คนมากมาย โดยสารคดีชุดนี้จะแสดงให้เห็นว่า Victor บอกเล่าถึงนาฬิกาที่เขาสวมใส่ ในฐานะเครื่องบอกเวลาที่มีทั้งความเที่ยงตรงและช่วยทำให้เขาปลอดภัย “ผมใช้นาฬิการุ่น Planet Ocean เพื่อบอกเวลาในหลายกระบวนการ เช่น ประกอบการคำนวณอย่างรวดเร็วระหว่างกำลังกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ และรู้สึกอุ่นใจอย่างยิ่งที่มีอุปกรณ์ที่มีความเที่ยงตรงสูงเช่นนี้อยู่บนข้อมือ แค่เรือนเดียวก็เกินพอ”
ด้วยจิตวิญญาณแห่งนักสำรวจของ OMEGA การที่มาเจลลันแห่งยุคใหม่เลือกที่จะใส่นาฬิกาของแบรนด์ จึงเป็นข้อมูลที่ทำให้ OMEGA ภาคภูมิใจ โดยเฉพาะเมื่อเป็น Victor Vescovo ที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นคนแรก “ผมเองก็เป็นผู้บริโภคเหมือนคนอื่นๆ ผมอ่านนิตยสารและบทวิจารณ์ และประวัติศาสตร์ของ OMEGA ก็ประทับแน่นในใจของผม ทั้งความเกี่ยวข้องของOMEGA กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิค การเป็นผู้ผลิตนาฬิกาสำหรับดำน้ำเชิงพาณิชย์รายแรก ทุกอย่างพิสูจน์ได้ถึงความเที่ยงตรงและนวัตกรรมที่อัดแน่น อีกทั้งยังผลิตจากสวิส ผมจึงไปซื้อนาฬิกาเรือนนี้มาจากบูติคนาฬิกา OMEGA ที่ดัลลัส เพราะผมต้องการเครื่องบอกเวลา ที่มีความเที่ยงตรงที่จะร่วมทางไปกับผมทุกการดำดิ่ง และนั่นก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น”
การทำลายสถิติโลกย่อมเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ดังนั้นความร่วมมือระหว่าง OMEGA กับ Victor Vescovo ก็ถือเป็นสิ่งที่มากกว่าการร่วมงานทั่วไป โดยมุ่งหมายเพื่อผลักดันขีดจำกัดของการผลิตนาฬิกา การทำงานร่วมกันในครั้งนี้จึงได้นำไปสู่การรังสรรค์นาฬิการุ่นต้นแบบแสนพิเศษหลายแบบ ซึ่งผ่านการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงซึ่งโหดร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ “การผจญภัยจะเริ่มต้นด้วยการเดินทางเพื่อทดสอบ แต่ยิ่งเราไปไกลมากเท่าใด ความเป็นวิทยาศาสตร์ก็ยิ่งตรงกับความชอบของผม ทุกวันนี้เรามีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่มาร่วมดำน้ำกับเรา บางครั้งมาคราวละสามถึงสี่คน ทั้งนักธรณีวิทยาและนักชีววิทยาทางทะเล พวกเขาทำแผนที่ทางทะเลด้วยระบบโซนาร์ที่ครอบคลุมบริเวณกว้าง เราจึงมีโอกาสทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ระหว่างที่ดำน้ำลงไป”
จิตวิญญาณของการผจญภัยนั้นยังคุกรุ่นและควรค่ากับการฉลอง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งเหล่านั้นจะนำเราไปสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าที่มี แล้วอะไรคือจุดหมายต่อไปของ Victor Vescovo? แน่นอนว่าต้องเป็นบางอย่างที่สุดยอดและถึงขั้นพลิกโฉมหน้า อีกทั้งยังอาจทำลายสถิติโลกซักหนึ่งหรือสองด้านจากที่เคยมีบันทึกไว้