iamwatch

Twitter

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งทองคำ PIAGET ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เมซงที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นเทคนิค เพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่าอย่าง 'ทองคำ' ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด ดังลวดลายที่ปรากฏบนสายรัดข้อมือของคอลเลคชั่น Limelight Gala ที่แบรนด์บ่มเพาะความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ซึ่งแรงบันดาลใจของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ และความมหัศจรรย์อื่นๆ มากมาย

PIAGET Limelight Gala Precious Sapphire Gradient ใน Ref. G0A45163 กับตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ผลิตจากไวท์โกลด์ที่ผสานศาสตร์แบบดั้งเดิมอย่าง 'Palace Décor' ไว้ทั้งบนสายนาฬิกาและพื้นหน้าปัด

PIAGET Limelight Gala Precious Sapphire Gradient ใน Ref. G0A45363 กับขอบเบเซิลประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินบริลเลียนต์คัทรวม 22 เม็ด (ประมาณ 4.01 กะรัต) ที่โอบล้อมหน้าปัดมุกสีขาว เข้าคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม กับจำนวนการผลิตเพียง 88 เรือนทั่วโลก

นอกจากนี้ PIAGET ยังเชี่ยวชาญในการออกแบบ และศิลปะการเล่นแสง (The Art of Light) ที่เมซงหลอมรวมประกายความงามอันไร้ที่ติ จากอัญมณีและนวัตกรรมทางด้านดีไซน์ ซึ่งล้วนแต่เป็นทักษะชั้นเลิศที่เหล่าช่างนาฬิกาและจิวเวลรี่ บ่มเพาะและส่งต่อมานานกว่า 140 ปี ไว้อีกด้วย

PIAGET Limelight Gala Precious Rose Gold (Ref.G0A45161)
หนึ่งในเรือนเวลาที่รังสรรค์โดยใช้เทคนิค 'Serti Descendu' ประดับเพชรบริลเลียนต์คัทรวม 57 เม็ด (ประมาณ 4.01 กะรัต) มาพร้อมสายหนังสีแดงเบอร์กันดี ที่ตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของพื้นหน้าปัดมุก

ต่อด้วย 3 สุดยอดเรือนเวลาชั้นสูง PIAGET Limelight Gala High-Jewellery กับดีไซน์โดดเด่นของหน้าปัดรูปไข่ประดับเพชรระยิบระยับ ที่แต่ละเม็ดถูกฝังอย่างประณีตด้วยเทคนิคสโนว์เซ็ทติ้ง ขณะที่สาย ขาตัวเรือน และขอบเบิเซลรายล้อมด้วยอัญมณีทรงมาร์คีส์ ช่วยเสริมภาพรวมให้ดูเก๋แปลกตากว่าดีไซน์ยุคก่อน 

PIAGET Limelight Gala High-Jewellery ทั้ง 3 เรือนมาในขนาด 28x23 มิลลิเมตร โดย Ref. G0A45170 0tประดับเพชรทั้งตัวเรือน ทั้งแบบบริลเลียนต์คัท และทรงมาร์คีส์ รวมทั้งสิ้น 364 เม็ด ประมาณ 12.42 กะรัต ส่วนใน Ref. G0A45171 จะเป็นการผสานความงามระหว่างเพชร และแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงมาร์คีส์ และใน Ref. G0A45168 กับแบบประดับเพชรรวม 237 เม็ด มาพร้อมสายผ้าซาตินหรูสีน้ำเงิน

ในขณะที่ PIAGET ยังมีความโดดเด่นในศาสตร์แห่งสีสัน (The Art of Colour) ที่หากพูดถึงเรื่องสี... มนต์เสน่ห์แห่งท้องฟ้าสีคราม ก็ถือเป็นหนึ่งในโทนสีซิกเนเจอร์ ที่แบรนด์นิยมหยิบมาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะบนหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้ม ที่ชวนให้ระลึกถึงหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า

PIAGET Limelight Gala Precious Aventurine Glass ตัวเรือนไวท์โกลด์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้ม ที่เข้าคู่สายหนังจระเข้สีเดียวกัน โดยใน Ref. G0A45162 กับตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัทรวม 63 เม็ด (ประมาณ 1.76 กะรัต) ขณะที่ใน Ref. G0A45152 จะมาในขนาด 26 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัทรวม 57 เม็ด (ประมาณ 0.87 กะรัต) โดยทั้ง 2 รุ่นจะผลิตขึ้น 300 เรือน

นอกจากนี้ยังมีใน Ref.G0A45180 กับตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัทรวม 57 เม็ด (ประมาณ 4.80 กะรัต) ด้วยเทคนิค 'Serti Descendu' พร้อมการผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือนทั่วโลก

ปิดท้ายด้วยความสง่างามแบบที่ใครก็ยากจะลอกเลียน กับเรือนเวลาชั้นสูงที่มาพร้อมหน้าปัดประดับอัญมณีหายาก อย่างแบล็คโอปอลซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์แห่งสีสัน ที่ทอประกายนับไม่ถ้วนยามต้องแสง ไม่ว่าจะเป็น สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีแดง โดยอัญมณีล้ำค่านี้พบได้เฉพาะแถบออสเตรเลีย และที่ประเทศเอธิโอเปียเท่านั้น

PIAGET Limelight Gala High Jewellery Black Opal ใน Ref.G0A45007 ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบล็คโอปอลหายาก ประดับแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัทสีน้ำเงิน รวม 86 เม็ด (ประมาณ 5.51 กะรัต) และแซฟไฟร์ทรงมาร์คีส์เฉดสีอื่นๆ อีกกว่า 58 เม็ด (ประมาณ 6.23 กะรัต) ไล่โทนสีจากเหลืองไปส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยทับทิม 14 เม็ดงาม ที่เสริมให้ผลงานชิ้นนี้สมบูรณ์แบบที่สุด