AIKON KMCH, one of MAURICE LACROIX Thailand Limited Edition
จากแนวคิดการทำตลาดของแบรนด์นาฬิกา MAURICE LACROIX ที่มุ่งเน้นถึงพฤติกรรมและสไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง สู่นาฬิการุ่นพิเศษที่พิจารณาและผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทยเท่านั้น ที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดนาฬิกาในไทย ที่ให้ความสำคัญกับ MAURICE LACROIX ในระดับสูง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงสไตล์และรูปแบบของแบรนด์ ที่มองเห็นถึงความแตกต่างและความต้องการของผู้คน ที่ชื่นชอบแบรนด์นาฬิกามากมายในตลาดสำหรับประเทศไทย
จาก MAURICE LACROIX AIKON Club Thailand Edition ที่นำเสนอในช่วงต้นปี 2023 และส่งมอบในปีเดียวกัน และต่อมากับนาฬิกา AIKON เช่นเดียวกันที่นำเสนอผ่านรูปแบบของ KMCH หรือโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพื่อวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับใช้ประโยชน์ในกิจการของโรงพยาบาลต่อไป โดยนาฬิกาในโปรเจ็คท์นี้เป็นในรูปแบบการจำหน่ายผ่านทาง MAURICE LACROIX แต่มีทางโรงพยาบาลเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ
จากพื้นฐานของนาฬิการุ่น AIKON 42mm ที่ถือเป็นนาฬิการุ่นยอดนิยมของแบรนด์ ที่ถูกนำมาปรับปรุงจากการออกแบบของเหล่ากูรูคนรักนาฬิกาและทางโรงพยาบาล ที่เห็นพ้องต้องกันว่าสีฟ้าเป็นสีที่เหมาะสำหรับโปรเจ็คท์นี้ จากแนวคิดของสีสันในท้องฟ้าอันสดใส อันเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาดและนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่ทางโรงพยาบาลมุ่งผลักดันให้เกิดขึ้น ทำให้สีฟ้าบลูสกายตามชื่อเรียกของทางโรงพยาบาล เป็นสีที่ถูกเลือกใช้ในแพนโทนสียอดนิยม และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบัน
พร้อมการปรับปรุงหน้าปัด จากรูปแบบหน้าปัดที่ไม่มีวันที่ ที่ไม่เคยมีในนาฬิการุ่นปกติ เพื่อให้สีสันดังกล่าวปูเต็มพื้นหน้าปัดได้อย่างต้องการ ผนวกด้วยเข็มวินาทีที่เดินกวาดเต็มหน้าปัดตลอดเวลา ในโทนสีส้ม (สีแคแสด) ซึ่งเป็นสีหลักของทางโรงพยาบาล รวมไปถึงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อันเป็นต้นสังกัดของโรงพยาบาลอีกด้วย และทำให้หน้าปัดนี้ดูมีเสน่ห์และแตกต่างออกไปจากเดิม จากสีส้มของเข็มวินาทีที่โดดเด่นออกมาจากหน้าปัดทันทีอย่างไม่ขัดตา
กับอีกจุดพิเศษที่ด้านหลังบนกระจกแซฟไฟร์ ที่มีการพิมพ์ภาพโครงร่างของโรงพยาบาล และออกแบบโดยสถาปนิกผู้ออกแบบโรงพยาบาลเอง เพื่อให้ได้ภาพที่ถูกต้องมากที่สุด และให้เป็นความทรงจำพิเศษสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ พร้อมหมายเลขประจำเรือนกำกับอยู่ด้านหลัง ในจำนวนการผลิตที่ 150 เรือนซึ่งจำหน่ายหมดในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งนาฬิกาเรือนพิเศษรุ่นนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ MAURICE LACROIX ให้ความสำคัญกับประเทศไทย และเชื่อแน่ว่าจะได้เห็นนาฬิการุ่นพิเศษ สำหรับประเทศไทยในปีนี้อีกอย่างแน่นอน
