PARMIGIANI Fleurier Tonda PF Micro-Rotor Steel Platinum
จากการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2021 พร้อมประสบความสำเร็จอย่างสูง ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน จนทำให้ไม่สามารถส่งมอบนาฬิการุ่นนี้ได้ภายในปีที่แรกที่มีการเปิดตัว PARMIGIANI Fleurier Tonda PF Micro-Rotor Steel Platinum ถือเป็นนาฬิการุ่นเอ็นทรี่ในกลุ่ม ที่มีการแนะนำสู่ตลาดในช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19 และยังถือเป็นนาฬิกาตัวเรือนสตีลที่มีราคาค่าตัวสูงกว่าเดิมที่เคยนำเสนอมา
แต่ด้วยความเป็นนาฬิกาในแบบสปอร์ตลักซ์ชัวรี่สมบูรณ์แบบ ทั้งจากรูปลักษณ์ตัวเรือนและสายแบบอินทิเกรด รวมไปถึงความบางของตัวเรือนและสาย รวมทั้งความเฉียบคมของหน้าปัดที่มีรายละเอียดอันน่าทึ่ง ทำให้นาฬิการุ่นนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงจากตลาดในทันทีที่เปิดตัว พร้อมได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากเกินกว่า 3 เท่าจากที่ประมาณการณ์ไว้ และทำให้กลายเป็นราคาที่มีราคาค่าตัวในตลาดสูงไปทันที
พร้อมอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่สำคัญของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Tonda PF นั่นก็คือขอบหน้าปัดที่ผลิตจากแพลตทินัม ที่ให้ความเงางามสูงและให้ความโดดเด่น กับทั้งหน้าปัดมากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ พร้อมกับรายละเอียดของร่องบนขอบตัวเรือนนี้ ที่ส่งผลให้นาฬิกาในภาพรวมมีรูปลักษณ์ ที่หรูหรามีระดับและทรงคุณค่า พร้อมกันกับองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดที่ทำให้นักสะสมและผู้ใช้งานทั่วโลกยอมรับ
PARMIGIANI Fleurier Tonda PF Micro-Rotor Steel Platinum มีขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตรที่ผลิตจากวัสดุสตีล พร้อมความหนาเพียง 7.8 มิลลิเมตร และมีองค์รวมที่ดูประณีตด้วยหน้าปัดสีเทา อันอบอุ่นพร้อมลวดลายหน้าปัดกิโยเช่ที่ละเอียด พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ PF703 ที่มีฟังก์ชั่นแสดงเวลาชั่วโมง นาที และวันที่ ให้ความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 100 เมตร
โดยกลไกคาลิเบอร์ PF703 นี้จะมีความบางเป็นพิเศษเพียง 3 มิลลิเมตร จากการใช้ไมโครโรเตอร์ที่ผลิตจากแพลตทินัม ที่ช่วยทำให้ไม่ต้องเพิ่มความหนาจากโรเตอร์ เพิ่มเติมจากชุดกลไกพื้นฐานอีก และทำให้ตัวเรือนโดยรวมมีความบาง เพื่อการสวมใส่ที่สะดวกบายพร้อมให้ความหรูหรา ทำงานที่ความถี่ระดับ 3 เฮริท์ซหรือ 21,600 รอบต่อชั่วโมง พร้อมให้พลังสำรองลานได้นานถึง 48 ชั่วโมง
กับชิ้นส่วนของชุดกลไกทั้งหมดรวมกันที่ 160 ชิ้น ส่วนภายนอกตัวเรือน จะกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่มีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนอรูนิค (ARunic) เพื่อการอ่านค่าเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุด แสดงเวลาด้วยเข็มรูปทรงเดลต้า บนหน้าปัดที่ผ่านการตกแต่งลวดลาย “กิโยเช่ เกรนดอร์จ” สีเทา พร้อมมาร์กเกอร์ที่ผ่านการชุบโรเดียม ที่ให้ความเงางามในทุกมุมมองของหน้าปัด
