Horological Society of GAYSORN 2024
‘เกษรวิลเลจ’ ตอกย้ำการสร้างประสบการณ์ไล๊ค์มายด์คอมมูนิตี้ ให้ผู้ที่ชื่นชอบเรือนเวลาหรูได้พบปะและเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ จนใครๆ ต่างปักหมุดและยกให้เป็นวอทช์เดสทิเนชั่นชั้นนำของประเทศไทย จากการจัดงาน Horological Society of GAYSORN ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งในปีนี้เกษรวิลเลจ เชิญชวนให้เหล่าผู้ชื่นชอบและนักสะสมนาฬิกา มาชื่นชมเรือนเวลาระดับมาสเตอร์พีซ ที่เผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ไม่พลาดเทรนด์เด่นในแวดวงนาฬิกา พร้อมอัพเดทนวัตกรรมใหม่ จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
‘เกษรวิลเลจ’ นำโดยคุณชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือเกษรกรุ๊ป ส่งมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ให้กับคนรักนาฬิกาอีกครั้ง เพื่อเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนที่มีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน ได้พบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนแนวคิด เพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมยลโฉมเรือนเวลาสุดหรูที่บินตรง มาจากทั่วทุกมุมโลกจากหลากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ CORUM และ PARMIGIANI Fleurier จาก BAECHTOLD, CARL F. BUCHERER และ SARCAR จาก TSL International
ERWIN SATTLER และ L’EPEE จาก TIME GALLERY และ BUBEN&ZORWEG แบรนด์ตู้เซฟสำหรับเก็บนาฬิกาหรู และเครื่องประดับจากประเทศเยอรมนี รวมทั้งบูติคแบรนด์นาฬิกา GRAND SEIKO และ BIANCHET เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีทอล์คพิเศษจาก ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข กูรูนาฬิกาชื่อดังของไทยในฐานะ GAYSORNTimepiece Advisor ที่มาบอกเล่าเรื่องราวความน่าสนใจ และความพิเศษของเรือนเวลาแต่ละชิ้นที่นำมาจัดแสดง พร้อมเก็บตกทิศทางที่น่าจับตามองของวงการนาฬิกาโลก
ตั้งแต่ Tonda PF Micro Rotor “The Siam Special Edition” เรือนเวลารุ่นพิเศษจาก PARMIGIANI Fleurier ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ มาในเฉดสีเขียวศิลาดลพร้อมการตกแต่งลวดลายกิโยเช่อย่างประณีต พร้อมการผลิตแบบจำกัดเพียง 31 เรือน และวางจำหน่ายผ่านทางร้าน BAECHTOLD เท่านั้น ต่อมากับ GRAND SEIKO Evolution 9, Ref. SLGH021 เรือนเวลาที่ถ่ายทอดฉากทัศน์อันลึกลับแห่งหุบเขาเก็นบิ ในจังหวัดอิวาเตะ อันเป็นแหล่งกำเนิดของนาฬิกา GRAND SEIKO
อย่าโดยถูกนำเสนอลงบนหน้าปัดพร้อมลวดลายที่เกิดจากการขึ้น ในรูปแบบใหม่จากการเลือกใช้สีเขียวอ่อน อีกทั้งยังเป็นนาฬิการุ่นแรกจากคอลเลคชั่น Evolution 9 ที่ตัวเรือนและสายสร้างขึ้นจากวัสดุ ที่มีระดับความต้านทานการกัดกร่อน สูงที่สุดในโลกอย่างเอเวอร์-บริลเลียนท์สตีล นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Flying Tourbillon Sport GMT จาก BIANCHET เรือนเวลาสำหรับนักเดินทาง พร้อมความโดดเด่นด้วยลูกโลก ที่ทำงานควบคู่ไปพร้อมกับฟังก์ชั่นจีเอ็มที GMT ผนวกเข้ากับชุดกลไกฟลายอิ้งตูร์บิยอง ในสไตล์ของแบรนด์ตั้งแต่รุ่นแรก
นอกจากค่ำคืนที่น่าจดจำของงาน Horological Society Of GAYSORN ที่จัดขึ้น ณ RIEDELRestaurant & Wine Cellar แล้ว ยังมีกิจกรรมไฮไลท์ในวันอื่นๆ ต่อมาอีกด้วยทั้งการร่วมชมเรือนเวลาระดับมาสเตอร์พีซของ GRAND SEIKO จากงาน Watches and Wonders 2024 และการร่วมเป็นหนึ่งในคนสำคัญของ BIANCHET เพื่อฉลองการเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ของบูติคแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ทางwww.facebook.com/GaysornVillage/ และ LINE official @gaysornvillage