Interview with ZENITH, Mr. Julien Tornare
iamwatch: ในบรรดานาฬิการุ่นต่างๆ ของ ZENITH นาฬิการุ่นไหนที่โดดเด่นที่สุดในความคิดของคุณครับ?
Mr. Tornare: เมื่อเราพูดถึงรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เราจะนึกถึงนาฬิการุ่น A386 หรือ Chronomaster Original อย่างแน่นอน เพราะนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นมรดกที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ พร้อมความโดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แม้ว่านาฬิการุ่น Chronomaster Sport จะเป็นหนึ่งในนาฬิการุ่นที่ประสบความสำเร็จมากมาย ตั้งแต่การเปิดตัวล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงต้องจับตาดูนาฬิการุ่นนี้กันต่อไป ในฐานะของนาฬิกาเรือนที่โดดเด่นที่สุดจาก ZENITH ในอนาคตอันใกล้
iamwatch: ประวัติของนาฬิกา ZENITH ในอุตสาหกรรมนาฬิกาถือเป็นหนึ่งในเรื่องราว ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้คน คุณจะสามารถบรรยายเรื่องนี้เป็นประโยคสั้นๆ ได้ไหมครับ?
Mr. Tornare: ในปี 1975 เมื่อ ZENITH ตัดสินใจหยุดการผลิตกลไก El Primero แล้วนั้น Mr. Charles Vermot ช่างนาฬิกาผู้หลงใหลในการทำงานของแบรนด์ ก็ตัดสินใจอย่างกล้าหาญในการซ่อน El Primero ไว้อย่างลับๆ ทั้งชุดกลไกและเครื่องมือในห้องใต้หลังคา เป็นเวลาห้าปีจนกระทั่งเมื่อผู้บริหารของ ZENITH ต้องการนำชุดกลไกเหล่านั้นมาผลิตใหม่ในปี 1980 ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์นี้ ด้วยการสำรวจห้องใต้หลังคาที่ยังหลงเหลืออยู่ในสภาพดั้งเดิมตั้งแต่ปี 1975 ณ โรงงานของเราในเลอโลค ที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น
iamwatch: กลไกของ ZENITH ถือเป็นหนึ่งในกลไกที่ดีที่สุดในโลก คุณมีแผนการที่จะแบ่งปันกลไกให้กับนาฬิกาแบรนด์อื่น นอกเหนือจากในกลุ่ม LVMH ในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่?
Mr. Tornare: เรื่องนี้จะไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังวางแผนการกันในวันนี้แน่นอน เนื่องจาก ZENITH ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของกลไกที่ในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในความพิเศษแบรนด์ อย่างที่แบรนด์อื่นๆ อาจไม่มี
iamwatch: สำหรับนาฬิการุ่น Defy และรุ่น Chronomaster ทั้งคู่ให้ความรู้สึกเหมือนนาฬิกาสปอร์ต คุณสามารถแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของนาฬิกา 2 รุ่นนี้ในแง่ของความเป็นนาฬิกาสปอร์ตได้ไหม?
Mr. Tornare: นาฬิกาในคอลเลคชั่น Defy ถือเป็นสัญลักษณ์ของกลไกที่มีการทำงานในความถี่ที่สูง โดยเฉพาะกับรุ่น Defy Skyline ที่เราเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ ในทางกลับกันนาฬิกาในคอลเลคชั่น Chronomaster ถือเป็นการหวนรำลึกถึงความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์จากในอดีต พร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยสำหรับยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้งสองคอลเลคชั่นต่างก็เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกวัน และยังเป็นนาฬิกาในแบบยูนิเซ็กซ์ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศอีกด้วย
iamwatch: ตลาดเอเชียถือเป็นตลาดที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมนาฬิกาในขณะนี้ คุณมีแผนการอะไรสำหรับประเทศไทย เพื่อให้แบรนด์ ZENITH เติบโตต่อเนื่องในปี 2022 นี้?
Mr. Tornare: เอเชียเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับ ZENITH และอุตสาหกรรมนาฬิกาในภาพรวม โดยเราวางแผนที่จะขยายตลาดสำหรับประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการจัดจำหน่ายและการพัฒนาประสบการณ์ของแบรนด์ ไปสู่ลูกค้าต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
iamwatch: โซเชียลมีเดียถือเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนไทย คุณมีแผนจะโปรโมทแบรนด์ผ่านช่องทางเหล่านี้ไหมในอนาคตอันใกล้นี้?
Mr. Tornare: โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเติบโตของ ZENITH โดยเฉพาะด้านการรับรู้ ขณะนี้เรากำลังสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับโซเชียลมีเดียของเรา เพื่อนำไปสู่การขยายไปยังตลาดและผู้คนกลุ่มใหม่ๆ รวมไปถึงการสำรวจวิธีการใหม่ๆ ด้านการสื่อสาร